ความเคลื่อนไหว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สู่ฉลองวันเกิด 51 ปี ครั้งแรกในต่างแดน

ที่มาภาพ : ดร.จรัล อัมพรกลิ่นแก้ว, จอม เพชรประดับ

จนถึงตอนนี้ อาจนับได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังจากชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปี 2554 และยังพ่วงด้วยผู้หญิงคนแรกที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม แต่ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงปลายปี 2556 ในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่ง นำไปสู่การรัฐประหาร วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ได้ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีหลายคนตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตอย่างโครงการรับจำนำข้าว

ตลอด 3 ปีที่ยิ่งลักษณ์ใช้ชีวิตหลังถูกยึดอำนาจ การดำเนินคดียังคงเดินตามติดไปพร้อมกับเธอ ทุกครั้งที่ยิ่งลักษณ์เดินทางไปศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็จะได้รับดอกกุหลาบและของฝากจากประชาชนผู้สนับสนุนมารอให้กำลังใจเสมอ

จนกระทั่งถึงวันตัดสินคดี 25 สิงหาคม 2560 น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับไม่ปรากฎตัวและทราบแต่เพียงว่าได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว

 

การไม่ปรากฎตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ นำไปสู่การออกหมายจับในวันเดียวกันและจนมาถึงวันที่ 27 กันยายน 2560 ศาลพิพากษาให้จำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา และข่าวคราวเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกก็หายไป พร้อมกับเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Yingluck Shinawatra” ไม่มีความเคลื่อนไหวมานับตั้งแต่นั้น

ทางรัฐบาล คสช. รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เร่งออกตามหาตัวพร้อมกับเผชิญคำถามจากสื่อและสังคม รวมถึงฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีออกนอกประเทศไปได้อย่างไร โดย พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้กล่าวหลังสื่อถามย้ำต่อคำถามดังกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดังว่า “ใครจะไปปล่อย จะไปปล่อยได้ยังไง ทำไมคิดแบบนี้”

ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมปีที่แล้วว่า “ได้ร้องขอให้อินเตอร์โพล หรือตำรวจสากล ออกหมายแดงเพื่อให้ 192 ประเทศสมาชิกทั่วโลก จับกุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังประเทศอังกฤษ พร้อมกับส่งหมายจับให้อินเตอร์โพลพิจารณาออกหมายแดงของอินเตอร์โพล เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์มีหมายจับแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอินเตอร์โพล นอกจากนี้ ยังได้รายงานการพิจารณาขอหมายแดงจับกุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่ออัยการสูงสุด

หากทางอินเตอร์โพลอนุมัติหมายแดง ตำรวจในประเทศที่เป็นสมาชิกสามารถจับกุมได้ทันที อย่างไรก็ตาม ไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ในข่ายที่ออกหมายแดงได้หรือไม่”

 

ที่มาภาพ : ดร.จรัล อัมพรกลิ่นแก้ว

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 21 มิถุยายน ปีที่แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาทำบุญวันเกิดที่วัดสระเกศ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวประโยคหนึ่งกับสื่อว่า

“ดิฉันขอขอบคุณ ในสิ่งที่เมตตาคนชื่อยิ่งลักษณ์มาตลอด แล้ว ‘หวังว่าจะได้มีโอกาสขอบคุณทุกคนด้วยตัวเองที่ประเทศนี้’ และได้มีโอกาสมาทำบุญร่วมกันแบบนี้”

ประโยคดังกล่าว สร้างความสงสัยว่ายิ่งลักษณ์กำลังบอกอะไร จนมาถึงวันที่เดินทางออกนอกประเทศ

 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีความเคลื่อนไหวมาตลอดหลายเดือน ยกเว้นทวิตข้อความของดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพี่ชายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ถูกรัฐประหารล้มรัฐบาลไปเมื่อ 19 กันยายน 2549 ที่สื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะทวิตข้อความหลังการหายไปของน.ส.ที่ว่า “ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม” กลายเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายนำไปถกเถียงให้ความเห็นกันหลายทาง

ในขณะที่ทางพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ออกมาเปิดเผยความเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ ยกเว้นแหล่งข่าวภายในที่ออกมาเปิดเผยเพียงบางส่วนว่า ปลายทางของยิ่งลักษณ์คือประเทศอังกฤษ

แต่แล้วในเดือนธันวาคม 2560 ได้มีภาพไม่กี่ใบถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียลที่ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปรากฎตัวในสรรพสินค้าชื่อดังในกรุงลอนดอนของอังกฤษ 

 

การปรากฎตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์กลางกรุงลอนดอน ได้ทำให้การเมืองไทยถึงกับสั่นสะเทือน ตั้งแต่รัฐบาล คสช.จนถึงประชาชนที่รอคอยข่าวคราวต่างแสดงปฏิกิริยาที่หลากหลาย และตามมาด้วยการเผยแพร่ภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์คู่กับดร.ทักษิณ พี่ชายจากญี่ปุ่น ปักกิ่งของจีน สู่สิงคโปร์ ดูไบ สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ

และข้อสังเกตที่ตามมาคือ ไม่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ในรายชื่อตามหมายจับของตำรวจสากล

 

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2561 คนใกล้ชิดอดีตนายกฯ เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้วีซ่าเข้าพำนักในอังกฤษเป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งมีเสรีภาพในการเดินทางมากกว่าสถานะ “ผู้ลี้ภัย” ของอังกฤษ นั้นทำให้ยิ่งลักษณ์สามารถใช้ชีวิตและปรากฎตัวผ่านภาพบนโลกโซเชียลได้มากกว่าในฐานะผู้ลี้ภัย

และวันที่ 21 มิถุนายน ปีนี้ ยิ่งลักษณ์จะมีอายุครบ 51 ปี แต่นั้นจะเป็นการฉลองวันเกิดครั้งแรกในต่างแดน โดยดร.ทักษิณประกาศพร้อมจัดเต็ม

เป็นเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางเยือนอังกฤษเพื่อเข้าพบ นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญ

 

นายจอม เพชรประดับ อดีตสื่อมวลชนที่ลี้ภัยทางการเมืองมาอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความเนื่องในโอกาสวันเกิดปีที่ 51 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า “หลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมมีโอกาสได้พบคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคนตัคกี้ (Kentucky) อเมริกา วันที่เธอและพี่ชาย คุณทักษิณ ชินวัตร ไปเยี่ยมมหาวิทยาลัย Kentucky มหาวิทยาลัยที่ทั้งสองท่านเคยสำเร็จการศึกษามา

มีผู้คนมาพบปะกันเยอะแยะมากมาย บวกกับภารกิจของผมเองที่วุ่นวาย และมีเวลาอันจำกัด เลยไม่ได้จับเข่าพูดคุย ถามไถ่ในหลายประเด็นที่อยากถาม  โดยเฉพาะคำถามใหญ่ที่ว่า ทำไมจึงตัดสินใจหนีออกมาจากประเทศไทย

แต่ในวงสนทนาวันนั้นมีผู้นำมาเล่าให้ฟังว่า มีคนถามคำถามนี้ด้วยเช่นกัน คำตอบจากส่วนลึกในห้วใจของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยบอกว่า “เธอไม่คิดจะหนี และพร้อมที่จะเดินเข้าคุก เพราะเธอยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะยังดำรงความเป็นธรรมให้กับเธอ และเธอก็ยืนยันเรื่องนี้มาโดยตลอด”

ถึงตรงนี้เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางวงสนทนาทันทีว่า “แต่ผมจะไม่ยอมให้น้องสาวผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว” 

และนี่คือประตูเปิด. เส้นทางการลี้ภัยออกจากประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่สองที่จำต้องลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศ
เข้าใจ และเห็นใจ ทั้งสองอดีตนายกฯ

พีี่ชาย – ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตน้องสาวไม่เพียงเพราะสายเลือดเดียวกัน แต่ด้วยเพราะเป็นผู้นำพาน้องสาวเข้าสู่สมรภูมิการเมืองที่เข่นฆ่ากันอย่างบ้าคลั่งในประเทศไทย จะทำใจ..และจะมีลมหายใจอยู่ได้อย่างไร ในวันที่น้องสาวต้องเดินเข้าคุก

และ ณ วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนเส้นทางผู้ลี้ภัยของอดีตนายกรัฐมนตรีไทยทั้งสองท่าน
ทุกวันเวลาที่ผ่านไป กับการใช้ชีวิตใหม่ในแผ่นดินประเทศอื่น ผมยังคงเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความร่าเริง เพิ่มมากขึ้น ไม่เหมือนกับ”คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อสี่ปี่ก่อนในประเทศไทย

ดีใจที่เห็นเธอมีความสุข ดีใจที่เธอมีครอบครัวที่ดี มีพี่ชายที่รักเธออย่างที่สุด และดีใจที่เธอยังคิดถึงประเทศไทย และคนไทยผู้รักประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลา”

 

การเคลื่อนไหวของพี่น้องคู่นี้ ได้สร้างผลทางจิตวิทยาไม่ว่ากับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองตระกูลชินวัตร หรือทางพรรคเพื่อไทย รวมถึงประชาชนที่สนับสนุนและยังรักศรัทธา 2 อดีตนายกรัฐมนตรี และยังแสดงให้เห็นว่า การเมืองไทย ไม่อาจลบชื่อ “ยิ่งลักษณ์และทักษิณ ชินวัตร” ออกจากความทรงจำในตอนนี้ได้

ไม่ว่าจะถูกเรียกว่า “ผู้ต้องหาหนีคดี” “คนโกง” หรือ “นายกฯหญิง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย