Le Petit Nicolas หนูน้อยนิโคลาส

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Le Petit Nicolas (Little Nicholas) หรือ หนูน้อยนิโคลาส เป็นหนังสือการ์ตูนช่องและหนังสืออ่านสำหรับเด็ก เขียนโดยเรเน่ ก๊อสซินนี่ (René Goscinny 1926-1977) วาดรูปโดย ฌอง ฌาก เซมเป้ (Jean-Jacques Sempé 1932-2022) เล่าเรื่องหนูน้อยนิโคลาสและเพื่อนๆ โรงเรียนและครอบครัว เป็นที่นิยมและรู้จักกันดีในฝรั่งเศส ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1959

วันนี้มีฉบับแปลไทยด้วย หลายเล่ม

ไปฝรั่งเศสรอบนี้ได้ดีวีดี Little Nicholas – Happy as Can Be (Le Petit Nicolas : Qu’est-ce qu’on attend pour être heureux) ซึ่งเคยฉายที่คานส์เมื่อปีที่แล้วกลับมาด้วย เป็นดีวีดีการ์ตูนปี 2022 สวยและดีมากอยากให้ได้ดูกัน

หนังสือหนูน้อยนิโคลาสนี้เคยสร้างเป็นหนังและการ์ตูนมาก่อนแล้วหลายรอบ แต่รอบนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้มิได้เล่าเรื่องของเด็กๆ ฝรั่งเศสตรงไปตรงมาเหมือนทุกที แต่เล่าเรื่องการพบกันและทำงานด้วยกันของผู้สร้างทั้งสองคือก๊อสซินนี่กับเซมเป้ โดยมีเรื่องของนิโคลาสและเพื่อนๆ คู่ขนานกันไป

ที่น่าสนใจคือนิโคลาสปรากฏตัวบนโต๊ะทำงานหรือสถานที่ต่างๆ พูดคุยกับผู้สร้างทั้งสองเป็นระยะๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนภายหลัง แล้วคนหนึ่งก็จากไปก่อน

หนังยาวชั่วโมงครึ่ง ดนตรีเพราะมากด้วย ปารีสมาก

นักอ่านบ้านเราอาจจะไม่คุ้นเคยชื่อก๊อสซินนี่

เรเน่ ก๊อสซินนี่ คือผู้เขียน Asterix หนังสือการ์ตูนเล่าเรื่องการต่อสู้ของชาวกอลส์กับจักรวรรดิโรมัน ตัวเอกคือแอสเตอริกซ์กับโอเบลิกซ์ ผองเพื่อนและชาวบ้าน พวกเขาต่อสู้กับจูเลียส ซีซาร์ โดยมียุโรปทั้งทวีปเป็นฉากหลัง

เป็นหนังสือการ์ตูนที่มีชื่อเสียงมากมายพอฟัดพอเหวี่ยงกับแต๋งแต๋งผจญภัยอีกทั้งมีจำนวนเล่มมากกว่าด้วย ท่านที่ชอบมากก็จะสะสมไว้ครบชุด เป็นชุดหนังสือการ์ตูนที่อ่านสนุก ตลก และบ้ามาก สร้างเป็นหนังใหญ่คนแสดง 3 เรื่อง และหนังการ์ตูนหลายครั้งแล้ว ล่าสุดสร้างเป็นซีจีแอนิเมชั่น

ก๊อสซินนี่ยังมีผลงานสำคัญระดับโลกอีกคือ Lucky Luke เรื่องนี้เขาทำงานร่วมกับนักวาดชาวเบลเยียม Maurice De Bevere (1923-2001) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Morris เป็นหนังสือการ์ตูนคาวบอยภาษาฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากมายอีกเช่นเดียวกัน จำนวนเล่มก็มากมายด้วยเช่นกัน แต่บ้านเราน่าจะได้อ่านกันน้อยลงไปอีก

Little Nicholas : Happy As Can Be สร้างโดย France’s Foliascope และLuxembourg’s Bidibul Productions กำกับฯ โดย Amandine Fredon และ Benjamin Massoubre ชื่อหลังมีเครดิตจากหนังการ์ตูนเรื่องเยี่ยม I lost My Body ซึ่งการ์ตูนที่รักเคยเขียนถึงแล้ว มีฉากหนึ่งที่นิโคลาสพูดคุยกับผู้สร้างในสวน Jardin du Luxembourg เขียนภาพได้สวยงามมาก หนูน้อยที่ว่าน้อยอยู่แล้วน้อยลงไปอีกเมื่อเทียบกับภูมิทัศน์ขนาดใหญ่ของสวนงามในปารีสแห่งนี้

สร้างความรู้สึกเปรียบเทียบได้ดีกับฉากใกล้จบเมื่อเขากลายเป็นเด็กชายในขนาดปกตินั่งเล่นเปียโนกับเซมเป้ผู้เปลี่ยวเหงา

ฌอง ฌาก เซมเป้ เปิดเผยกับนิโคลาสว่าเขามาจากครอบครัวที่ไม่อบอุ่น อันที่จริงเขามีพ่อที่ติดเหล้าและไม่รับผิดชอบ เลิกงานก็แวะร้านเหล้า บ้านของนิโคลาสที่เขาวาดมาตลอดหลายปีนั้นไม่มีอะไรที่เหมือนบ้านของเขาเองเลย

ในขณะที่เซมเป้ดูเป็นศิลปินเซอร์ๆ ข้างก๊อสซินนี่แต่งกายภูมิฐานอยู่เสมอ เวลานั้นเขามีงานและชื่อเสียงก่อนแล้ว

ประวัติส่วนตัวของก๊อสซินนี่ส่วนที่เขาเปิดเผยแก่นิโคลาสก็มิได้ราบรื่น เขาเป็นยิวที่เกิดปารีสแต่ไปโตที่อาร์เจนตินา เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นเขาและครอบครัวพบเรื่องเลวร้ายเช่นเดียวกับคนยิวอื่นๆ ในฝรั่งเศส แต่มิค่อยมีใครพูดถึงมากนัก

นอกเหนือจากบทสนทนาระหว่างหนูน้อยนิโคลาสกับผู้สร้างทั้งสองตามสถานที่ต่างๆ แล้ว หนังเล่าเรื่องนิโคลาสแบบเดียวกับที่เราได้อ่านจากหนังสือและการ์ตูนช่อง นั่นคือชีวิตสนุกสนานของนักเรียนฝรั่งเศสซึ่งหลายฉากหลายตอนก็สุดๆ จนน่าแปลกใจว่าเด็กฝรั่งเศสจะขนาดนั้นกันจริงๆ เลยหรือ

ท่านที่มิใช่แฟนนิโคลาสหรือไม่รู้จักเพื่อนๆ ของนิโคลาสมาก่อนสามารถดูสนุกได้คุ้มค่าเวลาที่เสียไปเพราะผู้สร้างดีวีดีเรื่องนี้เขียนแคแร็กเตอร์ของแต่ละคนชัดมาก แน่นอนว่าหากพอรู้จักเพื่อนๆ ของเขาแบบเดียวกับที่รู้จักเพื่อนๆ ของสนู้ปปี้และชาร์ลี บราวน์ ก็จะอินมากขึ้น

ทราบว่าแอน ก๊อสซินนี่ (Anne Goscinny) บุตรสาวของก๊อสซินนี่เป็นผู้ร่วมเขียนบทด้วย

นี่เป็นหนังที่ลูกสาวพูดกับพ่อผู้ล่วงลับ ไม่นับว่าเป็นหนังไว้อาลัยการจากไปของเซมเป้พอดีในปีที่หนังออกฉาย

ก๊อสซินนี่และเซมเป้เขียนนิโคลาสระหว่างปี 1959-1965 ก๊อสซินนี่ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจเมื่ออายุเพียง 51 ปีในปี 1977 หลังการตายของเขาลูกสาวแอนน์ยังมีต้นฉบับของพ่อเก็บไว้อยู่ เซมเป้ได้ช่วยวาดรูปให้อีกในภายหลัง

จุดเด่นของนิโคลาสอยู่ที่การเล่าเรื่องจากสายตาของเด็กๆ เด็กๆ ไม่สามารถมองโลกจากมุมมองของผู้ใหญ่ ดังนั้น พวกเขาตีความคำพูดหรือการกระทำของพ่อ แม่ และครูผิดพลาดอยู่เสมอๆ นำมาซึ่งเรื่องน่ารัก น่าขำ หัวจะปวด และวินาศสันตะโรเป็นบางครั้งดังว่า เวลาเรากล่าวหาว่าเด็กซน ที่เรามักหลงลืมคือความซนเป็นสัมพัทธภาพกับสถานที่และเวลา

ถ้านิโคลาสเกิดใหม่วันนี้ เขากับเพื่อนบางคนน่าจะได้กินยาสมาธิสั้นกันบ้างเป็นแน่

หรือว่าไม่ควรกิน นิโคลาสบอกเราว่าสมองส่วนรู้คิดคือ prefrontal cortex ของพวกเขายังไม่พัฒนาเท่านั้นเอง

ส่วนที่ว่าด้วยเด็กหญิงก็สนุกสนานมาก เด็กผู้หญิงเป็นเรื่องสยองขวัญสำหรับนิโคลาส ประมาณตอนกลางเรื่องที่นิโคลาสถูกแม่บังคับให้ต้อนรับเด็กผู้หญิงอย่างดีที่สุด เขาก็ต้อนรับเสียดีจริงๆ หากคิดว่านิโคลาสจะพ่ายต่อเด็กหญิงเจ้ากี้เจ้าการแล้วละก็คิดใหม่

ตอนที่ครูพาแก๊งนักเรียนไปทะเลก็สุดๆ เห็นแล้วอยากขอโอกาสกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเสียจริงๆ

เซมเป้อ่อนกว่าก๊อสซินนี่หกปี นั่นทำให้ฉากที่เขานั่งพูดคุยกับนิโคลาสเหมือนพี่น้องคุยกัน ในขณะที่กับก๊อสซินนี่เหมือนพ่อลูกคุยกัน เป็นหนังที่ให้ความอบอุ่นใจ

ผู้ใหญ่ขณะดูหนังเรื่องนี้น่าจะอินมากกว่าเด็กๆ ตรงที่ว่าเราไม่เห็นมือถือในหนังเลย เป็นโลกที่มือถือยังไม่ถือกำเนิด เด็กๆ วิ่งกันวุ่นวายโดยไม่ต้องแบ่งเวลาให้แก่มือถือ ข้างพ่อแม่ก็หัวจะแตกเพราะไม่มีมือถือให้หลบภัย เป็นโลกอดีตที่น่าหวนคืนเอามากๆ

ที่น่าสนใจอีกข้อคือศิลปินทั้งสองมีไวน์แดงในมือช่วยสร้างงาน เมื่อรู้ว่าชีวิตส่วนตัวของทั้งสองมิได้สนุกสนานเหมือนนิโคลาส ครอบครัวมิได้เหมือนครอบครัวนิโคลาส

การ์ตูนไวน์แดงจึงเป็นที่เข้าใจได้อีกทั้งชวนสงสัยว่าจะได้ฉายทีวีบ้านเราหรือเปล่า •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์