จากคนที่เคยไม่เชื่อเรื่องความรัก ตอนนี้ หญิง-รฐา โพธิ์งาม กำลังมีชีวิตคู่ที่เปี่ยมสุข กับตุลย์-ตุลยเทพ เอื้อวิทยา สามี

“ก่อนที่พี่ตุลย์เข้ามา หญิงคิดแล้วแหละ คือมีเพื่อนที่ยังไม่ได้แต่งงานเยอะ ก็รู้สึกว่าวันหนึ่งก็คงอยู่กับคนกลุ่มนี้” หญิง รฐา เคยให้สัมภาษณ์ไว้อย่างนั้น

ในบทสัมภาษณ์ที่เปิดใจกับสื่อในคราวนั้น เธอยังบอกด้วยว่า

“แต่วันที่เขาเดินเข้ามา เหมือนเราได้ใช้ชีวิตอีกมุมหนึ่ง ออกกำลังกายบ้าง หรือบางเรื่องที่เราคิดแบบนี้มาตลอด เขากลับให้มุมมองอีกแบบ ทำให้รู้สึกว่าบางครั้งเวลาเราคิดอะไรคนเดียว อยู่ในโลกของเราคนเดียว ก็จะมีจุดจบที่เราสรุปในแบบของเรา แต่พอมีอีกคนเข้ามาช่วยคิด ช่วยออกความเห็น สอนเราว่าในเรื่องๆ หนึ่ง มันสามารถมีจุดจบหลายแบบเหมือนกัน ก็รู้สึกว่าดี”

แต่ที่ดียิ่งกว่าคือ ความรู้สึกที่ว่าเขาเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

“รู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่กับเขา ไม่ต้องกลัวอะไร เราผ่านความกลัวมาเยอะมากเลยในชีวิต มีประสบการณ์เรื่องความรักทั้งดีและไม่ดี มีความกลัวมาตลอด พอมาเจอคนที่ทำให้เราไม่กลัว เขาพร้อมพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ ว่าเขาเป็นอย่างนี้ เป็นอย่างนั้น พร้อมจะอย่างนี้ พร้อมจะอย่างนั้น ทำให้เราเชื่อได้มากๆ ก็เลยรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ”

ยังบอกอีกว่าตลอดเวลาตั้งแต่คบหากันมา เธอกับเขามี “วันดีๆ” ด้วยกันเยอะ แต่แน่นอนว่าระหว่างนั้นก็ย่อมมี “วันไม่ดี” อยู่ด้วย

“วันที่ไม่ดี เราพร้อมที่จะหันหน้าคุยกันด้วยเหตุผล ไม่มีใครวางว่าฉันอีโก้ ฉันจะงอน ฉันจะไม่สนใจ เราไม่เคยโกรธกันเกิน 24 ชั่วโมงเลยนะ คือคุยกันเสมอว่าเมื่อไหร่ที่มีปัญหา หรือไม่พอใจ จะมีใครสักคนยอมก่อนเสมอ ไม่ใช่เขานะ ไม่ใช่หญิงนะ คือต่างคนจะไปด้วยธรรมชาติเอง ก็เลยรู้สึกว่าต้องคนแบบนี้แหละมั้งที่จะอยู่กันได้ในชีวิต”

อย่างไรก็ดี แม้จะ “รีบคุย” ตอนมีปัญหา เพราะตั้งใจจะไม่ทะเลาะกันเกิน 1 วัน แต่เธอบอกว่าหลายครั้งไม่ใช่จะต้องเคลียร์ปุ๊บปั๊บ

“คือหญิงเชื่อเสมอ เวลาคนเราร้อน หูเราไม่ได้ยินอะไรแล้ว ก็จะบอกพี่ตุลย์ ถอยคนละก้าวเนอะ”

“มันก็มีนะ อารมณ์ไม่เอา ไม่ยอม” หญิงบอกตามตรง

“แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาถามตัวเอง ว่าแล้วมันเสียเวลา 3-4 ชั่วโมงกับการงอแง การงอน แทนที่เราจะมีเวลา 3-4 ชั่วโมง ในการทำความเข้าใจ แล้วก็พูดคุยกันดีๆ”

และถึงแม้จะเกิดกรณีคุยแล้ว เคลียร์แล้ว แต่สุดท้ายก็มีเหมือนกันที่ยังมีจุดที่ลึกๆ แล้วยังไม่เข้าใจ ยังสงสัย ทำไม? อยู่ ซึ่งหากเกิดกรณีนั้น เธอจะใช้วิธี “เอาตัวเองไปนั่งในที่ของเขาดู แล้วลองคิดแบบเขา”

เขาเองก็ใช้วิธีเดียวกัน

จากนั้นจะได้คำว่า “ก็โอเค” เป็นข้อสรุป

“คือยอมรับว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจ หรือต้องคิดอะไรเหมือนกันทุกเรื่อง”

“เรามีสเปซตรงกลางไว้เสมอ ยูคิดแบบนี้ เราคิดแบบนี้ แต่เราอยู่ด้วยกันได้

 

เล่าด้วยก่อนหน้านี้เธอ ไม่ใช่สายวิ่ง แต่ผลจากการคบหา และถูกชักชวนจากฝ่ายชาย เธอก็ค่อยๆ ใช้เวลากับกีฬาบนลู่มากขึ้น ซึ่งประสบการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นและเธอยังจำได้ไม่ลืมคือ ตอนร่วมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก

“คือมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา แล้วการวิ่งมันเป็นการต่อสู้กับความคิด คือเราหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ขาเราเนอะ” เธอเล่า แล้วยิ้ม

จากนั้นก็ว่าตลอดระยะทาง 21 กิโลเมตรที่ถูกตั้งเป็นเป้าหมาย ตุลย์คอยใส่ใจ ไม่ทอดทิ้ง

“เขาจะคอยนวด คอยซัพพอร์ต อยากให้เราทำให้ได้ พอเราทำได้ก็ขอบคุณเขา”

“คือมันก็มองได้เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตคู่เหมือนกันนะ ถ้าวันหนึ่งใครบางคนที่เดินอยู่เหนื่อย หรือท้อ แต่อีกคนไม่รอ ฉันไปก่อนนะ แล้วปล่อยเราเดินคนเดียว มันก็เหนื่อยเหมือนกัน”

“แต่ถ้าเขาพร้อมที่จะลดเพซเขาลง แล้วพยายามผลักดันเรา ให้จบไปด้วยกัน ก็รู้สึกว่าคนแบบนี้น่าจะใช่”

อย่างไรก็ดี หญิงเผยแบบยิ้มๆ ว่า ตอนนี้สถานการณ์การวิ่งไม่ได้เป็นอย่างครั้งนั้นแล้ว

เพราะ “เราตกลงกัน ให้เขาวิ่งเพซเขา เราวิ่งเพซเรา ต่างคนต่างวิ่ง” แล้วค่อยไปเจอกันที่เส้นชัย

ส่วนในเรื่องของชีวิต แน่นอนว่าเขากับเธอไม่ได้ปล่อยให้ต่างคนต่างวิ่ง ต่างคนต่างไป แต่ตั้งใจจะประคับประคอง ใส่ใจ และดูแลกันและกันไปโดยตลอด

ขณะตั๊ก บงกช ผู้ออกกำลังกายจริงจังมาหลายปี จนมีทั้งสุขภาพกายที่ดี และรูปร่างสวยงาม ก็บอกไว้ในวันฉลองครบรอบ 9 ปีที่ได้แต่งงานกับบุญชัย เบญจรงคกุล ว่า

‘การแต่งงานก็เหมือนการกินแป้ง อร่อยและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ได้กิน แต่ต้องมีวิธีบริหารกับความสมดุลของชีวิตรัก #ทั้ง2ต้องอยากอยู่ด้วยกัน หากเรารักอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่เรียกว่าคู่รัก’

ตั๊กบอกอย่างนั้น

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022