มท. หารือร่วมคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา มุ่งหนุนเสริมจัดตั้ง “ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”

กระทรวงมหาดไทยหารือร่วมคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา มุ่งหนุนเสริมจัดตั้ง “ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” เพื่อขับเคลื่อนและขยายช่องทางการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างสะดวกสบายทั่วถึงทุกพื้นที่

วันนี้ (14 มิ.ย. 66) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมหารือประเด็นการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมดำเนินการเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยมี นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สี่ ว่าที่ร้อยตรี เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กรรมาธิการฯ รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ กรรมาธิการฯ ร่วมประชุม ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีนายบรรจบ จันทรัตน์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ผู้แทนสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา กล่าวว่า ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) เป็นการบูรณาการส่วนราชการที่มีภารกิจให้บริการประชาชนและอำนวยความสะดวกแบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานที่แห่งเดียวโดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อหลายหน่วยงาน ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการ ฯ มีความตั้งใจเดินทางไปติดตามการทำงานของศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ กว่า 50 จังหวัด ซึ่งจากการลงพื้นที่ทำให้พบว่า นอกจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอที่เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จแล้วนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่งก็มีบทบาทและมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จได้ จึงเป็นที่มาของการประชุมหารือในวันนี้ โดยคณะกรรมาธิการ ฯ มีความเห็นว่า การดำเนินการ ฯ อาจจะเริ่มต้นขยายผลไปใน อปท. ที่มีความพร้อมก่อน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยส่งเสริม ต่อยอด และพัฒนาให้ อปท. เป็น OSS เพื่อความสะดวกสบายแก่พี่น้องประชาชนในการเข้าถึงการรับบริการของภาครัฐในศูนย์บริการใกล้บ้านที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ นอกจากนี้ “ต้องขอชื่นชมกระทรวงมหาดไทยในการริเริ่มเป็นผู้นำพัฒนาการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service)” ที่ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการภาครัฐด้านธุรกรรมงานทะเบียนราษฎรด้วยโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว อันสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลดิจิทัลที่จะทำให้เกิดความทันสมัย ช่วยเพิ่มศักยภาพ ประสิทธิภาพในการทำงานและอำนวยความสะดวกในการบริการให้กับพี่น้องประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา และท่านคณะกรรมาธิการ ฯ ทุกท่านที่ได้ให้เกียรติกับกระทรวงมหาดไทยในวันนี้ โดยตนขอเรียนถึง Passion หรือ “ใจ” ของคนมหาดไทยอันสะท้อนผ่านพันธกิจที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย คือการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาและนำเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่มาช่วยในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยมีส่วนราชการระดับกรมที่มีงานบริการใกล้ชิดและเกี่ยวข้องกับสวัสดิการและสวัสดิภาพของประชาชนโดยตรง คือ 1) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นซึ่งได้มีการพัฒนาระบบ e-Service เพื่อส่งเสริมให้ อปท. ได้นำไปใช้อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน เช่น ระบบรับชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างผ่านระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ของ อปท. (e-LASS) ด้วยระบบ QR Payment ระบบสารสนเทศในการให้บริการประชาชน (Local Service) ในการยื่นแบบโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศในพื้นที่สาธารณะ การยื่นแบบเพื่อชำระค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ. จากผู้พักในโรงแรม ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการฐานข้อมูลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อปท. นอกจากนี้ อปท. ยังได้เปิดให้บริการ e-Service แก่ประชาชนผ่านหน้าเว็บไซต์ของ อปท. เอง ทั้งในเรื่องงานบริการด้านคุณภาพชีวิตประชาชน งานบริการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และงานบริการที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีบริการที่แตกต่างกันไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่และอำนาจหน้าที่ของ อปท. ทั้ง 3 รูปแบบ คือ อบจ. เทศบาล และ อบต. และเพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ใน อปท. ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้สำรวจไปยัง อปท. และได้รับการยืนยันจาก อบจ. จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อบจ.ชลบุรี อบจ.พัทลุง อบจ.แพร่ อบจ.สกลนคร และ อบจ.สุพรรณบุรี พร้อมที่จะนำร่องดำเนินการให้กับพี่น้องประชาชน ก่อนจะขยายผลการดำเนินการไปยัง อบจ. อื่นต่อไป

“ส่วนต่อมาที่กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเพื่อพัฒนางานบริการด้านการทะเบียนราษฎรให้กับประชาชน โดยกรมการปกครองได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Thai Digital Identity (ThaiD) หรือ ไทยดี เพื่อเป็นระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล รองรับการใช้งานของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรร่วมกับหน่วยงานภาครัฐผ่านการให้บริการด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียวแทนการใช้สำเนาเอกสาร และยังเป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรมภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางดิจิทัล และมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยแอปพลิเคชัน ThaiD (ไทยดี) จะแสดงภาพบัตรประจำตัวประชาชนในรูปแบบดิจิทัล ทั้งด้านหน้าบัตร และหลังบัตร พร้อมช่องทางการบริการงานต่าง ๆ อาทิ การตรวจสอบข้อมูลของตนเอง การขอรับบริการล่วงหน้า การแจ้งย้ายที่อยู่ด้วยตนเอง การมอบหมายปลูกสร้างบ้านใหม่ (ขอเลขที่บ้าน) การคัดรับรองเอกสารด้วยตนเอง ซึ่งในระยะแรก มีหน่วยงานภาครัฐตอบรับร่วมใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล 30 หน่วยงาน และจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ซึ่งในตอนนี้สามารถยืนยันตัวตนกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แล้ว อาทิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และกรมท่าอากาศยาน ใช้แสดงตนเพื่อโดยสารสายการบินภายในประเทศ กรมการกงสุล ใช้ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในการขอทำหนังสือเดินทาง นอกจากนี้เรามีความตั้งใจจะทำให้ ThaiD กลายเป็นกระเป๋าเอกสารภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ที่รวบรวมเอกสารส่วนบุคคลทั้งหลายทั้งปวงของทุกหน่วยงาน เช่น ใบขับขี่ ใบรับรองผลการเรียนนักเรียน (ปพ.) หนังสือจดทะเบียนต่าง ๆ เป็นต้น โดยขอให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่า กระทรวงมหาดไทยมี Passion มุ่งมั่นตั้งใจและพร้อมที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น “ไทยแลนด์ 4.0” รวมทั้งทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ในปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกแห่งได้มีการจัดทำการชำระภาษีในรูปแบบออนไลน์ และการรับส่งเอกสารเรื่องร้องเรียนในรูปแบบ Smart Office ซึ่งเป็นที่ประทับใจของพี่น้องประชาชนผู้เข้ารับบริการในการแก้ปัญหาได้ทันท่วงที “ขอยืนยันว่า อบจ.ทุกจังหวัดพร้อมที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ให้ได้รับความสะดวกสบายในการรับบริการของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น”

รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ กรรมาธิการ ฯ กล่าวว่า ความท้าทายในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน คือ พี่น้องประชาชนขาดความคุ้นเคยและไม่มั่นใจในการใช้เทคโนโลยี โดยเจ้าหน้าที่จะต้องสร้างการรับรู้และทำให้ธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ครอบคลุมไปทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ซึ่งต้องขอชื่นชมกระทรวงมหาดไทยที่ได้ขับเคลื่อนดำเนินการหลาย ๆ ส่วนคืบหน้าไปมาก ทั้งนี้ การต่อยอดแอปพลิเคชัน “ThaiD” ให้เชื่อมต่อควบรวมบริการภาครัฐหลาย ๆ หน่วยงานและข้ามกระทรวง รวมทั้งการเชื่อมต่อกับบริการของภาคเอกชนในอนาคต จะเป็นประโยชน์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของพี่น้องประชาชน โดยใช้ช่องทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอที่เชี่ยวชาญด้าน service center รวมทั้ง ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ของ อปท. ที่ใกล้ชิดประชาชน ช่วยแนะนำให้พี่น้องประชาชนได้เริ่มใช้เทคโนโลยีและแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ อันจะช่วยทำให้ทุกพื้นที่เข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างราบรื่นและยังผลทำให้การดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนตามที่กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นตั้งใจไว้นั้นเกิดความยั่งยืน

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2566
วันที่ 14 มิ.ย. 2566