Sonos Era 300 Premium Smart Speaker

Sonos Era 300 Premium Smart Speaker

 

อีกแบรนด์สัญชาติอเมริกันที่มาแรงมากในช่วงสองทศวรรษ โดดเด่นยิ่งนักกับระบบเสียงหลายห้องภายในบ้านแบบไร้สาย ช่วงแรกๆ ที่เอาดีทางด้านนี้เพียงอย่างเดียว แล้วทำให้ชื่อชั้นทะยานสู่แถวหน้าๆ ของวงการอย่างรวดเร็ว ก็เนื่องเพราะยุคต้นๆ ของระบบเสียงไร้สายนั้น ขณะที่รายอื่นๆ เริ่มต้นแบบจุดเดียว หรือ Stand-Alone แต่โซนอสกระโดดก้าวไปที่ระบบ Multi-Room เลย และประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งมาก

Sonos, Inc. ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.2002 เพื่อพัฒนาและผลิตสินค้าระบบเสียง ด้วยเจตนารมณ์มุ่งสร้างสรรค์ระบบเสียงภายในบ้านที่ดีพอทั้งกับวันนี้และเพื่อวันหน้าด้วย

โดยปัจจุบัน, โซนอสมีสิทธิบัตรเฉพาะที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนวัตกรรม ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการวางรากฐานให้กับอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งมากกว่า 2,000 รายการ

เมื่อมีจุดแข็งทางด้านระบบเสียงแบบไร้สาย จึงเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการทางด้านสตรีมมิ่งเป็นจำนวนมาก เรียกว่าค่ายดังๆ ทางด้านนี้ไม่มีรายใดที่ไม่ได้ผูกมิตรกับโซนอส รวมทั้งยังเป็นพันธมิตรกับค่ายหลักๆ ที่ให้บริการคำสั่งเสียง หรือ Voice Control ทั้งสาม คือ Apple Siri, Amazon Alexa และ Google Assistants อีกด้วย

และเมื่อไม่นานได้เข้าซื้อกิจการ Snips SAS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเสียงปัญญาประดิษฐ์ (AI Voice Platform) ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสำหรับอุปกรณ์เชื่อมต่อ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำผู้ช่วย (AI: Artificial Intelligence) ด้านดนตรีมาไว้ในอุปกรณ์ของตนโดยเฉพาะ

ปัจจุบันระบบเสียงบางส่วนของโซนอสได้ก้าวออกจากบ้านไปอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์บ้างแล้ว และที่เห็นเป็นรูปธรรมซิสเต็มแรกก็คือ ระบบที่ติดตั้งอยู่ใน Audi Q4 e-Tron รถพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสักปีกว่าๆ นี่เอง

เมื่อประมาณห้าปีก่อน, ขณะที่ยุทธจักรทางด้านซาวด์บาร์กำลังฟาดฟันกันอย่างรุนแรง โซนอสก็ได้กระโดดเข้ามาร่วมด้วย โดยการเปิดตัว Model Beam และได้รับความนิยมระดับ Best Buy อย่างรวดเร็ว ทำให้อีกสองปีต่อมาเมื่อปล่อย Model Arc ออกมา กระแสตอบรับจากผู้บริโภคยังคงท่วมท้นเช่นเดิม

และทั้งสองรุ่น (ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในสายการผลิตอย่างมั่นคงพร้อมมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง) ต่างได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อทุกช่องทางมากกว่ามาก

เที่ยวนี้หยิบเรื่องของโซนอสมาพูดถึง ก็เป็นเพราะเมื่อเดือนสองเดือนก่อนเห็นข่าวลำโพงอเนกประสงค์รุ่นใหม่ของเขาออกมา ก็เข้าไปดูรายละเอียดว่ามีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจบ้างไหม เพราะเห็นจากรูปก็น่าจะมีขนาดกะทัดรัดแบบพวก Desk Top Speaker ปรากฏว่าที่อ่านพบนั้นผนวกอะไรต่อมิอะไรเข้าไว้ในตัวชนิดที่ต้องบอกว่าเพียบแปล้จริงๆ ก็เลยนำมาบอกกล่าวกัน เผื่ออีกไม่นานวันเข้ามาบ้านเราใครที่มีจริตกับลำโพงลักษณะนี้ จะได้ไปลองหาฟังกันดู

Sonos Era 300 คือลำโพงที่ว่าซึ่งหากเป็นแต่ก่อนคงเรียกรวมๆ ว่าเป็น All-in-One Wireless Speaker แต่จากคุณสมบัติที่เห็นอยากเรียกให้กระชับว่าเป็น ‘ลำโพงอัจฉริยะระดับพรีเมียม’ อย่างที่จ่าหัวมากกว่าครับ

จากที่บอกว่าน่าจะมีขนาดกะทัดรัดจากที่เห็นในรูปนั้น มิติโครงสร้างของลำโพงซึ่งมีรูปทรงคล้ายนาฬิกาทรายนี้ มีขนาด (กว้าง x สูง x ลึก) 260 x 180 x 185 มิลลิเมตร ซึ่งก็น่าจะพอใช้คำดังกล่าวได้

แต่ที่น่าทึ่งก็คือเมื่อเข้าไปดูรายละเอียดภายในของภาพลักษณ์ภายนอกที่แลดูเรียบ หรู ไร้ปุ่มปรับแต่งใดๆ นั้น มันละลานตาจริงๆ

ลองดูภาพตัดภายในที่แยกส่วนให้ดู จะเห็นว่ากอปรไปด้วยไดรเวอร์จำนวนมากเกินกว่าที่น่าจะอยู่ในโครงสร้างขนาดนี้ ทั้งยังติดตั้งอยู่ตามตำแหน่งที่ให้การกระจายเสียงได้รายรอบ ที่มิเพียงรอบตัวเท่านั้นหากยังมีที่ติดตั้งให้ยิงเสียงขึ้นด้านบนด้วย โดยชุดตัวขับเสียงกอปรไปด้วยทวีตเตอร์สี่ตัวกับวูฟเฟอร์อีกสองตัว

การติดตั้งทวีตเตอร์นั้นวางในตำแหน่งให้ยิงเสียงออกด้านหน้าหนึ่งตัว ยิงเสียงออกด้านข้างสองตัว และยิงเสียงขึ้นด้านบนอีกหนึ่งตัว โดยตัวที่ยิงเสียงขึ้นด้านบนนี้ถูกติดตั้งภายใต้ข้อกำหนดของ Dolby Atmos ที่ให้โหลดเข้าไปในฮอร์นโดยกำหนดทิศทางเสียงด้วยการออกแบบให้สะท้อนจากฝ้าเพดานลงมาเมื่อทำงานกับฟอร์แม็ตเสียงดอลบี้ แอตมอส ทั้งยังให้ปรับตั้งค่าระดับความสูงของ Height Channel ได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นของโซนอส

วูฟเฟอร์สองตัวนั้นติดตั้งอยู่ที่ด้านข้างของแต่ละด้าน โดยวางตำแหน่งในลักษณะทำมุมซ้าย/ขวาซึ่งกันและกัน เพื่อการให้ภาพลักษณ์สเตอริโอและให้เบสออกมาด้วยสมดุลเสียงที่ดี ทั้งยังออกแบบให้ทำงานร่วมกับท่ออากาศที่ผลักคลื่นเสียงออกทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน เพื่อการรังสรรค์บรรยากาศเสียงรายรอบได้อย่างสมจริง

นอกจากนี้ ที่ด้านหน้าสุดของลำโพงยังมีแผง Waveguide ที่ออกแบบมาเฉพาะตัว ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มการกระจายเสียงให้กว้างขึ้น อันนำมาซึ่งซาวด์สเตจหรือเวทีเสียงที่สมบูรณ์มากขึ้นด้วย

ไดรเวอร์แต่ละตัวถูกขับด้วย Class-D, Digital Amplifier แบบตัวต่อตัว ซึ่งนอกจากจะให้การทำงานอย่างเป็นอิสระต่อกันแล้ว ผลที่ตามมาก็คือทั้งหมดต่างสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องตามจุดประสงค์ในการออกแบบทุกประการ

การเชื่อมต่อนั้นรองรับระบบไร้สายผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth 5.0 พร้อมพอร์ต USB-C ขณะที่ระบบควบคุมการทำงานเป็นแบบแตะสัมผัสในทุกขั้นตอน รวมทั้งยังรองรับการควบคุมด้วยคำสั่งเสียงด้วย

คุณสมบัติเด่นของลำโพงตัวนี้ก็คือนอกจากจะสามารถรองรับ Dolby Atmos Music แล้ว ยังรองรับ Spatial Audio ผ่านทาง Apple Music ด้วย ซึ่งจะช่วยให้การฟังเพลง สัมผัสเสียงดนตรี มีอรรถรสและได้รับความสุนทรีย์เพิ่มมากกว่าการฟังกับลำโพงตัวเดียวแบบเดิมๆ อย่างมิอาจเทียบกันได้ ช่วยให้เข้าถึงดนตรีได้อย่างดื่มด่ำและอิ่มเอิบกว่าที่เคย

ทั้งยังสามารถปรับแต่งรายละเอียดในภาค Tone Control ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ควบคุมการทำงาน ได้อย่างครบถ้วนแบบแยกอิสระทุ้ม/กลาง/แหลม ซึ่งช่วยให้ได้ความชื่นชอบกับน้ำเสียงที่เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

ทั้งยังได้ผนวก Sonos Trueplay ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการปรับแต่งเสียงให้เข้ากับสภาพอะคูสติกของตำแหน่งตั้งวาง ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของโซนอส ช่วยให้ไม่ว่าจะนำลำโพงไปตั้งไว้ ณ จุดใดในห้อง ย่อมวางใจในคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมของมันได้ และสะดวกในการใช้งานเพราะระบบจะปรับแต่งให้เสียงเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เองโดยอัตโนมัติ

ครับ, นั้นก็คือคุณสมบัติอันพอเป็นสังเขปของลำโพงตัวนี้ ที่ดูแล้วออกจะน่าทึ่งทีเดียว

และพบว่าสื่อทางฝั่งตะวันตกให้ความชื่นชมอยู่ไม่น้อย

อาทิ บางรายบอกว่าขอแนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาลำโพงแบบครบวงจร ที่พร้อมรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง ทั้งยังพร้อมรองรับอนาคตด้วย Wi-Fi 6 อีกด้วย เป็นต้น

ขณะที่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง What Hi-Fi?/UK บอกว่ามันให้สเกลเสียงที่กว้างขวางใหญ่โตน่าทึ่งมาก ทั้งยังอุดมไปด้วยรายละเอียด และโดดเด่นมากทางด้านไดนามิก ให้เสียงเบสออกมาได้หนักแน่น เปี่ยมไปด้วยพลัง ให้สุ้มเสียงผ่านแทร็ก Spatial Audio ออกมาได้อย่างน่าฟัง รองรับคุณสมบัติการสตรีมที่หลากหลาย และใช้งานง่าย

แว่วๆ ว่า จะเข้ามาบ้านเราด้วยราคาค่าตัวประมาณสองหมื่นต้นๆ ซึ่งน่าสนใจอยู่ไม่น้อย •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]