ราชกิจจาฯ ก.ม.ภาษีสรรพสามิตใหม่“สิงห์อมควัน”อ่วม ขึ้นมวนละ5บ. “อธิบดี”ย้ำ เป็นเพดาน

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ คาดบังคับใช้เดือน ก.ย. กำหนดเพดานในอนาคต 20 ปี บุหรี่ขยับ 5 บาทต่อมวน สุราแช่ ชนิดเบียร์/ไวน์ หน่วยละ 3,000 บาทต่อปริมาณหนึ่งลิตร ส่วนสถานอาบน้ำหรืออบตัวและนวด หน่วยละ 1,000 บาทต่อรอบ 

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2560 ราชกิจจานุเษกษาประกาศ ออกประกาศพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 โดยหลังกฎหมายประกาศจะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน

สำหรับภาษีดังกล่าว เป็นการรวมกฎหมายสรรพสามิต 7 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยสุรา กฎหมายว่าด้วยยาสูบ กฎหมายว่าด้วยไพ่ กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต และกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุรา ซึ่งกฎหมายทั้ง 7 ฉบับใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ทั้งนี้ สาระสำคัญของกฎหมาย มีการเพิ่มเติมบทนิยามที่สำคัญ เช่น คำว่า “ราคาขายปลีกแนะนำ” “ผลิต” “สุรา” “ยาสูบ” และ “ไพ่”, ปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี จากจัดเก็บในอัตราตามมูลค่าหรือตามปริมาณ แล้วแต่อัตราใด จะคิดเป็นเงินสูงกว่า เป็นจัดเก็บทั้งตามมูลค่าและตามปริมาณ อาทิ บัญชีพิกัดอัตราภาษียาสูบ หน่วยละ 5 บาทต่อปริมาณหนึ่งมวน สุราแช่ ชนิดเบียร์ หน่วยละ 3,000 บาทต่อปริมาณหนึ่งลิตร ส่วนสถานอาบน้ำ หน่วยละ 1,000 บาทต่อรอบ, เปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษีตามมูลค่าจากเดิม” สินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร ใช้ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม และสินค้านำเข้า ใช้ราคา ซี.ไอ.เอฟ.

รวมทั้งสินค้าสุรา ใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้าย เป็นราคาขายปลีกแนะนำ กำหนดอัตราภาษีให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และปรับปรุงอายุความประเมินภาษีจาก 2 ปี เป็น 5 ปี กำหนดบทโทษให้เหมาะสมกับปัจจุบัน รวมถึงให้มีผลบังคับใช้ไปในอนาคตอย่างน้อย 20 ปีข้างหน้า

ขณะที่ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 จะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน หรือเดือนก.ย. ซึ่งหลังจากนี้จะออกกฎหมายลูก 80 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่ โดยเฉพาะอัตราการจัดเก็บภาษีสินค้าต่างๆ เนื่องจากกฎหมายแม่กำหนดไว้เป็นเพดานสูงสุด แต่อัตราการจัดเก็บจริงจะปรับลดลงมาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากในกฎหมายแม่นั้นเพดานสูงเพราะมองถึงอนาคต 20 ปี

พร้อมย้ำว่า อัตราจัดเก็บจริงจะอิงการจัดเก็บภาษีในปัจจุบันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ แต่เป็นห่วงว่าหลังกฎหมายลงราชกิจจาฯ แล้วจะมีการนำเพดานภาษีไปคูณราคาขายปลีกและนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนทำให้เกิดความสับสนเข้าใจกฏหมายแบบผิดๆ หรือมีการกักตุนสินค้ารับราคาใหม่ จึงอยากให้รอฟังอัตราจริง และประกาศจากกรมสรรพสามิต

นอกจากนี้ จะเร่งประชุมชี้แจงกับภาคเอกชน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รวมถึงหอการค้าต่างประเทศในไทย และจะพิมพ์พ.ร.บ.แจก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และมีคำอธิบายเกี่ยวกับภาษีให้เอกชน และผู้สนใจนำไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

คลิกอ่านราชกิจจานุเบกษาฉบับเต็ม