SearchSri : ไทเกอร์ วู้ดส์ ก้าวแรกกับการคัมแบ๊กที่รอคอย

คอลัมน์ Technical Time-Out

นับเป็นความเคลื่อนไหวแบบก้าวกระโดดสำหรับ “ไทเกอร์ วู้ดส์” อดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกชาวอเมริกัน ซึ่งกลับมาลงสนามแข่งขันอีกครั้งหลังหายหน้าหายตาไปนานเกือบ 1 ปีเต็ม

วู้ดส์ลงแข่งขันครั้งสุดท้ายในรายการอย่างเป็นทางการในศึก “ดูไบ เดสเสิร์ต คลาสสิค” ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเขาถอนตัวหลังจบรอบแรกเพราะปัญหาเจ็บหลังเรื้อรัง

หลังจากนั้นก็มีคิวจะคัมแบ๊กหลายครั้ง แต่ก็มายกเลิกกะทันหันเพราะยังไม่มั่นใจในอาการบาดเจ็บของตัวเอง

กระทั่งถึงศึก “ฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์” กอล์ฟรายการพิเศษที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพที่บาฮามาส ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม ยอดโปรวัย 41 ปี จึงตัดสินใจใช้เป็นเวทีทดสอบความพร้อมของตัวเองก่อนเริ่มต้นปีใหม่อีกครั้ง

หากยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้ว วู้ดส์ซึ่งประสบปัญหาเจ็บหลังเรื้อรังแบบเดียวกันนี้ก็เลือกคัมแบ๊กในศึกฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์ หลังพักยาวเพราะต้องผ่าตัดซ่อมอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่เป็นการทดสอบที่จบไม่สวย เนื่องจากวู้ดส์ทำสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ เป็นอันดับ 15 จากนักกอล์ฟ 16 คน

ครั้งนั้นหลายคนมองว่า วู้ดส์ฝืนจะรีบกลับมาลงแข่งขันเร็วเกินไป ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้เขามีปัญหาในรายการต่อๆ มา ซึ่งนำไปสู่การหายหน้าหายตาระยะยาว

ยังไม่นับผลกระทบด้านจิตใจและชีวิตส่วนตัว เมื่อเขาตกเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกจากกรณีโดนจับข้อหาขับรถในสภาพมึนเมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม อันเป็นผลจากการใช้ยารักษาอาการเจ็บป่วยตามใบสั่งแพทย์

 

ล่าสุด สถานการณ์แตกต่างออกไป เพราะวู้ดส์รอจนให้แน่ใจว่าสภาพร่างกายกลับสู่ภาวะปกติหรือเกือบจะสมบูรณ์เต็มร้อยแล้วจึงกลับมาลงแข่งขัน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการทดสอบว่าอาการเจ็บจะกำเริบหรือไม่ และสกอร์รวมจะออกมาเป็นอย่างไร

ปรากฏว่าทุกอย่างมีแนวโน้มในทางที่ดี วู้ดส์เล่นจบ 4 วันโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 9 ร่วมจากนักกอล์ฟ 18 คน โดยทำผลงานได้ดีกว่านักกอล์ฟดังผลงานเด่นในปีนี้ อาทิ “ดัสติน จอห์นสัน” มือ 1 ของโลก, “จัสติน โธมัส” เจ้าของรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของพีจีเอทัวร์ รวมถึง “บรู๊กส์ เค็ปก้า” แชมป์เมเจอร์ “ยูเอส โอเพ่น” คนล่าสุด

เมื่อลงลึกในรายละเอียดการเล่นของวู้ดส์ในศึกฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์ ก็ถือว่าน่าสนใจ โดยอดีตโปรมือ 1 ของโลกทำสถิติออนกรีนตามเร็กกูเลชั่น 46 จาก 72 หลุม, ไดรฟ์ลูกเข้าแฟร์เวย์ 34 จาก 52 หลุม และพัตต์รวม 100 พัตต์ตลอดทัวร์นาเมนต์

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ประเด็นที่สื่อ นักวิจารณ์ รวมถึงเพื่อนนักกอล์ฟด้วยกันพูดถึงเป็นพิเศษคือวงสะวิงใหม่ของวู้ดส์ซึ่งดูนุ่มนวลกว่าเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงสปีดในจังหวะสะวิงไม้ซึ่งทำให้เขาหวดลูกได้ไกล (เช่น ไดรฟ์ด้วยเหล็ก 2 ได้ระยะ 250 หลา)

ชวนให้นึกถึงวู้ดส์คนเก่าสมัยก่อนจะเจอกับสารพันปัญหาอยู่ไม่น้อย

 

แน่นอนว่าการกลับมาลงแข่งขันและทำผลงานได้ดีเพียงรายการเดียวยังไม่สามารถการันตีได้ว่าเส้นทางหลังจากนี้ของอดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกจะเป็นอย่างไร แต่ฟอร์มการเล่นที่ดีซึ่งส่งผลให้อันดับโลกของเขาก้าวกระโดดจากอันดับ 1,199 ไปอยู่อันดับ 668 ของโลกในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคต โดยวู้ดส์ตั้งใจว่าจะกลับสู่การแข่งขันพีจีเอทัวร์เต็มรูปแบบในปีหน้า แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะกลับมาเมื่อไรในรายการใด

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ หากวู้ดส์สามารถกลับมาแข่งขันได้สม่ำเสมอขึ้น แม้จะคาดหวังให้ทำผลงานไร้เทียมทานเหมือนเก่าไม่ได้ แต่มีผลในเรื่องปลุกความนิยมของวงการกอล์ฟชายอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้แม้จะมีนักกอล์ฟสร้างชื่อขึ้นมาพร้อมๆ กันหลายคน แต่ในแง่บุคลิกหรือความเป็นสตาร์แล้วถือว่ายังห่างไกลจากยุคที่วู้ดส์รุ่งๆ อยู่มาก

เอาแค่ศึกฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์ที่เพิ่งจบไป ปรากฏว่าความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียค่อนข้างคึกคัก ขนาดคนไม่ใช่แฟนกอล์ฟก็ยังเอ่ยถึงเพราะทราบข่าวว่าวู้ดส์กลับมาเล่นอีกครั้ง

ไม่ว่าผลงานจะดีจะร้าย ขอแค่ให้กลับมาจริงๆ จังๆ ย่อมเป็นผลดีในแง่ความสนใจอย่างแน่นอน