รถไฟขบวนพิเศษวิ่งแค่ปีละครั้ง เพื่อ”เด็กพิเศษ”ในสหรัฐฯ ผ่าแนวคิดและการจัดการ

รถไฟขบวนนั้นชื่อ รถไฟสาย Autism ONE SPECIAL RIDE

เป็นรถไฟขบวนพิเศษ วิ่งปีละครั้ง จากเมือง Boyertown วิ่งผ่านหุบเขา Secret Valley ไปเมือง Pottstown แห่งรัฐเพนซิลเวเนียแล้วย้อนกลับเวลาวิ่งทั้งหมดราว 1 ชั่วโมง 45 นาที

ชื่อรถไฟขบวน The Colebrookdale Railroad train

เสียงหวูดรถไฟ เสียงล้อหมุน ชึกชัก-ชึกชัก และความเร็วของขบวนรถที่ค่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือความสนุกสนานในการได้นั่งรถไฟ

แต่สำหรับเด็ก Autism แล้ว สุ้มเสียงรถไฟเหล่านั้นและประสบการณ์บนรถไฟ สร้างความรู้สึกให้มากกว่าความตื่นเต้น และบางครั้งก็หนักหนาเกินไปในความรู้สึกของ “เด็กพิเศษ”

ด้วยความตระหนักถึงความอ่อนไหวเหล่านั้น The Colebrookdale Railroad จึงจัดดำเนินการเดินรถอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง จนได้รับการยอมรับว่าเป็น a Certified Autism Center

ทั้งนี้ เพื่อให้การเดินทางโดยรถไฟเที่ยวพิเศษนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความประทับใจต่อผู้โดยสารทุกคน

พนักงานและสตาฟฟ์ของรถไฟขบวนนี้ได้รับการเทรน Autism Awareness ให้เฝ้าระวังอาการ Autism เพื่อดูแลไม่ให้รบกวนการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วไป

ในรถโบกี้หนึ่งได้ออกแบบไว้ให้เป็นห้องเก็บเสียง ปราศจากเสียงรบกวนใดๆ ซึ่งหมายถึงเสียงจากภายนอก และเสียงของ Autism ด้วย

Dennis Emrick ผู้จัดการทั่วไปของรถไฟ the Colebrookdale Railroad บอกว่า

“ในฐานะแขก คุณอาจไม่รู้สึกถึงความแตกต่างอะไรในระหว่างการเดินทาง แต่สำหรับพนักงานแล้วได้รับการฝึกฝนให้อ่อนไหวที่สุดกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น”

พนักงานรถไฟทุกคนล้วนเป็นอาสาสมัคร ในจำนวนนี้ประมาณ 20 คนสอบผ่านหลักสูตรทางออนไลน์ได้รับประกาศณียบัตร the exam sanctioned จาก the International Board of Credentialing and Continuing Education Standards (IBCCES) จากสำนักงานใน Florida

“เรามีพนักงานผู้มีความสามารถ” (ในการดูแล autism บนขบวนรถ)

Frank Buttaro Jr. ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจของ railroad กล่าว

และเป็นไอเดียของผู้อำนวยการคนนี้ที่ทำให้รถไฟสาย The Colebrookdale Railroad ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็น Autism Certified เพราะเป็นเวลาหลายปีที่เขาได้สังเกตว่า

รถไฟมีส่วนสำคัญในความรู้สึกจนถึงจิตวิญญาณของคนเป็น Autism

รถไฟสายนี้มีความใกล้ชิดเป็นมิตรกับ Autism มาตั้งแต่ต้น เพราะมีลูกของพนักงานคนหนึ่งเป็น Autism

“เราทำงานร่วมกับเธอเพื่อพัฒนา Autism Training”

หลังจากพนักงานคนนั้นเกษียณไปแล้ว ผู้อำนวยการคนนี้ก็ยังดำเนินการเรื่อง autism training ต่อ เพราะเขามีหลานปู่คนหนึ่งอายุ 5 ขวบเป็น autism

กล่าวโดยหลักการทั่วไปก็คือ ให้สตาฟฟ์ทุกคนมีความระมัดระวัง รับผิดชอบ ผ่านการฝึกฝน ไม่เป็นตัวปัญหาเสียเอง

สถิติของ The Centers for Disease Control and Prevention (CDC) (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ) ของอเมริกาบอกว่า ณ ปัจจุบัน 1 ในเด็กอเมริกัน 68 คนเป็น autism สถิตินี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เด็กผู้ชายเป็น autism มากกว่าเด็กผู้หญิงสี่เท่า

เด็ก Autism ในเมืองไทยเรียกว่า “เด็กพิเศษ” หรือเด็กออทิสติก เด็กเหล่านี้มีความบกพร่องบางอย่าง จะเจริญวัยช้า หรือไม่เจริญวัยเท่าที่ควร เช่น พูดได้ช้ามาก หรือบางคนแทบไม่พูดเลย ส่วนใหญ่จะหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง มีความก้าวร้าว บางคนมีแรงมากชอบความรุนแรง บางคนมีสติปัญญาบางอย่างเป็นเลิศ เช่น เก่งคณิตศาสตร์หรือเป็นศิลปินวาดภาพได้สวยงาม

เด็กบางคนมีอาการรุนแรงถึงขั้นควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ เป็นเช่นนี้จนโต

การรักษาให้หายนั้นทำได้ยาก นอกจากดูแลกันไปตามสภาพ พ่อ-แม่บางคนไม่เข้าใจ จับลูกล่ามโซ่ ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปใหญ่

รถไฟ The Colebrookdale Railroad กำหนดออกเดินทางตอน 11 โมงของวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2018 แต่ผู้โดยสารได้รับการขอร้องให้มาถึงสถานีระหว่าง 10.00 ถึง 10.30 น. เพื่อเข้าร่วมประชุมแนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างเดินทาง เพราะจะต้องเดินทางร่วมกับ Autism

ผมขับรถออกจากบ้านเรดดิ้งไป 45 นาที ถึงสถานี Boyertown ตอน 10 โมงครึ่ง อาคารสถานีสวยงามมากด้วยเป็นสถาปัตยกรรมยุควิกตอเรีย ตีตั๋วรถไฟราคาซีเนียร์ $39 ราคาเต็ม $50 แล้วเข้าฟัง Orientation วิธีปฏิบัติตนขณะอยู่บนขบวนรถร่วมกับ Autism คำแนะนำคืออย่าตื่นตระหนกตกใจ ทำตัวตามสบาย

ทีมจาก the Children”s Hospital of Philadelphia”s Center for Autism Research โรงพยาบาลเด็กแห่งฟbลาเดลเฟีย ฝ่ายศูนย์วิจัย Autism มาตั้งซุ้มให้คำแนะนำอยู่ข้างสถานีรถไฟ มีเอกสารแจก ทีมนี้ให้คำแนะนำแก่แขกทุกคนในการเดินทางร่วมกับ Autism

วันนั้น พวกเด็กวัยรุ่น และผู้ใหญ่ Autism พร้อมด้วยครอบครัวได้รับเชิญมาร่วมเดินทางโดยให้ค่าตั๋วในราคาลดพิเศษ

รถไฟสาย The Colebrookdale Railroad เป็นหนึ่งในสิบเส้นทางที่มีเสน่ห์ที่สุดในอเมริกา จากการจัดอันดับของ American Bus Association

และได้รับเรตติ้ง 5 ดาวจาก Trip Advisor

ขึ้นไปบนขบวนรถไฟที่แต่งประดับประดาไว้งดงามมาก เป็นตู้รถไฟในยุค Victoria ตู้แรกเป็นห้องเสบียง มีอาหารเบาๆ เสิร์ฟพร้อมเบียร์และไวน์

ตู้ที่ผมนั่งเป็นตู้โดยสารมีสองฝั่ง ฝั่งที่นั่งเดี่ยวและฝั่งที่นั่งสองคนหันหน้าเข้าหากัน ครอบครัว Autism จะนั่งฝั่งสองคน สังเกตดู เก้าอี้ทุกตัวเป็นครอบครัว Autism ทั้งนั้น

ตามกฎหมาย รถไฟจะต้องเปิดหวูดหรือสั่นระฆังก่อนเคลื่อนออกจากสถานี หรือตอนที่รถไฟจะวิ่งตัดกับถนน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกกับ Autism ที่ขึ้นรถไฟครั้งแรก ทีมสตาฟฟ์จะมีที่ปิดหูแจกรวมทั้งแว่นสายตาด้วย

และเพื่อเป็นการแจ้งเตือน รถไฟขบวนนี้จะเปิดหวูดก่อนออกจากสถานี 5 นาที เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกหากเปิดหวูดแล้วออกรถทันที

ในส่วนป้องกันการตกใจของ Autism ก็มีวิธีการหลายอย่าง เช่น การแจกผ้าผวยอ่อนนุ่มให้ห่มคลุม และการแจกตุ๊กตา

รถไฟทั้งตู้อาหารและตู้นั่งตกแต่งไว้สวยงามมาก เก้าอี้เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้หุ้มเบาะยุคโบราณ มีเปียโนตั้งอยู่ทางท้ายตู้ ด้านหัวตู้มีแท่นบูชา กระจกหน้าต่างปรับยกขึ้น-ลง ไม่มีแอร์

ห้องน้ำก็เป็นยุคโบราณแต่ยังใช้งานได้ดี

รถไฟเสียเวลาทดลองเบรกอยู่ครึ่งชั่วโมง

พอรถไฟเริ่มออกเดินทาง จะมีอาสาสมัครสาวบรรยายสดถึงสถานที่ต่างๆ ที่รถไฟกำลังวิ่งผ่าน เช่น โรงงานเหล็กที่ตั้งมาตั้งแต่ปี 1929

ผ่านท้องทุ่งและฟาร์มปศุสัตว์ ไม่ค่อยมีโรงงานอุตสาหกรรม

ในหุบเขา Secret Valley ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีด้วยกำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้แต่งตัวในเฉดสีเหลือง ส้ม แดง น้ำตาล เป็นทิวทัศน์ที่งดงาม ด้านซ้ายของทางรถไฟเป็นลำธารน้ำใสไหลคู่ขนานไปกับทางรถไฟ

รถไฟวิ่งไป 45 นาทีก็จอดพักปลายทางที่สถานี Pottstown แล้วออกวิ่งย้อนกลับทางเดิม

มีช่วงที่ทางรถไฟตัดกับถนนสองแห่ง รถไฟต้องเปิดหวูดยาวก่อนถึงตรงที่ทางรถไฟตัดกับถนน

สังเกตดู Autism ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ บางคนนั่งจ้องข้างทาง บางคนนั่งหลับ บางคนฟุบหลับบนโต๊ะ

รถไฟขบวนนี้แทบจะเต็มทุกที่นั่ง ปีที่แล้วเริ่มวิ่งปีแรกมีคนโดยสาร 150 คน ปีนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น ได้เห็นสัญญาณจาก Autism ที่ชื่นชอบรถไฟเพราะรถไฟให้ความรู้สึกที่จริงจังรวมทั้งการร่วมผจญภัย

เมื่อไม่นานมานี้ มีชาย Autism อายุ 20 ปีมาจากเท็กซัสกับพ่อเพื่อมาขอเป็นอาสาสมัครทำงานบนรถไฟสายนี้

มีเด็ก Autism วัยรุ่นอีกคนกำลังเก็บเงินเพื่อซื้อขบวนรถไฟจำลอง

หน่วยงาน IBCCES บอกว่า รถไฟสาย The Colebrookdale Railroad คือรถไฟสายแรกที่ได้รับการรับรองให้เป็น Certified Autism of USA

เมื่อไหร่เมืองไทยจะเห็นความสำคัญให้มีรถไฟสาย Autism เพื่อ “เด็กพิเศษ” บ้าง