เขย่าสนาม/จริงตนาการ/’สกอตแลนด์’ ใน ‘ยูโร 2020’ แรงผลักดันแยกตัวสหราชอาณาจักร

เขย่าสนาม/จริงตนาการ [email protected]

‘สกอตแลนด์’ ใน ‘ยูโร 2020’

แรงผลักดันแยกตัวสหราชอาณาจักร

 

สกอตแลนด์ ยุติการรอคอย 22 ปีที่ไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลรายการเมเจอร์ หลังจากกรุยทางคว้าตั๋วลุยฟุตบอลยูโร 2020 ได้สำเร็จ

ครั้งสุดท้ายที่ขุนพลขี้เมาได้ลงเตะในรายการเมเจอร์ คือฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ถ้าเป็นยูโร ต้องย้อนไปในปี 1996 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ

การได้ไปยูโรครั้งนี้มีผลต่อการเมืองในระดับที่น่าสนใจ เพราะสกอตแลนด์มีแผนที่จะแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร หลังจาก นิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีได้รับเลือกให้เป็นรัฐบาลสมัยที่ 4 ก็ได้ยืนยันว่าสนับสนุนแนวทางการแยกตัวจากสหราชอาณาจักรอยู่แล้ว

สกอตแลนด์ต้องการกลับไปอยู่ในสหภาพยุโรป (อียู) เพราะสหราชอาณาจักรประกาศแยกตัวออกมาหลังจากการโหวตเบร็กซิท

แต่คนสก๊อตอยากจะกลับเข้าไปเพื่อไปใช้มาตรฐานที่ดีที่อียูร่วมคิดร่วมสร้างกันมา

 

ศาสตราจารย์อีเว่น คาเมร่อน ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์สกอตแลนด์ ของมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาฟุตบอลทีมชาติสกอตแลนด์ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งประเทศ เพราะไม่ค่อยผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลรายการใหญ่

ต่างกับรักบี้ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทำให้รักบี้เป็นกีฬาคนสก๊อตสนใจมากกว่า

แต่การที่ทีมฟุตบอลผ่านเข้าไปเล่นในยูโร 2020 เป็นครั้งแรกที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย รายการใหญ่ในรอบ 22 ปี ส่งผลให้ฟุตบอลเรียกกระแสกลับมาเป็นกีฬาขวัญใจของประเทศได้อีกครั้ง เหมือนในทศวรรษ 70 และ 80

“การที่ฟุตบอลทีมชาติประสบความสำเร็จเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนในประเทศได้ และคนสก๊อตเองก็มองว่าตัวเองเทียบเท่ากับคนอังกฤษแล้ว” ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์กล่าว

นั่นหมายถึงว่าคนสก๊อตไม่ได้มองว่าตัวเองด้อยกว่าอังกฤษมานานแล้ว เพียงแค่หาเหตุผลและองค์ประกอบต่างๆ มาสนับสนุนความรู้สึกของตัวเองให้มากขึ้นก็เท่านั้น

ไม่ใช่แค่การได้ไปยูโร แต่สกอตแลนด์ก็เป็นหนึ่งในประเทศเจ้าภาพยูโรครั้งนี้ด้วย เหมือนที่อังกฤษเป็น เป็นการแสดงให้เห็นว่า ข้ากับเอ็งก็เจ๋งพอๆ กัน

 

เอียน แมกซ์เวลล์ ซีอีโอของสมาคมฟุตบอลสกอตแลนด์ กล่าวว่า ควรใช้โอกาสที่ได้กลับไปแข่งขันยูโรเป็นแรงผลักดันให้ไปได้ไกลกว่านี้ ไม่ใช่แค่มีความสุขกับยูโร 2020 แล้วกลับสู่จุดเดิม

จุดที่วงการฟุตบอลสกอตแลนด์พยายามทำ คือการสร้างนักเตะเยาวชนให้แข็งแกร่ง และไม่ลืมว่าตัวเองมีเชื้อสายสกอตติช มีบรรพบุรุษที่เคยเล่นฟุตบอลในสกอตแลนด์ ถึงแม้จะไปเติบโตอยู่ในอังกฤษก็ตาม

สกอตต์ เกมมิลล์ ผู้จัดการทีมสกอตแลนด์ ยู 21 คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกชายของ อาร์ชี่ เกมมิลล์ อดีตนักเตะที่เคยยิงประตูแห่งความทรงจำใส่เนเธอร์แลนด์ ในฟุตบอลโลก 1978 บอกว่า ทีมชาติชุดปัจจุบันจะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้นักเตะเยาวชน และอยากให้นักเตะเยาวชนทีมชาติมีโอกาสในการพัฒนาตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อเอานักเตะดาวรุ่งที่มีอยู่ในตอนนี้ไปเทียบกับประเทศยักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอล สกอตแลนด์ยังคงตามหลังอยู่ และต้องลงเล่นให้มากกว่าเพื่อยกระดับฝีเท้าให้ใกล้เคียงกับคู่แข่งที่อยู่เหนือกว่า

“ผมมีลูกชายสองคน แต่ทั้งคู่อยู่ที่อังกฤษ ลูกๆ รู้ว่าผมเล่นฟุตบอล ปู่ของเขาก็เล่นฟุตบอล มันเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา รวมทั้งการเข้ารอบยูโร 2020 ก็มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเด็กๆ ที่มีเชื้อสกอตติชเช่นกัน”

เกมมิลล์ จูเนียร์ กล่าว

 

การเจอกันระหว่างอังกฤษกับสกอตแลนด์ในเกมฟุตบอลถือเป็นศึกที่ดุเดือดเสมอ ไม่ว่าแมตช์นั้นจะมีผลต่อการเข้ารอบตกรอบหรือไม่ เพราะมันเป็นเรื่องของจิตใจและศักดิ์ศรี ถึงแม้ว่าทั้งสองประเทศจะอยู่ร่วมกันในนามสหราชอาณาจักร แต่กลับไม่ได้มีความรู้สึกร่วมกันในทุกเรื่อง

การเจอกันอีกครั้งในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้าย ในวันที่ 18 มิถุนายน ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน เป็นอีกครั้งที่แฟนบอลทั้งสองทีมรอคอย เพราะมันมีค่ามากกว่า 3 แต้มในการลุ้นเข้ารอบต่อไป

ยิ่งเอาเรื่องที่ศาสตราจารย์อีเว่น คาเมร่อน วิเคราะห์มารวมกัน น่าจะเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้กับความรู้สึกของชาวสก๊อตมากไปกว่าเดิม การแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรอาจจะเป็นจริงได้ในอีกไม่นาน แต่กว่าจะผ่านกระบวนการต่างๆ ไปถึงตรงนั้น ก็คงต้องฝ่าฟันกันอีกไม่น้อย

ในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ คนสก๊อตอาจจะไม่ได้รังเกียจรังงอนกับการอยู่เป็นสหราชอาณาจักร แต่ในเรื่องของฟุตบอลมันชัดเจนมากว่า สกอตแลนด์ คือ สกอตแลนด์ ที่ไม่ไว้หน้าใคร โดยเฉพาะอังกฤษ