วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวันแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทีมลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์เอาไปฉลองอย่างสมใจที่รอคอยถึง 30 ปี

เจอร์เก้น นอร์แบร์ต คล็อปป์ (J?rgen Norbert Klopp) ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันวัย 53 ปี พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกครั้งแรกทั้งของสโมสรและของตัวเขาเอง ภายหลังรับงานคุมทีมต่อจากเบรนแดน ร็อดเจอร์ส (Brendan Rodgers) เมื่อเดือนตุลาคมปี 2015

สัปดาห์นี้ผมมีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเจอร์เก้น คล็อปป์ ทั้งในมุมที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลและเรื่องชีวิตส่วนตัวมาเล่า…

 

การที่คล็อปป์ได้รับการติดต่อจากทีมลิเวอร์พูลให้เป็นผู้จัดการทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องผลงานการคุมทีมที่เขาสร้างไว้อย่างหรูหราน่าทึ่งกับโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์เพียงอย่างเดียว

เป็นที่ทราบกันดีว่า จอห์น ดับเบิลยู. เฮนรี่ (John W. Henry) เจ้าของทีมลิเวอร์พูลชาวอเมริกัน สนใจเรื่องศาสตร์การศึกษาชื่อ (Onomastic)

ชื่อกลางของคล็อปป์คือ “นอร์แบร์ต” (Norbert) ในภาษาเยอรมันแปลว่าแสงสว่างทางทิศเหนือ (north+bright)

จอห์น เฮนรี่ จึงเชื่อว่าการเลือกเจอร์เก้น คล็อปป์ มาเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล จะนำแสงสว่างมาสู่ทีมลิเวอร์พูลซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ

 

นอกจากเรื่องชื่อของคล็อปป์ สิ่งที่อาจเป็นปัจจัยทำให้เขาเหมาะสมกับการรับงานที่ลิเวอร์พูลก็คือตอนที่เอียน อายร์ (Ian Ayre) ซีอีโอของลิเวอร์พูลในขณะนั้นถามคล็อปป์เล่นๆ เกี่ยวกับ The Beatles วงดนตรีระดับตำนานของโลกชาวลิเวอร์พูลว่า ใน 3 อัลบั้มเพลง ได้แก่ Revolver, Sgt. Pepper”s Lonely Hearts Club Band และ The White Album คล็อปป์ชอบอัลบั้มไหนมากที่สุด?

คล็อปป์ตอบไปว่า “My favorite Beatles” album is always the next one.”

แปลเป็นไทยว่า “อัลบั้มของ The Beatles ที่ผมโปรดปรานคืออัลบั้มถัดไปเสมอ”

คือไม่ว่าจะออกมากี่อัลบั้ม ก็โดนใจเขาทั้งหมด ชอบแม้กระทั่งอัลบั้มที่ยังไม่ได้ทำ ชอบโดยไม่มีเงื่อนไข ว่างั้นก็แล้วกัน

 

คําถามต่อมาคือ เขาเคยไปชมการแสดงสดของ The Smiths วงดนตรีที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในยุค 80 หรือเปล่า ซึ่งคล็อปป์ตอบว่า “ผมขอแยกตอบก็แล้วกันนะครับ”

“อย่างแรก ในยุค 80 ผมเคยชมการแสดงสดของวงดนตรีที่ดีที่สุดคือวง Echo & The Bunnymen (วงดนตรีจากเมืองลิเวอร์พูล) ที่ Royal Court Theatre เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 1983”

“ส่วนวง The Smiths ผมไม่เคยไปดูซักที”

คำตอบของคล็อปป์คงกระแทกใจผู้บริหารทีมลิเวอร์พูลเข้าไปแบบเต็มๆ เพราะเดอะสมิธส์ เป็นวงดนตรีชาวเมืองแมนเชสเตอร์!!!!

 

หลังจากที่คล็อปป์ตอบตกลงรับงานคุมทีมลิเวอร์พูลวันที่ 8 ตุลาคม 2015 และเตรียมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเช้าวันศุกร์ เขาได้แวะไปเยี่ยม The Cavern Club ไนต์คลับระดับตำนานของเมืองลิเวอร์พูลซึ่งเป็นสถานที่ให้กำเนิดวง The Beatles

ในระหว่างที่ไกด์กำลังบรรยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคลับแห่งนี้ว่า “ได้รับแรงบันดาลใจมาจากย่านเพลงแจ๊ซในกรุงปารีส ซึ่งอลัน ซิตเนอร์ (Alan Sytner) ได้เปิดคลับแห่งนี้ในปี…”

คล็อปป์ก็แทรกขึ้นมาว่า “1957” ทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง นี่มันแฟนพันธุ์แท้เดอะบีตเทิลส์ชัดๆ คล็อปป์ก็ได้ใจชาวเมืองลิเวอร์พูลไปอีกเต็มๆ

 

คล็อปป์เคยบอกกับบิลด์ (Bild) หนังสือพิมพ์รายวันยักษ์ใหญ่ของประเทศเยอรมนีว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์ Bollywood โดยเฉพาะเรื่อง “โชเล่ย์” (Sholay) ออกฉายเมื่อปี 1975 ซึ่งเป็นภาพยนตร์สุดโปรดตลอดกาลของเขา

ตัวละครที่คล็อปป์ชื่นชอบในภาพยนตร์เรื่องนี้คือกับบาร์ ซิงห์ (Gabbar Singh) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดดาวร้ายในวงการภาพยนตร์อินเดีย

นอกจากนี้ บุคลิกและรูปลักษณ์ของคล็อปป์ละม้ายเหมือนอมิตาภ พัจจัน (Amitabh Bachchan) พระเอก ผู้กำกับฯ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดังชาวอินเดียที่เขาชื่นชอบ

 

คล็อปป์เคยมีผลงานพากย์เสียงให้กับตัวประกอบในการ์ตูนตลกที่ฉายทางช่อง Netflix เรื่อง Bojack Horseman (โบแจ๊ก ฮอร์สแมน)

หลังจากวันนั้นคล็อปป์ก็ติดใจงานพากย์เสียงและไปออดิชั่นเพื่อจะพากย์เสียงเป็นวู้ดดี้ (Woody) ตัวละครหลักในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Toy Story 4

แต่น่าเสียดาย ที่สุดท้ายทอม แฮงก์ส (Tom Hanks) คือคนที่ได้รับบทพากย์เสียงเป็นวู้ดดี้

 

ตลอด 7 ปีที่เขาคุมทีมดอร์ตมุนด์ (2008-2015) และคว้าแชมป์ได้ 6 รายการ ทุกคนมักจะสังเกตเห็นคล็อปป์ออกจากสนามเหย้าของดอร์ตมุนด์และเดินกลับบ้านหลังจากจบการแข่งขันเป็นประจำ

คล็อปป์บอกว่า การเดินทำให้เขามีเวลาได้คิดทบทวนการเล่นที่ผ่านมาเมื่อกี้นี้ของลูกทีม

เขาชอบการเดินระยะไกลมากถึงขั้นเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องการเดินในระหว่างที่เขากำลังศึกษาอนุปริญญาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกอเธ่แห่งเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Goethe-Universit?t Frankfurt)

ชื่อ “Walking – Inventory and evaluation of a sport for all”

 

เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมแห่งปีของเยอรมัน 2 สมัยซ้อนในปี 2011 และ 2012

ความโด่งดังของคล็อปป์ในยุคนั้น ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของศิลปินนักดนตรีถึงขนาดแต่งเพลงเป็นของขวัญให้

โดยมัตเซอ น็อพ (Matze Knop) นักแสดงตลกและนักแต่งเพลงแนวประหลาดชาวเยอรมันได้ปล่อยเพลงเกี่ยวกับคล็อปป์ออกมา 2 เพลง คือ “I Wanna Be Like Jurgen Klopp” (“ผมอยากจะเป็นอย่างเจอร์เก้น คล็อปป์”)

และ “Kloppo You Rockstar” (“คล็อปโป้ คุณคือร็อกสตาร์”)

 

คล็อปป์มีชื่อเสียงในเรื่องการแสดงความดีใจเวลาลูกทีมยิงประตูได้ เรามักจะเห็นการดีใจที่แบบสุดเหวี่ยงของคล็อปป์บ่อยครั้งตั้งแต่สมัยคุมดอร์ตมุนด์จนมาอยู่กับลิเวอร์พูล

การดีใจสุดๆ ของคล็อปป์เคยทำให้เขาเจ็บตัวอยู่บ่อยๆ มีครั้งหนึ่งที่เขาดีใจมากจนเกิดอาการกล้ามเนื้อฉีก

นี่ยังไม่รวมเหตุการณ์ที่เขาทำแว่นตาที่สวมอยู่ร่วงหล่นพังอีกนับครั้งไม่ถ้วน