ผู้นำระดับสูงจีน คอร์รัปชั่น เมื่อวิกฤติกลายเป็นโอกาส ของ “สี จิ้นผิง”

กรณีคอร์รัปชั่นที่อื้อฉาวที่สุดในจีนในรอบหลายสิบปีมานี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกรณีของ นายป๋อ ซี ไหล ซึ่งเป็นถึงกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นนายกเทศมนตรี เมืองต้าเหลียน ผู้ว่าการมณฑลเหลียวหนิง และเลขาธิการพรรคสาขาจุงกิง นับว่าเป็นดาวจรัสแสงที่มีผู้จับตามองว่าจะก้าวไปได้อีกไกล

ในที่สุดต้องมาดับลงเพราะความทุจริตของภรรยา และตนเอง

ภรรยาของ ป๋อ ซี ไหล ถูกดำเนินคดีสั่งฆ่านักธุรกิจชาวอังกฤษ ตัวป๋อเองก็ช่วยภรรยาปิดบังพฤติกรรมของเธอ รวมทั้งตัวเองก็มีพฤติกรรมคอร์รัปชั่น

จีนนั้นมีปัญหาสังคมที่ชาวโลก โดยเฉพาะโลกตะวันตกจับตามอง และจับผิดว่าไม่เข้ามาตรฐานสังคมโลกอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือคอร์รัปชั่น และเรื่องที่สองคือทรัพย์สินทางปัญญาหรือการลอกเลียนแบบสินค้ากันอย่างครึกโครม

เมื่อเร็วๆ นี้จีนก็ได้ประกาศดังๆ ให้สังคมโลกรู้ว่าตระหนักถึงปัญหาคอร์รัปชั่น และจะถือเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไข และขจัดคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไป

กรณีของ ป๋อ ซี ไหล ก่อให้เกิดความอับอายแก่รัฐบาลจีนมาก แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ปรากฏว่ารัฐบาลจีนได้ทำเรื่องวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสโดยการแสดงออกทำนองว่า “เห็นมั้ยล่ะ จีนเอาจริงกับการปราบคอร์รัปชั่นแล้วจริงๆ ไม่เลือกว่าคนทำผิดจะใหญ่โตขนาดไหน”

แต่การกระทำของจีนนี้ก็ถูกโห่ ว่า “ทะลึ่ง” ไปหรือเปล่า คนระดับสูงทำเรื่องอับอายยังจะมาหาประโยชน์จากเรื่องน่าอับอายนี้

หนังสือพิมพ์ China Daily ของจีนซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลเขียนข่าวว่า “ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่า การจัดการกับการคอร์รัปชั่นของคนในระดับสูงไม่ใช่เรื่องดีแต่คุย” และ “คนจีนทุกคนเท่าเทียมกันเมื่อเป็นเรื่องของกฎหมาย”

ในยุคของ สี่ จิ้น ผิง ซึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน และควบตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยประเด็นเรื่องคอร์รัปชั่นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เขาให้ความสำคัญ นอกจากนี้เขายังตั้งใจจะสื่อความหมายที่ลึกลงไปกว่านั้น

ป๋อ ซี ไหล เคยเป็นคนหนุ่มที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกกันว่า prince กลุ่มนี้คือบรรดาบุตรชายของผู้นำจีนระดับสูงนั่นเอง พ่อของเขาเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมการต่อสู้ปลดแอกชาวจีนร่วมกันกับ เมา เซ ตุง และได้รับการเคารพยกย่องอย่างสูง

สำหรับกลุ่ม prince หรือเจ้าชายนี้ถนนที่ลาดไปสู่ความรุ่งโรจน์ในทางการเมืองจะสั้นกว่าคนอื่น หากไม่สะดุดอะไรเสียก่อน คนกลุ่มนี้คือคนที่เชิดหน้าอยู่ในวงสังคม มีคนยกย่อง มีความเป็นอยู่หรูหรา และแน่นอนมีโอกาสในการคอร์รัปชั่น

การชิงประณามการกระทำของ ป๋อ ซี ไหล มีความคิดที่แยบยลเบื้องหลังอีกอย่างก็คือ มันจะช่วยเบนเข็มความสนใจของผู้คนจากเรื่องเน่าๆ ที่มีอีกมากมายที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นในจีนที่มาจากบรรดาผู้นำจีน ซึ่งอาจจะรุนแรงกว่ากรณีของ ป๋อ ซี ไหล ด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้เมื่อ ป๋อ ซี ไหล เป็นเลขาธิการพรรคสาขาจุงกิง เขามีผลงานโดดเด่นเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่นและอาชญากรรม ต่อมาในคณะกรรมการพรรคชุดที่ 16 เขาได้รั้งตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ในคณะรัฐบาลของ เหวิน เจีย เป่า ในตอนนั้นชื่อเสียงของเขาในต่างประเทศหอมหวนมาก ด้วยความที่มีบุคลิกดี หน้าตาดี เป็นที่นิยมในหมู่นักข่าวสตรี

มีบางคนให้ฉายาเขาว่าคือ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ แห่งตะวันออก

เขาทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ผลงานโดดเด่น เพื่อปูทางไปสู่ความเป็นใหญ่ในพรรค รวมถึงการรื้อฟื้น “วัฒนธรรมแดง” ในแบบ เมา เซ ตุง และการร้องเพลงปลุกใจในยุคปฏิวัติ และเขาสร้างความรุ่งเรืองให้กับต้าเหลียนที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีต่อเนื่องกันอย่างยาวนาน

เขามีผู้คนนิยมชมชอบมากมายในประเทศจีน บางคนนับถือเขาเป็นหนึ่งในวีรบุรุษด้วยซ้ำ

ดังนั้น ด้วยชื่อเสียงและผลงานที่มีมาในอดีต ก็เข้าใจว่าการพิพากษาเขา เป็นเรื่องที่คนจับตาดู รูปของเขาถูกนำขึ้นปกไทมส์

ป๋อถูกตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ว่า “ใช้อำนาจโดยมิชอบ” ซึ่งรวมถึงการพยายามปกปิดคดีฆาตกรรมของภรรยา

อันที่จริง หนทางก้าวขึ้นสู่อำนาจของเขาอาจจะสดใสกว่านี้หากไม่แตกคอกับลูกน้องคนสนิท ซึ่งเขาตั้งให้เป็นผู้บังคับการตำรวจปราปปรามคอร์รัปชั่น นายหวัง หลี่ จุน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

นายหวังได้พยายามลี้ภัยไปอยู่อเมริกา และปล่อยให้ นางกู่ ไก ไหล ภรรยาของ ป๋อ ซี ไหล ต้องเผชิญชตากรรมถูกดำเนินคดีจ้างวานฆ่า นายนีล เฮย์วูด ผู้ร่วมธุรกิจชาวอังกฤษ ตามลำพัง

หลังจากโดนแจ้งข้อหาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายป๋อก็ยังเดินหน้าทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เดินทางโดยไม่มีหมายกำหนดการล่วงหน้าไปยังเมืองคุณหมิง ไปเยี่ยมหน่วยทหารที่บิดาของเขาเป็นผู้ตั้งขึ้น ขณะนี้แฟชั่นต่างๆ ของกองทัพถูกแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าซึ่งนับเป็นประเด็นคุกคามจีนอยู่เวลานี้

แม้แต่ประธานิบดี สี่ จิ้น ผิง เองก็กำลังกังวลเรื่องการแตกแยกในกองทัพ

ป๋อเตรียมสู้คดีด้วยการตระเตรียมคำต่อสู้ที่อาจจะไม่ต้องร่างกันมาก่อน แต่พูดสดในวันขึ้นศาล ขณะนี้ภรรยาของเขาถูกคุมขัง บุตรชายของเขาอยู่ต่างประเทศ เข้าเรียนกฎหมายอยู่ที่นิวยอร์ก จึงเรียกว่าใจเย็นอยู่ได้

สำหรับประธานาธิบดี สี่ จิ้น ผิง ไม่ว่าการพิจารณาความผิดของนายป๋อจะออกมาเช่นไร ก็เป็นของแน่ว่าจะต้องไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจีนเสียหาย

มีข่าวโผล่ออกมาว่า อดีตประธานาธิบดี เจียง เจ๋อ หมิน ซึ่งออกไปนานแล้วได้พบกับ นายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ เมื่อเร็วๆ นี้ และได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า เขามีความเชื่อมั่นเต็มร้อยกับรัฐบาลชุดนี้

ไม่เฉพาะจีนที่อดีตผู้นำจะช่วยกันพยุงภาพของผู้นำจีนรุ่นถัดมา อเมริกาเองก็มีวัฒนธรรมเช่นนี้ ในสมัยของประธานาธิบดีโอบามา อดีตประธานาธิบดีอเมริกันทุกคนก็ยังคงทำงานเบื้องหลังให้กับรัฐบาลปัจจุบัน ตั้งแต่ จิมมี่ คาร์เตอร์ มาจนถึง บิล คลินตัน