ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | Technical Time-Out |
เผยแพร่ |
ถึงแม้ว่าเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะอนุญาตให้นักหวดจากรัสเซียและเบลารุสร่วมแข่งขันได้แล้ว
แต่ก็มีข้อห้ามไม่น้อยที่นักหวดทั้งสองชาติจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่อยากให้เกิดดราม่าระหว่างทัวร์นาเมนต์
ปีก่อนวิมเบิลดันแบนนักเทนนิสเบลารุสและรัสเซียไม่ให้ร่วมแข่งขัน จนโดนปรับทั้งเงิน และตัดคะแนนสะสมอันดับโลกออกไป เพื่อเป็นการเตือนว่าอย่าเอาการเมืองมาเอี่ยวกับกีฬา
อย่างไรก็ตาม การกลับมาอนุญาตให้นักหวดต้องห้ามในสายตาของวิมเบิลดันกลับมาแข่งได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยินดีต้อนรับนัก เพราะห้ามแสดงออกถึงความเป็นคนประเทศนั้น ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม
ระเบียบของวิมเบิลดันระบุว่า นักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุสห้ามสวมใส่หรือพกพาสิ่งที่สื่อถึงการสนับสนุนสงครามที่รัสเซียบุกยูเครน
ในเรื่องของสปอนเซอร์ ก็ห้ามรับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานหรือบริษัทที่มาจากทั้งสองประเทศ ถ้ามีสัญญากันอยู่ก็ต้องยกเลิกสัญญาสปอนเซอร์เท่านั้น
เวโรนิก้า คูเดอร์เมโตวา นักหวดรัสเซีย มือ 10 ของโลก ได้รับผลกระทบจากกฎสปอนเซอร์อย่างมาก เพราะมีบริษัทก๊าซแห่งหนึ่งในบ้านเกิดเป็นสปอนเซอร์อยู่ ถึงแม้ว่าคูเดอร์เมโตวาจะสามารถติดโลโก้ของบริษัทแห่งนี้แข่งขันในรายการของสมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง (ดับเบิลยูทีเอ) ได้ แต่ในวิมเบิลดันไม่สามารถทำได้
การแสดงออกถึงการสนับสนุนสงคราม มีโทษสูงสุดถึงขั้นริบบัตรประจำการแข่งขัน นั่นหมายถึงว่าต้องโดนตัดออกจากการแข่งขันทันที
นักหวดจากทั้งรัสเซียและเบลารุสหลายคนแสดงออกเรื่องนี้แบบเป็นกลาง ดานิล เมดเวเดฟ มือ 3 ของโลก และ อังเดรย์ รูเบลฟ มือ 7 ของโลกจากรัสเซีย ไม่เคยบอกว่าสนับสนุนประเทศตัวเองที่ทำแบบนั้น แต่บอกว่าไม่เอาสงครามและขอให้โลกสงบสุขเท่านั้น
ก่อนการแข่งขันนักกีฬาทุกคนต้องลงชื่อรับทราบกฎต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งมีเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-เบลารุส-ยูเครนรวมอยู่ในนั้นด้วย ไม่ใช่แค่นักกีฬาจากชาติคู่กรณีเท่านั้น ทุกคนก็ต้องระมัดระวังในการแสดงออกเรื่องการเมืองเหมือนกันทั้งหมด
จากการที่อังกฤษให้วีซ่านักเทนนิสเบลารุสและรัสเซีย ทำให้สมาคมนักเทนนิสอาชีพชาย (เอทีพี) และดับเบิลยูทีเอ ลดโทษปรับเงินลอนเทนนิสสมาคมแห่งอังกฤษลงครึ่ง จาก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (35 ล้านบาท) เหลือ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ (17.5 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังยกเลิกการคาดโทษถอนสมาชิกภาพของแอลทีเอให้กลับมามีสิทธิโหวตได้ตามปกติ
ที่ผ่านมา การแข่งขันเทนนิสอาชีพทั้งรายการเล็กหรือรายการระดับเมเจอร์ ไม่ได้มีดราม่ามากมายไปกว่าการที่นักเทนนิสยูเครนไม่จับมือกับนักเทนนิสรัสเซียและเบลารุส แต่ยังไม่มีการวิวาทกันด้วยอารมณ์ ทุกคนต่างยังมีความเป็นมืออาชีพ เคารพกติกา เพราะรู้ดีว่าการเอาการเมืองมาวุ่นวายกับกีฬามากเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีกับอาชีพของตัวเอง
ระเบียบที่วิมเบิลดันออกมาก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตลอด 1 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาก็ได้รับทราบและปฏิบัติกันมาจนเคยชินแล้ว ที่เหลือก็คงต้องรอดูว่าสงครามที่ยืดเยื้อจะจบลงเมื่อไร เพราะคงไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว
วิมเบิลดันเองก็เหมือนทัวร์นาเมนต์ที่ถูกเมินเมื่อปีก่อน เชื่อว่าการกลับสู่สภาวะ (เกือบ) ปกติปีนี้ จะทำให้วิมเบิลดันกลับมาคึกคักและน่าลุ้นเหมือนเดิม •
Technical Time-Out | จริงตนาการ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022