โฟกัสพระเครื่อง/เหรียญที่ระลึกรุ่นแรก หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี สมโภชโบสถ์วัดหินหมากเป้ง

โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ [email protected]

เหรียญที่ระลึกรุ่นแรก หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี สมโภชโบสถ์วัดหินหมากเป้ง

“หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” หรือ “พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์” พระเถระที่มุ่งเน้นหลักธรรมและวัตรปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

เป็นที่ยอมรับในหมู่พระเถระชั้นผู้ใหญ่สายพระป่า สายธรรมยุติกนิกายฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐาน จาริกและอบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไปด้วยหลักธรรม ไม่ยึดติดกับเครื่องรางของขลัง และโชคชะตา

แม้จะยึดหลักคำสอนของพุทธองค์และการปฎิบัติเป็นแนวทางเป็นด้านหลัก

แต่วัตถุมงคลของหลวงปู่เทสก์ ได้รับความนิยม เนื่องจากจัดสร้างจำนวนน้อย

เหรียญหลวงปู่เทสก์รุ่นแรก ปี พ.ศ.2516 จัดสร้างเนื่องในโอกาสที่ระลึกงานฉลองพระอุโบสถ วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2516

เป็นเหรียญทรงเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ เงิน ทองเหลืองกะไหล่เงิน เนื้อฝาบาตรกะไหล่เงิน ฯลฯ

ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงปู่เทสก์ ตัวอักษรนูน “พระนิโรธรังสี (เทศน์)” (ช่างทำบล๊อกแกะตัวสะกด ศ แทน ส) ด้านล่าง

ด้านหลังเหรียญ พิมพ์อักขระโบราณทั้งบนและล่าง ตรงกลางมีข้อความ “ที่ระลึกงานฉลองโบสถ์ วัดหินหมากเป้ง หนองคาย ๕ เมษายน ๒๕๑๖ รุ่นแรก”

มีราคาแพงมาก และมีเลียนแบบจำนวนมาก ของปลอมทำได้ใกล้เคียงกับของจริง ต้องใช้การพิจารณาเป็นอย่างมาก

เกิดในสกุล เรี่ยวแรง เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2445 ที่บ้านนาสีดา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มีพี่น้อง 10 คน เป็นบุตรลำดับที่ 9 ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

เข้าพิธีบรรพชา เมื่อปี พ.ศ.2461 มีโอกาสติดตามพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ไป จ.อุดรธานี

ครั้นเมื่อท่านอายุครบ 22 ปี อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสุทัศน์ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2466 โดยมีพระมหารัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาปิ่น ปัญญาพโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ออกธุดงค์กับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม กับพระมหาปิ่น ปัญญาพโล ซึ่งเป็นน้องชายออกจาก จ.อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุดรธานี และพบกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ที่บ้านค้อ อ.บ้านผือ

เป็นครั้งแรกในชีวิตของหลวงปู่เทสก์ ที่ได้พบกับพระอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน

หลังจากนั้นจาริกผ่านมาทาง จ.สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา หนองคาย เชียงใหม่ ประเทศพม่า ลำพูน จันทบุรี ภูเก็ต พังงา กระบี่ กรุงเทพฯ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย เป็นต้น

ท้ายสุดของการจาริก ท่านสร้างวัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย อบรมสั่งสอนญาติโยมและสร้างพระอุโบสถ มณฑป ศาลาเทสรังสี หอระฆัง หอสมุด หอกลอง กุฏิเสนาสนะ เป็นต้น

ในปี พ.ศ.2537 ทำบุญฉลองอายุครบ 92 ปีบริบูรณ์ ที่วัดถ้ำขาม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และหลวงปู่เทสก์ แสดงเจตนารมณ์ด้วยคำปรารภในสัมโนทนียกถา เมื่อคราวทำบุญฉลองอายุ

มีความตอนหนึ่งว่า “อาตมาจะขอเล่าเรื่องพระแก่องค์หนึ่ง จำพรรษาอยู่ที่วัดหินหมากเป้งมาเป็นเวลานาน อยู่ดีๆ ก็คิดอยากจะมาถ้ำขาม โดยที่ไม่ได้บอกให้ญาติโยมทราบโดยทั่วกัน

ต่อมา ชาวสกลนครก็แห่กันมาเยี่ยมพระแก่บนถ้ำขาม ถามถึงเรื่องราวต่างๆ ที่มาพอทราบความแล้ว ชาวสกลนครจึงนิมนต์ให้อยู่จำพรรษา ณ วัดถ้ำขาม โดยต่างรับภาระปฏิบัติอุปัฏฐากเป็นอย่างดี มีปัจจัยสี่ เป็นต้น ไม่ให้ลำบากอดอยาก คิดไปแล้วก็น่าเสียดายมาก

เมื่อก่อนยังหนุ่มไปมาคล่องแคล่ว ว่องไว ทำไมถึงไม่เห็นมา นี่แก่จนป่านนี้แล้ว อบรมสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชาชนไม่ได้แล้ว จึงขึ้นมาอยู่ถ้ำขาม

อย่างไรก็ตาม คิดเสียว่า เป็นโชคของชาวสกลนครอีกเหมือนกันเพราะพระหนุ่มๆ มีถมไป แต่พระแก่เช่นนี้หาดูได้ยาก เอาเถิดไหนๆ พระแก่องค์นั้นมาถึงที่นี่แล้ว ขอญาติโยมชาวสกลนครจงเมตตารับไว้ด้วย”

เป็นสมณะผู้สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตรอันงดงามยิ่ง เป็นผู้นำศรัทธาในการอบรมสั่งสอนธรรม เพื่อการจรรโลงพระพุทธศาสนา เป็นปูชนียาจารย์ของชนทุกระดับชั้น

ในปัจฉิมวัย ไปพำนักที่วัดถ้ำขามและละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2537 เวลาประมาณ 22.00 น. สิริอายุ 93 ปี พรรษา 71

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพและพระราชทานโลงทองทึบ รวมทั้งทรงรับงานบำเพ็ญกุศลอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์

พิธีพระราชทานเพลิง จัดขึ้น ณ วัดหินหมากเป้ง นับเป็นงานพระราชทานเพลิงศพพระเถราจารย์ครั้งประวัติศาสตร์

ปัจจุบันเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เทสก์หายาก ราคาเช่าหาบูชาขยับขึ้นสูงตามไปด้วย