เชิงบันไดทำเนียบ : อนาคต ‘ผู้กองมนัส’ ลมใต้ปีก ‘2ป.พยัคฆ์’ ดาวรุ่ง หรือ ดาวโรย ?

‘ผู้กองมนัส’ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ไม่ใช้ ‘รัฐมนตรีโลกลืม’ ด้วยบทบาทที่มีในพรรคพลังประชารัฐและเป็นกุนซือสำคัญในการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล ผ่านภารกิจ ‘ว.5’ ให้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม และ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่มารับบท ปธ.กก.ยุทธศาสตร์ พปชร. อย่างเต็มตัว ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ตกเป็นเป้านิ่งไปด้วย
.
ด้วยบทบาทที่โดดเด่น จนต้องออกมาแถลงข่าวถึงเรื่องราวในอดีตที่ถูกขุดขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่อง ‘ยศร้อยเอก’ ที่ใช้ด้วย แต่ก็คลายข้อสงสัยหลัง ‘ผู้กองมนัส’ ได้เป็น รมช.เกษตรฯ รวมทั้งทรงผมใหม่ที่เป๊ะกว่าเดิม ถือเป็นจุดสำคัญที่ได้ใช้ยศร้อยเอกอย่างเป็นทางการ

อย่างที่ทราบกันว่า ร.อ.ธรรมนัส จบ ตท.25 จปร.36 เคยเป็นอดีต ผบ.ร้อยสารวัตรทหาร ประจำกองบัญชาการกองทัพไทย รุ่นเดียวกับ ‘เสธ.หิ’พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ อีกทั้ง ‘ผู้กองมนัส’ ยังเป็นน้องรักของ ‘เสธ.ไอซ์’พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต (ตท.10-จปร.21) นายทหารผู้กว้างขวาง ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเคยทำธุรกิจบริษัทรักษาความปลอดภัยร่วมกันมาก่อน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สังคมรู้จัก ร.อ.ธรรมนัส มากขึ้นในเวลานั้น ผ่านบุคลิกที่ยิ้มแย้มแต่มีความสุขุมลุ่มลึกซ่อนอยู่ ทั้งนี้ ‘เสธ.ไอซ์’ ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 กับอดีตนายกฯทักษิณ และ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ด้วย
.
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส มีฐานที่มั่นอยู่ที่ จ.พะเยา และทำงานการเมืองในพื้นที่มานาน อย่าลืมว่าพื้นที่ภาคเหนือเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มี ‘เจ๊แดง’เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ‘ทักษิณ’ คุมพื้นที่อยู่ ทำให้เวลานี้มีการเปรียบคู่มวยพื้นที่ภาคเหนือระหว่าง ‘เจ๊แดง’ กับ ‘ผู้กองมนัส’ ด้วย
.
‘ผู้กองมนัส’ เดินเข้าสู้เส้นทางการเมือง เริ่มต้นในการเป็นทีมยุทธศาสตร์เลือกตั้ง กทม. พรรคไทยรักไทย เมื่อปี2542 หลังลาออกจากราชการทหาร และอยู่ใน ‘ถนนเส้นทางสีแดง’ มาจนถึงพรรคเพื่อไทย และลงเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ปี57 แต่เกิดรัฐประหาร 22พ.ค.57 ขึ้นมาก่อน จึงทำให้ ร.อ.ธรรมนัส โลว์โปร์ไฟล์ตัวเองลงไป เพราะชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ถูกจัดในบัญชีของ คสช. ด้วย

จนสุดท้ายได้ปรากฏกายอีกครั้ง ในการเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ โดยให้เหตุผลว่ามี ‘พี่ที่เคารพ’ ชวนมาเข้าพรรคพลังประชารัฐ และการรีเทิร์นครั้งนี้ มาพร้อม ‘บทบาทนำ’ ของ ร.อ.ธรรมนัส อย่างมาก ทั้งหมดนี้ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส รู้จักคนหลากหลายวงการและหลายขั้ว โดย ร.อ.ธรรมนัส เคยระบุเคล็ดลับการไปพูดคุยว่าต้องรู้ว่าเรื่องใดต้องไปคุยกับใครและคุยอย่างไร ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว
.
ในเวลานี้ดูเหมือนจะเข้าสำนวน ‘ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน’ หลังพิสูจน์ฝีมือให้ ‘2ป.บูรพาพยัคฆ์’ ได้เห็นมาแล้ว จึงเป็นที่ไว้วางใจอย่างมาก โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร ที่ได้แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส นั่ง ปธ.อนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ในคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็น ปธ.กรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะที่เป็น รองนายกฯ ที่กำกับ ก.ทรัพยากรฯ นั่นเอง

ล่าสุด ‘ผู้กองมนัส’ ได้ลุยจัดระเบียบตลาด อ.ต.ก. ใช้โมเดลแก้ปัญหาตลาดคลองเตย ปราบมาเฟียตลาด อ.ต.ก. แก้ปัญหาผู้ค้าในตลาดใช้นอมินีถือแผงค้าแทน ย้ำตลาดนี้ต้องเป็นตลาดของเกษตรกรอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์ทำตลาดมาหลายแห่ง รวมทั้งการลงพื้นที่ตรวจภัยแล้งมาโดยตลอด จนทำให้เจ้าตัวเคยพูดว่าได้นอนวันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น แม้เป็น ‘รัฐมนตรีช่วย’ แต่บทบาทกลับเด่นไม่แพ้ ‘รัฐมตรีว่าการ’ เลยทีเดียว
.
“ในเรื่องของการบริหารตลาด ผมเป็นเจ้าของตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ผมเคยเป็นผู้บริหารตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท ถึงมาทำตลาดคลองเตย ผมรู้ว่าจะบริหารอย่างไร ผมเคยจัดการกับมาเฟียตลาดคลองเตย ที่มีแผงค้ากว่า 10,000 แผง สามารถกวาดล้างมาเฟียได้ภายใน 6 เดือน ส่วน อ.ต.ก. มีร้านค้าเพียง 608 แผง จึงคาดว่าจะทำได้รวดเร็วกว่า” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
.
นอกจากนี้ภายหลัง ‘บิ๊กป้อม’ ได้นำประชุมพรรคพลังประชารัฐ หลังรับตำแหน่ง ปธ.กก.ยุทธศาสตร์ ก็ได้กล่าวถึง 5 ส.ส. ของพรรคที่เป็นรัฐมนตรีด้วย ด้วยสภาวะสภาปริ่มน้ำ ขอให้เข้าประชุมสภา ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็เชื่อว่าทั้ง 5 รัฐมนตรี แม้จะไม่ลาออกจาก ส.ส. ก็สามารถเข้าร่วมประชุมและลงมติได้ทุกนัด เพราะมีผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ช่วยทำงาน ซึ่ง 5 รัฐมนตรี ก็ยังไม่มีใครลาออกจาก ส.ส.
.
ทั้งนี้มีการมองว่าด้วยสภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำและในพรรคพลังประชารัฐมีการแบ่งก๊กก๊วน หลังพรรคพลังประชารัฐถูกตั้งมาด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด ผ่านปรากฏการณ์พลังดูด ส.ส.จากมุ้งต่างๆ สิ่งเหล่านี้ออกฤทธิ์ให้เห็นกันมาแล้ว ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล ที่กลุ่มสามมิตร งัดข้อกับ กลุ่ม กปปส. และ สี่กุมาร ความขัดแย้งนี้แผ่ขยายจนสังคมได้เห็น จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกสารนายกฯขอโทษประชาชนมาแล้ว แต่ทุกอย่างก็สยบลงไป เมื่อทุกก๊กยอมถอยเพื่อให้ภาพรวมได้ไปต่อ แน่นอนว่ามี ‘ผู้อกหัก’ ระหว่างทางด้วยตำแหน่งมีจำกัด
.
ดังนั้นการแก้ปัญหาหนึ่งที่ต้องมีในอนาคตคือการปรับครม. หาก 5 รัฐมนตรีไม่มีเก้าอี้ ส.ส. ในสภารองรับ ก็จะเข้าสภาวะ ‘ขาลอย’ ได้ จึงทำให้การมีเก้าอี้ ส.ส. รองรับอยู่นั้น ทำให้ยังมีเอกสิทธิ์ในการเป็น ส.ส. มีที่ทางและบทบาทของตัวเองได้

อย่างไรก็ตามมีการมองถึงบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส ในพรรคพลังประชารัฐในอนาคต หากพรรคปรับโครงสร้าง ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส มีชื่อขึ้นชิงเป็น ‘เลขาธิการพรรค’ ตีคู่แคนดิเดต ‘ตั้น’ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ซึ่งตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็คือตำแหน่ง ‘พ่อบ้านพรรค’ ที่ต้องประสานพรรคอื่นๆ แม้ที่ผ่านมาแม้ ร.อ.ธรรมนัส จะเป็น ปธ.ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ แต่ก็ทำหน้าที่ ‘มือประสานสิบทิศ’ ให้พรรคมาตลอด ทำให้มี ‘บารมี’ มากกว่าตำแหน่งที่เป็นอยู่
.
จับตา ‘บทบาท-บารมี’ ของ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะ ‘ลมใต้ปีก’ ของ ‘ป.ประวิตร-ประยุทธ์’ หลังรีเทิร์นจาก ‘ขั้วสีแดง’ มายัง ‘พรรคสีเขียว’ จากนี้ให้ดี