“สุวิทย์”ชี้โลกศตวรรษที่21 ต้องเลือกผู้นำที่มีวิสัยทัศน์

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในงานสัมมนา “Krungthai Next-Thailand Economic Challanges 2019” จัดโดยธนาคารกรุงไทย ที่โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ว่า เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือมีการดิสรับชั่นเกิดขึ้น เราอยู่ในโลกที่มีความผันผวน มีความไม่แน่นอน มีความซับซ้อน และมีความกำกวม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ และอยู่ใกล้ตัวเรามาก เพราฉะนั้นการปฏิรูปเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ หากเราต้องการให้ประเทศไทยมีความมั่งคั่ง จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน และต้องเป็นการปรับเปลี่ยนด้านโครงสร้างและยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศไทย ประเด็นที่ท้าทายของประเทศไทยคือ เมื่อโลกเปลี่ยนไทยต้องปรับ

“แต่เรื่องสำคัญในตอนนี้คือ ไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นตัวชี้ชะตาของประเทศ โดยเราจะเป็นตัวกำหนดชะตาของประเทศเอง ทำให้เราจำเป็นต้องเลือกผู้นำที่มีวิสัยทัศน์เพื่อพาพวกเราไปยังศตวรรษที่ 21 อย่างสมศักดิ์ศรีให้ได้ โดยเราจะช่วยกันออกแบบอนาคตของประเทศไทยได้อย่างไร ซึ่งคงถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ “

นายสุวิทย์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่พวกเราจะต้องตระหนักถึงคือ เรื่องของทรานฟอร์เมชั่น โดยจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดรับกับโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร ในส่วนของดิจิทัลทรานฟอเมชั่นคือ เราจะเป็นต้องมีเป้าหมายในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ชัดเจน โดยต้องเป็นโครงสร้างเศรษฐกิจที่ทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันได้มากกว่าเดิม ต้องให้โอกาสที่เท่าเทียมกันทุกคน และต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอ เพื่อตอบรับกับการปรับเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลกต่อไป

“ประเทศไทยต้องลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่ออนาคตครั้งใหญ่ เพื่อให้ประเทศไทยสร้างขีดความสามารถในเรื่องของเทคโนโลยีไปพร้อมกับประเทศอื่นได้ เรามาถึงจุดที่ธุรกิจจากนี้ไปไม่ใช่เป็นเพียงสินค้าและบริการอีกต่อไป แต่เราต้องทำให้สตาร์ตอัพและเอสเอ็มอีของไทย ทำธุรกิจแบบเป็นแพลตฟอร์มของธุรกิจมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สตาร์ตอัพที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคตอย่างมากมายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้ “ นายสุวิทย์ กล่าว