เชิงบันไดทำเนียบ : จะ ‘ลุงตู่’ หรือ ‘ลุงป้อม’ ก็เหมือนกัน ? คุม ‘กลาโหม’ ยุคเปลี่ยนผ่าน

เขย่าโผครม. ช่วงโค้งสุดท้าย สะเทือนมาถึง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม หลังมีกระแสจะเหลือเพียง 1 เก้าอี้ใน ครม.ชุดใหม่เป็น รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และให้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ควบ รม.กลาโหม แต่ก็มีการมองว่าไม่ว่าจะเป็น ‘บิ๊กป้อม’ หรือ ‘บิ๊กตู่’ ก็ไม่ต่างกัน ด้วยสายสัมพันธ์ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ที่แค่มองตาก็รู้ใจ
.
ทว่าก็มีการมองว่า พล.อ.ประวิตร อาจนั่ง รมว.กลาโหม ตามเดิม แต่ให้ รมช.กลาโหม มาช่วยเบาภาระงาน ซึ่งชื่อที่เต็งหนึ่ง คือ ‘บิ๊กช้าง’พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม อีกครั้ง แต่ พล.อ.ประวิตร ได้เปรยว่า “แบบนี้ก็เอาเปรียบเขาสิ” ก็ยิ่งตอกย้ำโอกาสที่จะควบ รมว.กลาโหม ยิ่งลดลงไป

ในเวลานี้เอง พล.อ.ประวิตร ก็ย้ำถึงเรื่องสุขภาพมากขึ้น ว่า “ดูร่างกายผมสิ มันไม่ค่อยไหว” ซึ่งเรื่องนี้เองนายทหารน้องและคนสนิทต่างเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ก็เข้าโรงพยาบาลหลายครั้งและด้วยอายุที่ย่างเข้า 74 ปีเต็ม ซึ่งก็อยากให้รักษาสุขภาพมาเป็นลำดับแรก เพราะเกรงว่าหากยังไม่ดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ อาจทำให้สุขภาพยิ่งแย่ลงไปอีก
.
ซึ่งเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจในระดับ ‘บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่’ โดย พล.อ.ประวิตร ยังคงไม่สามารถยืนยันคำตอบกับสื่อได้ แต่ในใจลึกๆ พล.อ.ประวิตร ก็พร้อมที่จะรับกับทุกคำตอบ โดยในเวลานี้จึงตอบได้เพียงยัง ‘ครึ่งๆกลางๆ’ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ตัดสินใจคนเดียวทั้งหมด จึงเป็นช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ พล.อ.ประวิตร มีท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ในการตอบคำถามอนาคตทางการเมืองของตนเอง แต่ก็มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และขอให้สื่อติดตามต่อไป
.
“ขอให้ดูไปแล้วกัน ถ้ามีคำสั่งโปรดเกล้าฯ ลงมาก็ทำ แต่ถ้าไม่มีคำสั่งโปรดเกล้าฯ ลงมาก็ไม่ทำ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ก็ระบุว่า นายกฯยังไม่ได้มาคุยกับตน เพราะยุ่งอยู่กับการจัดการปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ หลังมีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นเป็น หน.พรรคเอง หลังพ้นจากการเป็น หัวหน้า คสช.ไปแล้ว และเข้าสู่โหมดการเมืองปกติ และมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว โดยมีรายงานว่ามีการนำใบสมัครสมาชิกพรรคไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ส่วน ‘บิ๊กป้อม’ ก็มีกระแสข่าวจะไปนั่งเป็น ปธ.ที่ปรึกษาพรรคฯ จนทำให้ถึงกับเปรยว่า หลุดไปได้อย่างไร พร้อมระบุว่ายังไม่รับตำแหน่ง เพราะยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค
.
“ยังไม่มีการพูดคุย แล้วหลุดไปได้อย่างไร ใครเป็นคนพูด ผมไม่รู้และไม่รู้จริงๆ” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
สำหรับในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เก็บตัวเงียบทำงานที่ ทำเนียบฯ แต่ได้ออกมากล่าวถึงกระแสข่าวควบ รมว.กลาโหม โดยไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ปิดทางตัวเอง และมีท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ไม่น้อย ว่า “เรื่องเหล่านี้ผมดูเอง แต่ไม่ได้พูดว่าจะดูกลาโหมนะ หมายถึงผมจะดูในภาพรวมเอง” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีทีมงานที่จะทำงานด้านความมั่นคงเช่นกัน

แต่ก็มีบางส่วนที่กังวลถึงช่วง ‘รอยต่อ’ ของงานกระทรวงกลาโหม ที่ใกล้จะมีการประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ด้วย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ถือเป็น รมว.กลาโหม ที่อาวุโสที่สุดของอาเซียน และช่วง 8 ปีที่เป็น รมว.กลาโหม 2 รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์-ประยุทธ์ ก็ทำงานได้ราบเรียบ เข้าใจเนื้องานทั้งหมด
.
แม้ที่ผ่านมาจะมีการพูดถึงชื่อบุคคลสำคัญอื่นๆจะมานั่ง รมว.กลาโหม แต่น้ำหนักยังไม่เท่าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในเวลานี้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ‘บิ๊กตู่’ หรือ ‘บิ๊กป้อม’ ก็ไม่แตกต่างกัน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ยังคงเป็นผู้ช่วยอยู่ ‘เบื้องหลัง’ ได้เช่นเดิมและสายตรงถึงกันเสมอ
.
หาก พล.อ.ประวิตร ไม่ได้นั่งตำแหน่งใดเลย ก็ยังคงทำหน้าที่ ‘พี่ใหญ่’ ต่อไปอย่างเงียบๆ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ แทน และได้ดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ เพราะสุดท้ายเมื่อเกิดปัญหากับ ‘ครม.ปริ่มน้ำ’ ขึ้นมา และสภาวะ ‘สภาปริ่มน้ำ’ ก็ต้องอาศัย ‘บารมี-คอนเนคชั่น’ ของ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นผู้ใหญ่สุดมาเจรจาและประสานต่างๆ ท่ามกลางฤทธิ์เดชของบรรดานักการเมือง ที่พร้อมงัดข้อ-ต่อรองทางการเมือง
.
ว่ากันว่างานนี้ ‘บิ๊กป้อม’ มีคำตอบ – ทางลงในใจแล้ว !!