เปิดใจ “ก้อง สหรัถ” อยากให้รัฐ-เอกชน ช่วยกันหนุนให้คนมาปั่นจักรยาน ลดฝุ่น ก่อนที่อีก20-30ปีข้างหน้าสถานการณ์จะแย่

“รู้สึกสะเทือนใจว่า สภาวะอากาศมันแย่ขนาดนี้เลยหรือในรุ่นพวกเราเจอขนาดนี้ แล้วรุ่นหลังๆลูกๆหลานๆ เด็กเพิ่งเกิดใน1-2 ปีนี้และปี 20 30ปีข้างหน้า เขาจะอยู่กันอย่างไร มันสะท้อนสะเทือนใจมากว่าไม่น่าเชื่อจะเกิดเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้ “ พี่ก้อง สหรัถ สังคปรีชา ดารา-ศิลปินชื่อดัง เล่าถึงความรู้สึกลึกๆในใจให้ฟัง หลังจากตื่นมาทุกเช้าแล้วต้องเห็นฝุ่นพิษ PM2.5 วันนี้พี่ก้องจึงเป็นอีกหนึ่งเสียงเล็กๆที่ออกมารณรงค์เรื่องการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพและอากาศที่ดีของทุกคน

ก้อง สหรัถ เล่าว่าตัวเองเป็นคนที่ปั่นจักรยานเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งปั่นเที่ยวปั่นเล่นบ้าง แต่เดี๋ยวนี้อาจจะเบาลงนิดหน่อย เนื่องจากเพิ่งไปผ่าตัดหลังเรื่องหมอนรองกระดูกมา อาจจะปั่นมากไม่ได้ แต่ในฐานะที่มายืนอยู่ตรงนี้ คงจะทำหน้าที่รณรงค์เท่าที่จะทำได้ ผมเป็นศิลปินคนที่อยู่ในวงการบันเทิงมีคนติดตามจำนวนมากพอสมควร แล้วทาง คุณจิ๋ว ปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต ประธานมูลนิธิคุณ ชวนมาทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ทั้งการแยกขยะ การช่วยทำให้มลพิษลดลงก็ยินดีที่อยากจะมาช่วย เราอาจจะเป็นคนตัวเล็กๆ ทำได้ส่วนนึงแต่ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างน้อยมีคนติดตามเราอยู่ ที่เห็นเรา ชอบเราอยู่ อาจจะมีคนทำตามเราแค่หลักร้อยคนหลักพันคนดีกว่าที่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

ผมก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกันทุกวันนี้เราก็ได้ยินอยู่แล้วว่าสภาพแวดล้อมทุกอย่างมันแย่ลงเรา มีโอกาสน้อยมากที่ได้ยินอะไรที่ดีขึ้น อย่างเรื่องน้ำเน่าเสียในแม่น้ำลำคลองผมเองก็ได้ยินตั้งแต่ผมยังเด็กทุกวันนี้ก็ยังเน่าเสีย แถมสถานการณ์ก็หนักขึ้น หรือสิ่งที่ผมได้ยินก็ไม่เคยคิดว่าจะส่งผลต่อพวกเราแล้วเช่นเรื่องขยะในทะเลเยอะมากขึ้น ขยะพลาสติกเยอะมากขึ้น จนย้อนกลับมาทำร้ายพวกเราแล้ว เนื่องจากเราทิ้งลงไปในทะเลจนปลา-สัตว์ทะเลก็กินไมโครพลาสติกเข้าไปเราก็กินอาหารทะเลเข้าไปตอนนี้มันเริ่มกลับย้อนกลับมาทำร้ายพวกเราแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ต้องมีคนคิดที่จะรณรงค์และหยุดลดละเลิกสิ่งเหล่านี้ไปบ้างถ้าผมเป็นส่วนหนึ่งส่วนเล็กๆที่พอจะทำได้ มีคนเห็นด้วยมีคนทำตามอย่างที่มูลนิธิคุณพยายามรณรงค์ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีจากจุดเล็กๆจุดนี้จะทำให้ขยายวงใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นอาจจะช่วย สภาพแวดล้อมให้มันกลับมาดีขึ้นได้เหมือนเดิมหรือดีขึ้นบ้างในขณะที่ทุกอย่างมันกำลังจะแย่ลงทุกวัน

อย่างไรก็ตามพี่ก้องมองว่าภาครัฐก็คงต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจังในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานหลายๆอย่างให้เอื้อต่อคนปั่นจักรยานด้วย รวมถึงภาคเอกชนบริษัทต่างๆก็ต้องสนับสนุน เช่น ถ้าสมมุติว่ารณรงค์จะให้คนปั่นไปทำงานเป็นเรื่องที่ดีมากลดการใช้รถยนต์ แล้วคนก็ได้ออกกำลังกายด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีที่ทางที่ต้องปลอดภัยให้คนขี่มีเลนส์ที่ชัดเจน ประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายเรื่องรถต่างๆรถเมล์ รถประจำทางควรจะต้องลดไอเสียมากกว่านี้ด้วยคือออกมาขี่จักรยานบางทีอาจจะได้กล้ามขา แต่ปรากฎว่าปอดเต็มไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์อันนี้ก็ไม่คุ้มกัน มันก็ต้องช่วยกัน ตรวจจับควันดำดีเซลหนักๆคุณควรจะต้องไปซ่อมเครื่องยนต์ให้มันอยู่ในสภาพไม่ให้เกินเกณฑ์มาตรฐานไม่งั้นคนขี่จักรยานที่ไปทำงานก็รู้สึกไม่ดีไม่ปลอดภัย

โดยพี่ก้องมองว่าควรจะมีเลนส์พิเศษให้เขาขี่ไปได้ และบริษัทต่างๆควรจะต้องมีห้องอาบน้ำ มีล็อกเกอร์ที่จะเข้าเปลี่ยนชุดจากชุดปั่นจักรยานมาทำให้เปลี่ยนชุดพนักงานได้ มีที่อาบน้ำมีที่เก็บจักรยานให้อย่างดีช่วยเขาสนับสนุนตรงนี้สักหน่อยหน่วยงานเอกชน ให้เขาจอดจักรยานให้ปลอดภัยในเมื่อเขาขี่จักรยานมาแล้วต้องดูแลไม่ให้หาย ขึ้นมาบน Office อาบน้ำได้เปลี่ยนชุดได้ก็ต้องช่วยกันทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลก็ต้องช่วยเรื่องของถนน ควบคุมเรื่องมลพิษทางอากาศต่างๆบนถนนผมเชื่อว่าจะมีการจัดการสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเป็นรูปธรรมชัดเจนคนก็ออกกล้าที่จะออกมาขี่มากขึ้นเพราะปั่นแล้วปลอดภัย ไม่ต้องดมควันรถไปถึงออฟฟิศมีห้องอาบน้ำมีล็อกเกอร์ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าถ้าทุกอย่างถ้ามา support กันทั้งระบบแบบนี้มันทำให้การขี่จักรยานทั้งระบบนี้มันเป็นเรื่องง่ายที่จะไปอีก

เมื่อพูดถึงปัญหา ฝุ่น PM 2.5 แน่นอนว่าผลกระทบมากขึ้น สถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจจะไม่ได้รู้สึกโดยตรง แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้มันให้ความรู้สึกที่หดหู่ทันทีนะครับ อย่างบ้านผมวิวที่ผมมองมาจากบ้านทุกเช้า ผมจะเห็นตึกตรงสี่แยกพัฒนาการอยู่ประมาณ 3-4 ตึกทุกวัน ผมจะเห็นภาพนี้เป็นประจำ แต่ช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 หนักๆบางวันตึกหายไปเลยผมต้องซื้อเครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองตั้งไว้ที่บ้าน วันไหนเปิดม่านมาแล้วเห็นตึกหายผมเห็นแล้วสะเทือนใจ ว่าอากาศมันแย่ขนาดนี้จริงๆหรือนี่มันหนักหนาขนาดนี้แล้ว บางวันก็เห็นลางๆเหมือนมีควันมีหมอกอะไรอยู่ก็รู้สึกสะเทือนใจว่า มันแย่ขนาดนี้เลยหรือรุ่นเรา เจอขนาดนี้แล้วและรุ่นหลังๆลูกๆ เด็กเพิ่งเกิดใน1- 2 ปีนี้แล้วต้องใช้ชีวิตในอีก 20 30ปีเข้าจะอยู่กันอย่างไรมันก็ทำให้สะท้อนสะเทือนใจมากให้ทำให้ใจเสียเหมือนกันว่าไม่น่าเชื่อจะเกิดเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้

พร้อมกันนี้พี่ก้องก็เผยว่า นิสัยตัวเองที่ทำเป็นประจำนอกจากการออกกำลังกายแล้วคือ ผมเป็นคนคัดแยกขยะอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติผมเองรู้สึกอย่างนี้มาตั้งนานแล้วว่าทุกอย่างมันแย่ลง แล้วก็นอกจากสิ่งที่เราจะรู้สึกเองและพูดให้คนอื่นรู้สึกแบบเราด้วยถ้าเขาคิดตามเราได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

ขณะเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากที่มูลนิธิคุณได้ช่วยเรื่องน้องหมาน้องแมวจรจัดด้วย แม้ว่าปัจจุบันจะมีคนทำเรื่องนี้อยู่เยอะพอสมควรแต่คงยังไม่เพียงพอกับปริมาณน้องหมาน้องแมวที่ถูกทอดทิ้ง มูลนิธิคุณก็เข้ามาชวนผม และช่วยตรงนี้ผมเองที่บ้านก็เลี้ยงสุนัขเลี้ยงแมวก็ได้ซื้ออาหารไปบริจาคตามแหล่งต่างๆอยู่บ้าง พอมูลนิธิคุณเข้ามาช่วยอย่างจริงจังก็ได้ติดต่อกับบริษัทอาหารสุนัข ติดต่อบริจาคกันให้จริงจังมากขึ้นคงจะต้องเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันอีกเพราะสัตว์พูดไม่ได้ แล้วถูกทอดทิ้งถ้าเราไม่ช่วยมันก็ช่วยตัวเองไม่ได้เราจึงต้องช่วยกัน

ด้านคุณจิ๋วปรางทิพย์ อนันตวิภาค ประธานมูลนิธิคุณ เล่าถึงการก่อตั้งมูลนิธิขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะต้องการรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมสุขภาพและเรื่องช่วยน้องหมาแมวจรจัด ผ่านการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเช่นการแยกขยะการปั่นจักรยาน งานในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม มีการจัดงานปั่นจักรยานเลียบคลองแสนแสบเพื่อรณรงค์ให้ช่วยกันปั่นจักรยานเพื่อจะได้เป็นการลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงทุกต้นปี และครั้งนี้เป็นงานที่ต่อเนื่องจากกิจกรรมครั้งที่แล้ว โดยมีกำลังสำคัญคือ พี่ก้องสหรัถ สังคปรีชา ซึ่งเป็นผู้ที่รักการปั่นจักรยานอยู่แล้วเราก็เลยอยากจะจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อรณรงค์ใช้จักรยานในการเดินทาง ให้ลดฝุ่น ลดการขับรถยนต์ให้มากที่สุดรวมถึงหลักเรื่องรณรงค์การแยกขยะด้วย

การแยกขยะเราพยายามรณรงค์มา 3 ปีแล้ว สิ่งหนึ่งที่เริ่มเห็นได้ชัดเจนคือ คนส่วนมากเริ่มรู้จักการใช้ถุงผ้าแล้วก็คนเริ่มมีการพูดถึงการแยกขยะที่ถูกต้องและรัฐบาลก็เริ่มรณรงค์เรื่องของการแยกขยะที่ถูกต้อง ส่วนสื่อมวลชนเองเห็นความสำคัญได้มีการช่วยกันนำเสนอมากขึ้น

ส่วนกิจกรรมที่เราได้ทำร่วมกับคุณก้องสหรัถ เป็นแคมเปญปั่นจักรยาน ที่อยากสื่อให้เห็นว่าคนรักปั่นจักรยานช่วยโลกได้อย่างไร โดยเริ่มจากตัวเอง แล้วจะส่งเสียงให้คนรอบข้างหรือแฟนคลับได้เห็นว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรและช่วยชีวิตเราอย่างไร รวมถึงการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกัน โดยได้เครือข่ายจากผู้สนับสนุนต่างๆ และความร่วมมือจาก มศว ประสานมิตรที่เขามีเจตนารมณ์ในการรณรงค์เรื่องลดฝุ่นและลดขยะแยกขยะเหมือนกัน

สำหรับปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 คุณปรางทิพย์ มองว่าเป็นปัญหาระดับประเทศเกิดขึ้นทั่วประเทศไทยแน่นอนอาจจะทั่วโลกด้วย ในส่วนของเราที่เป็นคนที่เป็นมีจิตรักสิ่งแวดล้อมและต้องการรณรงค์เรื่องนี้ก็พยายามช่วยทำโครงการรณรงค์ว่าอย่างน้อยเริ่มจากตัวเรา ถ้าสามารถขี่จักรยานไปไหนใกล้ๆก็ขี่จักรยานเพื่อลดฝุ่นที่เกิดจากการใช้รถยนต์ ถ้าทุกคนมองปัญหาตรงนี้และช่วยกันทำคนละเล็กละน้อยก็ช่วยทำกันไปให้มีจิตสำนึกก็น่าจะช่วยกันได้ในระดับหนึ่ง แต่ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่จะต้องใช้เวลา

ประธานมูลนิธิคุณกล่าวอีกว่า ตอนที่ก่อตั้งมูลนิธิ หล่ยคนอาจจะงงว่าเราทำทั้งเรื่องสุขภาพทำเรื่องสิ่งแวดล้อมและทำเรื่องหมาแมวจรจัด ดูจะเป็นเหมือนว่าเป็นคนละเรื่องแต่จริงๆแล้วทุกอย่างเป็นสิ่งเดียวกันเราพยายามที่จะมองว่าปัญหาหมาแมวจรจัด เสมือนเป็นขยะที่มีชีวิต แต่ขยะสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถ้ามีการเลี้ยงดู ก็จะเป็นสิ่งที่น่ารักเพราะ สุนัขและแมวจะรักเจ้าของ เราเลยอยากจะหาวิธีการรณรงค์ ต่อว่าอย่าไปซื้อสุนัข-แมวตามตลาดที่เขาเพาะพันธุ์ขึ้นมา แต่ให้มองว่ายังมีหมาแมวจรจัดหลายตัว ที่ น่ารักและลองเอามาเลี้ยงให้ได้ไม่จำเป็นต้องทอดทิ้งพวกเขา

มูลนิธิคุณอยากจะเป็นฟันเฟืองเล็กๆ เราพยายามรณรงค์กันมา 3 ปีแล้ว ก็เริ่มเห็นว่าภาพที่เราได้นำเสนอไปก็มีคนในหน่วยงานรัฐบาล อยากจะร่วมมือด้วย สิ่งที่เราทำเล็กๆตรงนี้แล้วเราทำไปเรื่อยๆทุกคนจะเห็นภาพว่ามูลนิธิคุณกำลังช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมและสามารถมาทำและร่วมมือกันในระยะยาวได้ต่ออีกนี่คือสิ่งที่เกิดผลเต็มๆ หลังจากนี้ก็คงจะมีโครงการต่อเนื่องกันไป ทั้งการรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมและการแยกขยะใน EEC ที่มีโรงงานแยกขยะอยู่เขาก็อยากให้เราไปร่วมมือตรงนั้นด้วย พตรงนี้ก็จะเป็นสิ่งที่จะเข้าไปอยู่ในสายตาของรัฐบาลในอีกระดับหนึ่งเพราะ eec ก็ถือว่าเป็นโปรเจคสำคัญของรัฐบาล 

ขณะเดียวกันเราก็มีโครงการอยากปลูกฝังเด็กๆว่าเราควรจะลดการใช้ขยะพลาสติกหรือถ้าจำเป็นต้องใช้ เราจะมีวิธีการการจัดการขยะอย่างไร เริ่มต้นจากตัวเราควรจะเริ่มต้นอย่างไรให้ถูกต้อง ซึ่งเราก็ได้มีการทำเครื่องมือ้ล่าผ่านการทำหุ่นเชิดและรณรงค์สอนเด็กๆตามโรงเรียนต่างๆให้รู้วิธีการแยกขยะให้ถูกต้องแต่เผอิญมีเหตุการแพร่ระบาดของ covid ทำให้เราต้องพับโครงการนี้ไปก่อนแต่หลังจากนี้เราคงจะมีการออกแคมเปญตามโรงเรียน