พิศณุ นิลกลัด : มาราโดน่ากับฟุตบอลโลก

พิศณุ นิลกลัด

ทีมชาติอาร์เจนติน่า ลงแข่งฟุตบอลโลกนัดแรกกับไอซ์แลนด์ ผลการแข่งขันเสมอกัน 1-1

วันนั้น ดิเอโก้ มาราโดน่า ยอดนักเตะชาวอาร์เจนติน่าเมื่อ 30 ปีก่อน ไปนั่งเชียร์ที่สนาม สปาตัก สเตเดี้ยม กรุงมอสโก

แม้จะไม่ได้ลงแข่งขัน แต่มาราโดน่าก็ยังไม่วายที่จะเป็นตัวเจ้าปัญหา ฝืนกฎให้คนวิพากษ์วิจารณ์อีกจนได้ เพราะสูบซิการ์ในสนามสปาตัก สเตเดี้ยม ทั้ง ๆ ที่มีป้ายใหญ่ยักษ์ ในสนามว่าเป็นเขตปลอดบุหรี่

 

เมื่อพูดถึงมาราโดน่า สิ่งที่แฟนกีฬาทั่วโลกไม่ลืมก็คือ ฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก ที่มาราโดน่าทำสองประตูประวัติศาสตร์ ในการแข่งขันรอบควอเตอร์ ไฟนอล

กับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งอาร์เจนติน่า ชนะ 2-1

ประตูแรก เป็นประตูที่รู้จักกันในชื่อ “Hand of God” หรือหัตถ์พระเจ้า เกิดขึ้นในนาทีที่ 51 มาราโดน่าใช้มือซ้ายชกลูกฟุตบอลเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกเข้าประตู เพราะไม่เห็นว่าเป็นลูกแฮนด์บอล

อีก 4 นาทีให้หลัง มาราโดน่าก็ยิงประตูชัยให้กับอาร์เจนติน่า

ประตูนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นประตูแห่งศตวรรษ หรือ The Goal of the Century โดยมาราโดน่าเลี้ยงลูกฟุตบอลคนเดียวจากระยะ 60 หลา หลบหลีกนักฟุตบอลอังกฤษครึ่งทีมเข้าไปจ่อยิงเข้าประตู ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 10 วินาที

มาราโดน่าพูด “ยกย่อง” นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษว่า เป็นผู้ดีมีคุณธรรมที่สุดในโลก (noblest in the world) เขาไม่คิดว่าจะทำประตูเลี้ยงหลบหลีกได้แบบนี้กับคู่แข่งชาติไหน เพราะคงเสียบเขาล้มเรียบร้อยไปแล้ว

 

แฮนด์บอลฉาวก้องโลกของมาราโดน่า ตัวเขาตั้งชื่อเองด้วยความภูมิใจว่า Hand of God หรือ หัตถ์พระเจ้า โดยหลังการแข่งขัน มาราโดน่าให้สัมภาษณ์ด้วย

ความเริงร่าว่า ประตูนี้เป็นการผสมผสานระหว่างหัวของมาราโดน่ากับหัตถ์ของพระเจ้า

มาราโดน่า ซึ่งสูงเพียง 168 เซนติเมตร เตี้ยกว่า ปีเตอร์ ชิลตัน (Peter Shilton) ผู้รักษาประตูชาวอังกฤษ ถึง 15 เซนติเมตร กระโดดเข้าถึงลูกฟุตบอลก่อน และใช้มือซ้าย

ชกลูกเข้าประตู เพื่อนร่วมทีมมาราโดน่า และนักฟุตบอลทีมอังกฤษก็เห็นว่าเป็นลูกแฮนด์บอล

แต่คนที่ไม่เห็นก็คือ อาลี บิน นาสเซอร์ (Ali Bin Nasser) ผู้ตัดสินชาวตูนิเซีย ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลของฟีฟ่าอีกเลย

ส่วนผู้กำกับเส้น หรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน ชื่อ บ็อกดาน โดเชฟ (Bogdan Dochev) ชาวบัลแกเรีย ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วด้วยวัย 81 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ในปี 2014 ว่า ในการแข่งขันวันนั้นเขาเห็นมาราโดน่าทำแฮนด์บอลด้วยการชกลูกฟุตบอลเข้าประตู

บ็อกดาน เคยให้สัมภาษณ์ว่า สมัยนั้น ฟีฟ่าออกกฎไว้ว่า ผู้กำกับเส้นจะแสดงความเห็นต่อผู้ตัดสินหลักได้ก็ต่อเมื่อผู้ตัดสินหลักถาม ซึ่งวันนั้น อาลี บิน นาสเซอร์ ผู้ตัดสินชาวตูนิเซีย ไม่ได้หันมาถามความเห็นเขาเลยว่าลูกที่เข้าไปนั้นเป็นลูกแฮนด์บอลหรือไม่ นอกจากนี้ บ็อกดาน ซึ่งเป็นชาวบัลแกเรียบอกว่า อาลีพูดได้แต่ภาษาตูนิเซีย

บ็อกดาน บอกว่า มาราโดน่าเป็นยอดนักฟุตบอลที่ตัวไม่สูง และเป็นคนที่ต่ำทั้งร่างกายและจิตใจ

เอมิลี่ (Emily) ภรรยาของ บ็อกดาน โดเชฟ ให้สัมภาษณ์หลังจากสามีเสียชีวิตว่าเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้สามีกลายเป็นคนเก็บตัวเพราะโดนเสียงวิจารณ์จากคนทั่วโลก

และเธอเล่าด้วยว่า บ็อกดาน ได้เขียนข้อความหลังรูปมาราโดน่าว่า “มาราโดน่า ผู้ขุดหลุมฝังศพของผม”

เอมิลี่ เล่าว่าที่ บ็อกดาน ยืนเฉย ๆ ไม่ยกธงหรือบอก อาลี บิน นาสเซอร์ ผู้ตัดสินหลักว่ามาราโดน่าทำแฮนด์บอล ก็เพราะก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น อาลี บิน นาสเซอร์ ได้บอกกับ บ็อกดาน ว่าไม่ต้องทำอะไร เขาจะเป็นผู้ตัดสินใจทุกอย่างเอง

เอมิลี่บอกว่าชาตินี้เธอไม่มีวันให้อภัย มาราโดน่า และ อาลี บิน นาสเซอร์

 

ส่วน มาราโดน่า และ อาลี บิน นาสเซอร์ ได้มาพบกันอีกครั้งในปี 2015 หลังจากไม่ได้เจอกันนานถึง 29 ปี โดยมาราโดน่าเดินทางไปหาถึงบ้านของอาลีที่ประเทศตูนีเซีย ตอนนั้นอาลีอายุ 71 ปี

มาราโดน่า ได้มอบเสื้อทีมชาติอาร์เจนติน่าของเขา และเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า

“For Ali, my eternal friend” หรือ “สำหรับอาลี เพื่อนตลอดกาลของผม”

ส่วนอาลี ได้มอบรูปถ่ายประวัติศาสตร์ก่อนการแข่งขันนัดนั้นที่เขาติดไว้ที่ฝาบ้าน ให้มาราโดน่า มาราโดน่าแสดงความซึ้งใจด้วยการหอมแก้มอาลี

อาลี บอกว่า ในวันนั้นเขาไม่เห็นว่ามาราโดน่าทำแฮนด์บอล โดยเขามองไปที่บ็อกดานซึ่งอยู่ในมุมที่เห็นการทำลูกเข้าประตูได้ชัดกว่าเขา แต่ บ็อกดาน ก็ไม่ได้ส่งสัญญานบอกว่ามาราโดน่าทำแฮนด์บอล

 

เวลาผ่านไปหลายสิบปี มาราโดน่า ย้อนเล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นด้วยความขบขันว่า หลังจากทำประตูได้ เพื่อนในทีมไม่ได้วิ่งมาแสดงความดีใจเพราะเห็นว่าเป็นแฮนด์บอล เขาต้องรีบโบกมือให้เพื่อนร่วมทีมวิ่งเข้ามากอดทำเป็นดีใจ เพราะเดี๋ยวกรรมการไม่ให้ประตู

มาราโดน่า ให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2012 แบบไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย และไม่ขอโทษด้วย โดยบอกว่า ในเกมฟุตบอลที่ทั้งคนเล่นและคนดูมีความสุข หากมีใครคนหนึ่งทำเรื่องซุกซน (naughty) ที่แฟนแสนคนไม่เห็น ดูแล้วเป็นเรื่องตลกขบขันดี

มาราโดน่าบอกว่า แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เขาภูมิใจที่ทำประตูด้วยแฮนด์บอล แต่เห็นเป็นเรื่องตลกมากที่เขาสามารถทำประตูด้วยมือ

 

สำหรับ ปีเตอร์ ชิลตัน ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ หลังจากประตู Hand of God แล้ว ก็ไม่มีโอกาสได้พบกับมาราโดน่าอีกเลยไม่ว่าจะในสนามแข่งหรือชีวิตส่วนตัว ซึ่งปีเตอร์ ชิลตัน บอกว่า มาราโดน่า ไม่เคยกล่าวคำขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้น

มีความพยายามจัดให้ ปีเตอร์ ชิลตัน กับ มาราโดน่า พบกันก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้

ปีเตอร์ ชิลตัน ยินดีที่จะพบ

แต่มีข้อแม้ว่า มาราโดน่าต้องกล่าวคำขอโทษเขาอย่างจริงใจ

ซึ่งทางมาราโดน่ายืนยันหนักแน่นว่ายังไงก็ไม่ขอโทษ เพราะเขาไม่รู้สึกผิดที่ทำประตูด้วยมือ