รมว.สุชาติ พบปะลูกจ้างสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ฯ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

รมว.สุชาติ พบปะลูกจ้างสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ฯ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 43/2566 ของสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย โดยมี นายปรัชญา สมบูรณ์ ประธานสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้เข้าร่วมประชุม ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรมเมเปิ้ล ถนนศรีนครินทร์ เขตบางนากรุงเทพมหานคร

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคนเป็นส่วนสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศ ในห้วงที่ผ่านมาแน่นอนว่าพวกเราได้ก้าวผ่านช่วงวิกฤตโควิดด้วยกันมามากมาย ผม ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และพี่น้องเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน รวมทั้งพี่น้องแรงงานร่วมมือกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจับมือกันจนผ่านพ้นมาได้ ซึ่ง IMF คาดปี 2566 จีดีพีไทยเป็นบวก อัตราการว่างงานต่ำที่สุดในโลก แม้เป็นช่วงพีคของโควิด ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดประเทศและการลงทุนขนาดใหญ่ที่สร้างเสถียรภาพ จนทำให้มีอัตราว่างงานเพียงร้อยละ 1.5 % และคาดว่าปีหน้าก็จะยังคงต่ำที่สุดของโลก มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านโควิดของกระทรวงแรงงานภาพรวม อาทิเช่น ตรวจโควิดแบบประจำจุดและตรวจเชิงรุกในโรงงาน ผลการตรวจโควิด 526,657 คน ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แรงงานแล้ว 3,962,206 โดส โครงการแฟคทอรี่ แซนบ๊อก มีแรงงานเข้าร่วม 407,770 คน ฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 112,746 โดส ลดเงินสมทบให้แก่ผู้ประกันตน เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 163,492 ล้านบาท มาตรา 33 และ มาตรา 39 รวม 7 ครั้ง ผู้ประกันตน 13.36 ล้านคน นายจ้าง 502,693 ราย เป็นเงิน 160,250 ล้านบาท และ มาตรา 40 รวม 2 ครั้ง ผู้ประกันตน 10.80 ล้านคน เป็นเงิน 3,242 ล้านบาท เยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 29 จังหวัด นายจ้าง จำนวน 192,951 ราย ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 3.75 ล้านราย รวมเป็นเงิน 32,542.27 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 39 จำนวน 1.37 ล้านราย มาตรา 40 จำนวน 7.21 ล้านราย รวมเป็นเงิน 71,214.63 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตนในกิจการสถานบันเทิงฯ มาตรา 33 มาตรา 39 และ มาตรา 40 นายจ้าง 192,951 คน ผู้ประกันตน 12.48 ล้านราย รวมเป็นเงิน 104,495.50 ล้านบาท เยียวยาจากการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ 81,136 คน เป็นเงิน 412.65 ล้านบาท ฉีดวัคซีนให้แก่คนงาน 606 แคมป์ ผู้ประกันตน 67,282 คน ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้พี่น้องแรงงานสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม โดยมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่ 354 – 328 บาท ซึ่งได้ประกาศใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงภารกิจที่กระทรวงแรงงานกำลังเร่งดำเนินการ อาทิ เร่งผลักดันแก้ไขกฎหมายประกันสังคม 3 ขอ ขอเลือก ขอคืน ขอกู้ ผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. …. รวมถึงจัดตั้งธนาคารเพื่อผู้ประกันตน เพื่อวางรากฐานความมั่นคงให้แก่พี่น้องแรงงานในอนาคตอีกด้วย

“ผมขอขอบคุณสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทยที่ได้รวมตัวกันจัดตั้งและร่วมกันบริหารจัดการองค์กรแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความสามัคคีปรองดองของสมาชิก ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อนายจ้าง รวมถึงการประสานประโยชน์ให้เกิดการยอมรับเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญ บนพื้นฐานระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ผมขอให้ทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันเพื่อขับเคลื่อนองค์กรและประเทศชาติต่อไป” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายปรัชญา สมบูรณ์ ประธานสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในนามพี่น้องสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณรัฐบาล และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ช่วยเหลือพี่น้องสหภาพแรงงานให้สามารถก้าวพ้นวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาได้ ทั้งการตรวจโควิดและฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาอื่นๆ ที่ทำให้พวกเราสามารถรอดพ้นโควิดมาได้และรักษาการจ้างงานให้สถานประกอบการดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ