หลังเลนส์ในดงลึก /ปริญญากร วรวรรณ/’กองไฟกับสายลม’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
นกเงือกคอแดง - หน้าที่ของนกเงือกคอแดง ไม่เพียงแพร่พันธุ์ไม้ แต่ยังทำหน้าที่กำจัดแมลงและสัตว์เล็กๆ ด้วย

หลังเลนส์ในดงลึก /ปริญญากร วรวรรณ

 

‘กองไฟกับสายลม’

 

ทิวเขาด้านป่าตะวันตก

บนสันเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,100 เมตร

ต้นเดือนพฤษภาคม

ฝนตกหนักมาราวหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าคำรามครืนๆ แสงสว่างจากฟ้าแลบส่องเป็นช่วงๆ บรรยากาศมืดสลัว แต่ยังพอมีแสงอยู่บ้าง แม้จะเป็นเวลาใกล้หนึ่งทุ่ม

ผมก้าวเท้าขึ้นบนสันเขา ซึ่งมีที่ราบยาวสัก 50 เมตร ก่อนถึงบนนี้ ทางลื่นไถลชันเกือบ 90 องศา

มองเห็นรางๆ อยู่ในสายฝน คือผ้ายางสีเทาที่กำลังถูกกระแสลมตีพึ่บพั่บ ผมร่วมมากับทีมสำรวจหารังนกเงือกคอแดง

เพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ขึ้นมาถึงแล้ว พวกเขาขึงผ้ายางกันฝนวางสัมภาระ

สภาพรอบๆ คือต้นก่อลำต้นเปียกชุ่ม ไหวเอนเพราะแรงลม

 

ผมวางเป้ใต้ผ้ายาง มันกันฝนไม่ได้มากนักในสภาพลมแรงอย่างนี้ เสื้อผ้าเปียกชุ่ม ฝนเริ่มต้นขณะไต่อยู่บนทางชัน ทำให้คร้านเกินกว่าจะปลดเป้อันหนักอึ้งจากหลัง เพื่อสวมเสื้อกันฝน ของในเป้อยู่ในถุงกันน้ำ ป้องกันความเปียกชื้นได้

ดูเหมือนจะเป็นความคร้านที่ผิดมหันต์ เสื้อผ้าเปียกๆ สายลมพัดแรง บนสันเขาที่สูงกว่าพันเมตร ร่างกายจึงพบกับความหนาวเย็น สั่นสะท้าน มือขาวซีด เห็นชัดในความสลัว

เราช่วยกันเดินหาฟืนก่อไฟ ไม้ฟืนเปียกๆ นั้นเราต้องใช้มีดถากเปลือกออก และตัดซอยออกเป็นชิ้นเล็กๆ

ท้องฟ้ามืด ไฟเริ่มติด สายฝนยังโปรยปราย ลมแรงๆ เป็นผลดี กองไฟได้รับลม ไม้เปียกลุกไหม้ต่อเนื่อง

ผมขยับเข้าใกล้กองไฟ ยกมือขึ้นอัง หนาวเย็นกระทั่งมือชา ร่างกายที่สั่นสะท้านอบอุ่นขึ้น

ในสภาพนั้น ผมไม่รู้หรอกว่าฝนจะหยุดเมื่อไหร่

คล้ายกับว่า ยังอีกยาวนานเหลือเกิน

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะผ่านคืนนี้ไปอย่างไร

 

สองวันก่อนหน้า

ขณะเรากำลังซื้อเสบียงอยู่ในตลาด

“อัสลา มู อาลัยกุม” อูมาส่งเสียงมาจากเขาบูโด

“วาอะลัย กุมุ สลาม” ผมตอบอย่างยินดีที่เขาโทร.มา

“เรากำลังเฝ้านกอยู่บนเขา เป็นอย่างไรบ้าง คิดถึง” อูมาพูดพลางหัวเราะ เขาจะหัวเราะกับทุกเรื่องได้เสมอ บนเขาบูโดมีสัณญาณโทรศัพท์เกือบทุกจุด

“พวกเราปลอดภัยดี แต่สถานการณ์ไม่ดีเลย วันก่อนมีเด็กถูกยิงที่สะพานก่อนเข้าหมู่บ้าน”

ผมหลับตาเห็นสภาพทางเข้าหมู่บ้านที่มีทั้งโรงเรียนและมัสยิดอยู่ใกล้ๆ กัน

เราคุยกันนาน ผมถามถึงคนโน้นคนนี้ ผมจากที่นั่นมานาน และกำลังจะไปทำงานที่นั่นอีก ข่าวร้ายๆ ที่ได้ยินคล้ายจะรุนแรง หลายเรื่องดูยิ่งรุนแรงเมื่อรับฟังจากที่ไกลๆ

อูมาและเพื่อนๆ ยังใช้ชีวิตไปตามปกติ เช่นเดียวกับเหล่านกเงือกบนภูเขา

“เดือนธันวาลงมากินลองกองนะ” อูมากับผมเคยใช้เวลาในสวนลองกองเป็นวันๆ

“ฝนตกทุกวัน เหมือนตอนที่เราติดอยู่บนเขาที่มัสบูดอยู่ด้วย” เขาพูดถึงครั้งที่เราอยู่ในแคมป์ และโดนล้อมด้วยสายฝน

ฝนในป่าทิวเขาบูโด เมื่อถึงเวลาตก ก็ราวกับจะไม่หยุดอีกแล้ว

“แล้วพบกันนะ” อูมาพูด

“ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง” ผมพูดด้วยภาษาไทย

“ซามอ ซามอ” เขาตอบ หมายความว่าเช่นกัน ในภาษายาวี

เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ “เหตุการณ์ร้ายๆ” จะยุติ

แต่เราเชื่อว่า วันหนึ่ง เสียงปืน เสียงระเบิดจะหายไป สิ่งที่เหลือคือเสียง “อาซาน” ที่ดังมาจากมัสยิด

เสียงอาซานที่ดังมานาน และจะคงอยู่ตลอดไป

 

นอกจากรังนกเงือกคอแดง ผมตามหาร่องรอยสมเสร็จด้วย

“ผมว่า สมเสร็จมันแปลกๆ นะครับ” นักวิชาการด้านสัตว์ป่าคนหนึ่งให้ความเห็นกับผม

“เราพบมันได้ตั้งแต่ในป่าดิบชื้น ที่ลุ่มน้ำ จนถึงบนสันเขาสูงๆ” เขาพูดต่อ

“ผมเคยเจอรอยใหม่ๆ เดินตามไปทั้งวัน มันไม่หยุดเลยครับ”

ป่าดิบชื้นทางใต้ของประเทศไทย คือแหล่งอาศัยของสมเสร็จ แต่จากการสำรวจประชากรสัตว์ป่า พบว่ามีสมเสร็จจำนวนไม่น้อยอยู่ทางป่าด้านตะวันตก

จากป่าบูโด ผมกลับขึ้นมาตามพวกมันในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและป่าทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก และป่าห้วยขาแข้ง

เราได้ภาพสมเสร็จมากจากการวางกล้องดักถ่ายภาพบนสันเขา

วันนี้ จากหุบ เราใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงจนถึงบริเวณสันเขา

สายฝนหนาทึบราวกับจะไม่มีวันหยุด

มือขาวซีด หนาวสั่นสะท้าน

ว่าตามจริง ผมไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดความตั้งใจจึงจะประสบผล

ในระหว่างนี้ สิ่งที่รู้ คล้ายมีอย่างเดียวว่า อยู่บนโลกใบนี้ ผมรู้อะไรบ้าง

สิ่งที่คิดว่า “รู้” ดูเหมือนจะมีไม่มากเลย

 

สองชั่วโมงต่อมา ฝนเบาบางและหยุด

ท้องฟ้าแจ่มใสราวกับช่วงเวลาที่ผ่านมาเราไม่ได้อยู่ท่ามกลางพายุฝน ดวงจันทร์ครึ่งดวงทอแสงนวล โดยรอบเหลือเพียงสายลมแรง ยอดไม้ก่อไหวเอน

เปลวไฟเอนลู่ สะเก็ดไฟปลิวว่อน

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดแห้ง เสื้อกันหนาวให้ความอบอุ่น

ผูกเปล ใช้ผ้ายางกันลมด้านข้าง แทนการกางไว้ด้านบน จากบนเปลผม นอนอยู่ใต้ดวงจันทร์ งดงาม

หลังพายุฝน ท้องฟ้าจะงามแจ่มใส

ไม่ใช่เพียงคำที่พูดต่อๆ กันมา แต่คือภาพจริงที่ปรากฏให้เห็น

วันหนึ่งเมื่อพายุฝนเคลื่อนผ่าน ดวงจันทร์ดวงนี้ย่อมส่องแสงนวลถึงทิวเขาที่อูมาอยู่เช่นกัน

 

ผมลดสายตาลงมาที่กองไฟ สายลมพัดแรงเปลวไฟเอนลู่ ความอบอุ่นส่งถึงเปล

ลูกไฟแตกกระจาย ฟืนที่เราเอามาวางไว้ข้างกองไฟแห้งสนิท

คืนนี้ผมรู้อย่างหนึ่ง แม้ว่าจะมีแต่ไม้ฟืนเปียกชุ่มน้ำ

หากไม่พยายามก่อไฟให้ติด

เราคงต้องพบกับสายลมอันเย็นยะเยือกไปตลอดคืน