E-DUANG : แล้ว”ยิ่งลักษณ์”ก็แปรเป็น “นักการตลาด”

ทำท่าว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะกลายเป็น “นักการตลาด” ที่กำลังประสบความสำเร็จเด่นชัดขึ้นเป็นลำดับ

จากการจัด “อีเว้นต์”

“อีเว้นต์” ซึ่งถือกันว่า เป็นแผนการตลาดในลักษณ์ จัดฉากและสร้างภาพ

เหมือนกับเป็นเรื่องฉาบฉวย เว่อร์-เว่อร์

ตัว “สินค้า” อื่น-อื่นอาจกลายเป็นอย่างนั้น แต่เมื่อผ่านเข้ามาสู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

กลับไม่ได้เว่อร์-เวอร์ กลับไม่ได้ฉาบ-ฉวย

เพราะว่า “อีเว้นต์” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีคนเลียนแบบและทำตาม

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นมีลักษณะ “ยกระดับ”

ยกระดับจาก “อีเว้นต์” อย่างธรรมดา-ธรรมดา เหยียบบาทก้าวเข้าไปสู่พรมแดนอันดำเนินไปอย่าง “สร้างสรรค์”

มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการหยุดนิ่ง

อย่าว่าแต่ระดับ”หมอจ๊ะ-หมอตา”จะกระบอกตา”ร้อนผ่าว” เลย แม้กระทั่งกูรูระดับ ฟิลิป ค็อตเลอร์ ก็ต้องขอดูตัว

เพราะเป็นอีเว้นต์ขั้น”เทพ”

 

ขอให้จับตาจากการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ต่อเนื่องมายังวันที่ 17 พฤศจิกายน

จะสัมผัสได้ถึงลักษณะอันเป็น “พลวัต”

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน แค่เดินทางไป อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ แล้วซื้อ “ข้าวสาร”

วันที่ 5 พฤศจิกายน เริ่ม”ขาย”

ตอนแรกขายที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ รามอินทรา ต่อมาขายที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง สมุทรปราการ

จุดแรก 1 ชั่วโมงหมด จุดหลัง 30 นาทีหมด

รูปธรรมนี้สะท้อนว่า “ประชาชน”ให้ความสนใจ “ประชาชน”ให้การสนับสนุน

แทนที่จะ”ทำซ้ำ” กลับ “ยกระดับ”

 

การยกระดับในวันที่ 17 พฤศจิกายนเห็นได้จากชื่ออีเว้นต์ที่รับรู้กันโดยทั่วไป

ช่วยชาวนา

สร้างมูลค่าข้าวไทย ร่วมใจบริโภคเพิ่มขึ้น

มิได้เสนอเป็น “สโลแกน” อย่างเลื่อนลอย หากแต่มี”ปฏิบัติการ” อย่างเป็นจริง

นั่นก็คือ สร้างมูลค่าจาก”การแปรรูป”

นั่นก็คือ การคิดประดิษฐ์สร้างอาหารจากการแปรรูปจากข้าวจำนวนเกือบ 50 เมนู

มีแต่ทำอย่างนั้เท่านั้นจึงจะนำไปสู่”การบริโภค”เพิ่มขึ้น

“สุดท้ายเมื่อความต้องการซื้อและความต้องการขายสมดุลกัน ราคาจะขยับตัวขึ้นตามธรรมชาติ”

เป็นการสร้าง”อุปสงค์” เป็นการหนุน”อุปทาน”

ที่สำคัญคือ เป็นการลงมือ”ทำ” มิใช่ “ดีแต่พูด”เหมือนบางคน