สผ. และ UNDP จับมือผลักดันกลไกการเงินแก้ไขปัญหาโลกร้อน พร้อมเน้นย้ำเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ

28 มิถุนายน พ.ศ.2562 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP) เปิดตัวโครงการสนับสนุนการดำเนินงานตามการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายหลังปี ค.ศ. 2020: การสร้างความยั่งยืนผ่านกลไกทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย (NDC Support) มุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายเพื่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามที่กำหนดภายใต้ข้อตกลงปารีส หรือที่เรียกว่า Nationally Determined Contributions (NDCs) โครงการนี้มีเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างกลไกทางการเงินเพื่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและราชอาณาจักรสวีเดนให้การสนับสนุนงบประมาณ

โครงการนี้เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สผ. และยูเอ็นดีพี มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี โดยตั้งเป้าจัดทำกรอบการบริหารจัดการกลไกทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีมาตรการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบบูรณาการ อีกทั้งจะเพิ่มขีดความสามารถให้ทุกภาคส่วนมีการปรับตัวและรับมือกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ภัยแล้ง ดินถล่ม หรือสภาพอากาศร้อนจัด 

จากรายงานขององค์กร Germanwatch ได้ระบุว่าประเทศไทยติดอันดับสิบของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงที่สุดในโลกในปี2019 นอกจากนี้ ยังพบว่า พื้นที่การเกษตรกว่าร้อยละ 60 หรือประมาณ 90 ล้านไร่มีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในภาวะฝนแล้งหรือน้ำท่วม ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อการพัฒนาและการเติบโตของประเทศไทย

ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มขีดความสามารถในการฟื้นตัวจากภาวะโลกร้อน” นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการ สผ. กล่าวแสดงความเห็น และเผยอีกว่า “ประเทศไทยได้มีการบูรณาการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบายและแผนพัฒนาของประเทศทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564 รวมถึงแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558-2593

การที่ประเทศไทยจะรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้นั้น จำเป็นต้องวางแผนดำเนินการให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อบูรณาการให้เกิดกลไกทางการเงินที่เป็นระบบสำหรับการจัดการปัญหาและผลกระทบจากภาวะโลกร้อน โครงการ NDC Support จึงตั้งเป้าที่จะริเริ่มการนำมิติทางสังคมและความเท่าเทียมทางเพศมาใช้ในการวางแผนงบประมาณภาครัฐที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ จะให้มีการประเมินมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่กระตุ้นให้เอกชนลงทุนในเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือระยะยาวระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชนในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต

ด้านนายเกออร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยกล่าวว่า ประเทศเยอรมนีเป็นพันธมิตรกับประเทศไทยในระดับทวิภาคีในด้านการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในด้านการจัดการขยะ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ มาตรการป้องกันน้ำท่วม หรือแม้กระทั่งการผลิตตู้เย็นประหยัดพลังงาน ที่ผ่านมาประเทศเยอรมนีให้การสนับสนุนด้านงบประมาณแก่ประเทศไทยในการดำเนินโครงการในระดับทวิภาคีกว่า 60 ล้านยูโร และตั้งใจที่จะสนับสนุนต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ การให้ความสำคัญกับงบประมาณเป็นเรื่องจำเป็น มีนักวิจารณ์หลายคนมองว่าการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่ผมคิดว่าการไม่ทำอะไรเลยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพวกเราและคนรุ่นต่อไปมากกว่านั้

ภาวะโลกร้อนมีผลกระทบต่อทุกคนแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ดังนั้น เพื่อเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องในวงกว้างให้ได้มากที่สุด โครงการ NDC Support จึงตั้งใจร่วมมือกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐทั้งระดับประเทศและท้องถิ่น และส่งเสริมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถในการฟื้นตัวจากปัญหาโลกร้อนในกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส

นางสาวโอซ่า ฮียเดน หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สถานทูตสวีเดนประจำประเทศไทย กล่าวว่า มีผลการศึกษาหลายชิ้นที่ยืนยันว่าปัญหาภาวะโลกร้อนมีผลกระทบต่อกลุ่มผู้หญิง ผู้ชาย คนรวย และคนจนไม่เท่ากัน โดยกลุ่มผู้หญิงและเด็ก รวมถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาสจะได้รับผลกระทบมากกว่า ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับข้อจำกัดในการปรับตัวและรับมือกับความเสี่ยง

นายเรอโน เมเยอร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า การที่เราทุกคนมาอยู่ร่วมกันในงานเปิดตัวโครงการ NDC Support นี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการสร้างร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด เพื่อนำแนวนโยบายและกลไกทางการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปใช้แก้ไขปัญหาระดับโลก

นายเรอโนกล่าวต่อว่า ยูเอ็นดีพีมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือกันในโครงการ NDC Support นี้ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม จะช่วยผลักดันไปสู่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ครบวงจร ทำให้เราประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน รวมถึงมีส่วนในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้

การเน้นย้ำให้มีการจัดการปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบบูรณาการ นอกจากจะทำให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มขีดความสามารถในการฟื้นตัวแล้ว ยังมีผลดีต่อความมั่นคงของประเทศไทยในอนาคตโดยรวมอย่างยั่งยืน

ปัญหาโลกร้อนไม่ได้เป็นปัญหาที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่คือความท้าทายที่ทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน ถ้าทุกคนร่วมมือกันกันอย่างจริงจัง เราจะสามารถทำให้เป้าหมาย NDC ประสบความสำเร็จได้ ผมมั่นใจว่าโครงการ NDC Support จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือกันในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายในการแก้ไขภาวะโลกร้อน รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน นายพิรุณกล่าวทิ้งท้าย