ไม่หลาบจำ ร้านบุหรี่ไฟฟ้าถูกจับมาแล้ว 2 ครั้ง ยังกลับมาลักลอบขายมอมเมาเยาวชน

ผู้ว่าสกลนคร สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองสนธิกำลังฝ่ายความมั่นคง บุกจับร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอเมืองสกลนคร รอบที่ 3 ย้ำพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบการกระทำความผิด แจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้ (29 ก.พ. 67) นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า จังหวัดสกลนครได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มีนโยบายมุ่งมั่นในการจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพลมาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาจังหวัดสกลนครได้บูรณาการทุกภาคส่วนดำเนินมาตรการเข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวสกลนครได้มีสังคมที่มั่นคง สงบเรียบร้อย ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่เด็กเยาวชน และสวัสดิภาพของชุมชน

นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชาชนได้มีการร้องเรียนมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนครว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็ก เยาวชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองสกลนคร ซึ่งเคยถูกจับดำเนินคดีมาแล้วถึง 2 ครั้ง และอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นสอบสวน ตนจึงได้สั่งการให้ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร ปลัดจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนายกองตรีรัฐศาสตร์ หาบสา ป้องกันจังหวัดสกลนคร และนางสาวจิราภรณ์ เบิกบานดี นายอำเภอเมืองสกลนคร บูรณาการกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสกลนคร และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสกลนครเข้าตรวจสอบร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ตามข้อร้องเรียนดังกล่าว

“จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าตามที่ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองสกลนคร พบร้านที่ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า 2 ร้าน ประกอบด้วย 1) ร้านสามแยก พบผู้ต้องหาเพศหญิง 1 ราย อายุ 36 ปี ซึ่งถูกจับกุมในลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง พร้อมของกลางพอต 195 อัน น้ำยา 82 อัน อุปกรณ์เสริม 359 อัน เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 18 เครื่อง และ 2) ร้านบ้านควันหอม พบผู้ต้องหาเพศชาย 1 ราย อายุ 23 ปี เพศหญิง 1 ราย อายุ 25 ปี พร้อมของกลางพอต 334 อัน เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 41 อัน โดยรวมมูลค่าของกลางทั้ง 2 ร้านเป็นจำนวนเงินประมาณ 96,340 บาท เบื้องต้นชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาให้กับทั้ง 2 ร้าน ดังนี้ 1. ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรจะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ชุดจับกุมยังได้ตั้งข้อหาเจ้าของสถานที่ที่ให้เช่าในข้อหาสนับสนุนการกระทำความผิดในข้อหาหลักร่วมกับตัวการผู้กระทำความผิดทั้งสองข้อหา และได้ตั้งข้อหากับตัวการร่วมผู้กระทำความผิดกับบุคคลผู้มีรายชื่อในรายการเจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงินที่ได้จากการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ร้านโอนให้ในแต่ละวัน โดยชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและพยานหลักฐานทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสกลนคร และนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนครเพื่อดำเนินคดีต่อไป” นายณัฐวัสส์ฯ กล่าว

นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวในช่วงท้ายว่า จังหวัดสกลนครได้ดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เข้มข้น ด้วยความทุ่มเท เสียสละของฝ่ายปกครองและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเร่งดำเนินการหาข่าวการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ แจ้งเบาะแสให้กับหน่วยงานความมั่นคงเข้าดำเนินการ ปิดล้อม จับกุม ตรวจค้น ตลอดจนดำเนินการลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อย สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากมีเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และการกระทำความผิดทุกประเภท หรือมีเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ สามารถแจ้งข้อมูลและร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood