ฐากูร บุนปาน : เมื่อเหล่าคนดีทั้งหลายต่างลุกขึ้นมา “ปฏิรูป” กันยกใหญ่

อ่านข่าวประจำวันโน่นนี่ตามปกติ

จู่ๆ ก็ไพล่คิดไปถึง “กาพย์พระไชยสุริยา” ของ “สุนทรภู่” เอาดื้อๆ

คิดถึงแล้วก็ตามไปหาอ่านบนโลกออนไลน์นี่แหละ

นักเรียนรุ่นหนึ่งคงท่องได้แม่น

เพราะพอ ป.3 ท่านก็ตัดท่อน “เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน” มาเป็นบทเรียนภาษาไทย

หรือขึ้น ป.5 ท่านก็ให้เริ่มท่องตั้งแต่ต้นเรื่องที่ว่า “นโมข้าจะไหว้ วะระไตรระตะนา”

ส่วนนักเลงหนังสือทั้งหลายคงท่องได้แม่น

โดยเฉพาะ “ขึ้นกดบทอัศจรรย์” (ฮา)

แต่บทที่ถูกเอามาใช้ (โดยเฉพาะในทางการเมือง) มากที่สุด

คือท่อนนี้ครับ

อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า ก็หาเยาวนารี

ที่หน้าตาดีดี ทำมโหรีที่เคหา

ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา

หาได้ให้ภริยา โลโภพาให้บ้าใจ

ไม่จำคำพระเจ้า เหไปเข้าภาษาไสย

ถือดีมีข้าไท ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา

คะดีที่มีคู่ คือไก่หมูเจ้าสุภา

ใครเอาเข้าปลามา ให้สุภาก็ว่าดี

ที่แพ้แก้ชนะ ไม่ถือพระประเวณี

ขี้ฉ้อก็ได้ดี ไล่ด่าตีมีอาญา

ที่ซื่อถือพระเจ้า ว่าโง่เง่าเต่าปูปลา

ผู้เฒ่าเหล่าเมธา ว่าใบ้บ้าสาระยำ

ภิกษุสมณะ เล่าก็ละพระสธรรม

คาถาว่าลำนำ ไปเร่ร่ำทำเฉโก

ไม่จำคำผู้ใหญ่ ศีรษะไม้ใจโยโส

ที่ดีมีอะโข ข้าขอโมทนาไป

พาราสาวะถี ใครไม่มีปรานีใคร

ดุดื้อถือแต่ใจ ที่ใครได้ใส่เอาพอ

ผู้ที่มีฝีมือ ทำดุดื้อไม่ซื้อขอ

ไล่คว้าผ้าที่คอ อะไรล่อก็เอาไป

ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มิได้ว่าหมู่ข้าไทย

ถือน้ำร่ำเข้าไป แต่น้ำใจไม่นำพา

หาได้ใครหาเอา ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา

ผู้ที่มีอาญา ไล่ตีด่าไม่ปรานี

ผีป่ามากระทำ มรณกรรมชาวบูรี

น้ำป่าเข้าธานี ก็ไม่มีที่อาศัย

ข้าเฝ้าเหล่าเสนา หนีไปหาพาราไกล

ชีบาล่าลี้ไป ไม่มีใครในธานี

อ่านแล้วก็แอบถอนใจยาวๆ

เพราะรู้สึกว่าโชคดี๊โชคดี

โชคดีที่เมืองไทยยังไม่ถึงขั้นพาราสาวะถี

ไม่มี้ไม่มีสุภาที่เห็นแก่ไก่หมู จนที่แพ้แก้ชนะ

ไม่มี้ไม่มีผู้ที่มีฝีมือ ซึ่งทำดุดื้อไม่ซื้อขอ

ไม่มี้ไม่มีภิกษุสมณะ ที่เล่าก็ละพระสะธรรม

ไม่มี้ไม่มีข้าเฝ้าเหล่าเสนา ที่หาได้ใครหาเอา

ไม่มี้ไม่มีพวกถือดีมีข้าไท ที่ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา

ไม่มี้ไม่มีคนดีที่ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา

ไม่มี้ไม่มี

ไม่มีอะไรที่ว่ามาทั้งสิ้น

เมื่อไม่มีข้างต้น

ก็ไม่มีผีป่าเข้ามากระทำ

ไม่มีน้ำป่าเข้าธานี จนไม่มีที่อาศัย

นอกจากไม่มีแล้วยังไม่มีโอกาสจะมีด้วย

เพราะพอแค่ทำท่าว่าจะมี

คนดีทั้งหลายก็ลุกขึ้นมา “ปฏิรูป” กันยกใหญ่

แล้วจะไปมีเรื่องแบบในนิทานได้อย่างไร

ใครมาใส่ความเป็นได้โกรธกันตาย

แต่เมื่อสัจธรรมของโลกข้อหนึ่งก็คือ

ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนที่สุด

ก็ต้องภาวนากันไว้ ว่าอะไรที่ไม่มี-ไม่มีนั้น

อย่าเผลอให้มีขึ้นมาได้ทีเดียว

ไม่ว่าจะสุภาที่เห็นแก่ไก่หมู (หรืออย่างอื่นให้ทันสมัย เช่น ไวน์หรือไอโฟน)

ไม่ว่าจะภิกษุสมณะที่ละพระสะธรรม

ไม่ว่าผู้ที่มีฝีมือที่จะทำดุดื้อไม่ซื้อขอ

ไม่ว่าจะคนดีที่เข้าแต่หอล่อกามา (แต่ว่าภาพยังเป็นคนดีอยู่-ฮา)

ไม่ว่าข้าเฝ้าเหล่าเสนาที่หาได้หาเอา

และอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลาย

ส่วนที่มีอยู่แล้ว หรือยกตัวอย่างเป็นนามธรรมขึ้นมา แล้วเผลอไปเห็นหน้าใครเป็นรูปธรรมขึ้น

ก็ว่ากันไปตามระบบและกระบวนการ

สำคัญว่า นึกถึงหน้าไหน หน้านั้นก็ต้องโดนกันหมด

ไม่ใช่หน้านี้โดนตลอด หน้าโน้นรอดทุกหน

เดี๋ยวก็พาราสาวะถีเข้าจนได้