ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 ตุลาคม 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
ในบางเวลาและบางเรื่อง เกินทั้งอารมณ์ความรู้สึกและด้วยสติปัญญาที่มีอยู่จะบรรยายออกมาแทนใจได้
ต้องอาศัยประสบการณ์-ความรู้ของท่านผู้ผ่านสถานการณ์โดยตรง-ท่านผู้รู้ทั้งหลาย
ส่วนแรกจากหนังสือ “สารคดีที่น่ารู้” ของ ม.จ.หญิงพูนพิศมัย ดิศกุล (สำนักพิมพ์คลังวิทยา พ.ศ.2518) ตอน “วันสวรรคตของรัชกาลที่ 5” ก็คงนึกออก
ขอประทานอนุญาตนำข้อความบางส่วนมาเผยแพร่อีกครั้ง ดังนี้
“…ข้าพเจ้าก็ไปคอยเฝ้าพระบรมศพที่ถนนราชดำเนินแถวโรงเรียนนายร้อยทหารบก พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง
จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียว ทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส
อากาศมืดคลุ้ม มีหมอกขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละคือหมอกธุมเกตุ ที่ในตำราเขากล่าวถึงว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆ เกิดขึ้น
ไม่ช้าก็ได้ยินเสียงปี่ในกระบวน เสียงเย็นใสจับใจมาแต่ไกลๆ แล้วได้ยินเสียงกลองรับเป็นจังหวะใกล้เข้าๆ ในความมืดสงัด
ที่มืดเพราะต้องตัดสายไฟฟ้าบางตอนให้พระบรมโกศผ่านได้
และที่เงียบก็เพราะไม่มีใครพูดจากันว่ากระไร
ข้าพเจ้าเคยได้ยินเสียงปี่กลองมาแล้ว เคยได้เห็นแห่พระศพเจ้านายมาแล้วหลายองค์
แต่คราวนี้ตกใจสะดุ้งทั้งตัวเมื่อเห็นพระมหาเศวตฉัตรกั้นมาบนพระบรมโกศสีขาวกับสีทองเป็นสง่า ทำให้รู้ทันทีว่าพระบรมศพ
แล้วก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว
เหลียวไปดูทางอื่นก็เห็นแต่แสงไฟจากเทียนที่จุดถวายสักการะอยู่ข้างถนนแววๆ ไปตลอด
ในแสงเทียนนั้นมีแต่หน้าเศร้าๆ หรือปิดหน้าอยู่
เราหมอบกราบลงกับพื้นปฐพี พอเงยหน้าก็เห็นทหารที่ยืนถือปืนเอาปลายลงดินก้มหน้าลงบนปืน
น้ำตาของเขากำลังหยดลงแปะๆ อยู่บนหลังมือของเขาเอง
ทหารผู้อยู่ในยูนิฟอร์มอันแสดงว่ากล้าหาญ ยังร้องไห้เพราะเสียดายประมุขอันเลิศของเขา
เสด็จพ่อ (หมายถึงสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ-ผู้เขียน) ตรัสเล่าว่า ได้โทรเลขไปตามหัวเมืองให้ระวังเหตุการณ์ตอนเปลี่ยนแปลงแผ่นดิน
ได้ตอบมาในทุกทางว่าภายใน 7 วันแต่วันสวรรคตนั้น
ไม่มีเหตุการณ์โจรผู้ร้ายเกิดขึ้นเลยสักแห่งเดียวในพระราชอาณาจักร”
ที่กำลังรออยู่อีกหนึ่งเล่ม เพื่อหาความรู้ในเรื่องธรรมเนียมในราชสำนักและธรรมเนียมพระบรมศพเพิ่มเติม
ก็คือหนังสือ “ธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย” ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 (ฉบับปรับปรุง) ของสำนักพิมพ์มติชน รวบรวมค้นคว้าโดย ดร.นนทพร อยู่มั่งมี
อาจารย์นนทพรท่านบอกในคำนำว่า
“…การที่ธรรมเนียมราชสำนักเป็นเรื่องราวเฉพาะกลุ่ม ทำให้ราษฎรขาดความเข้าใจ และสิ่งที่ตามมาคือ ความเชื่ออย่างผิดๆ โดยเฉพาะธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านายย่อมเป็นสิ่งที่ราษฎรยากจะทราบถึงข้อเท็จจริงในแต่ละขั้นตอน
อย่างมากก็เพียงรับทราบเมื่อมีการก่อสร้างพระเมรุมาศหรือพระเมรุ
เช่น ราษฎรจำนวนไม่น้อยยังเชื่อถึงเรื่องการ “เสียบ” เมื่อมีการอัญเชิญพระบรมศพและพระศพลงสู่พระโกศแล้ว และเรื่องนี้ยังคงเล่าสืบเนื่องกันมาจนแม้กระทั่งผู้เขียนในวัยเยาว์ก็ยังเคยได้ยินเรื่องทำนองนี้อยู่เสมอ
ดังนั้น ข้อมูลที่ผู้เขียนได้ค้นคว้าและรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย คงจะพอทำให้ผู้อ่านทราบถึงขั้นตอนและรายละเอียด
ทั้งที่เป็นโบราณราชประเพณีที่มิได้ปฏิบัติแล้วและที่คงมีอยู่ในปัจจุบัน”
ขออนุญาตส่งท้ายด้วยโคลงจากลิลิตพระลอ ที่นิตยสารศิลปวัฒนธรรมจะนำมาขึ้นปกฉบับเดือนพฤศจิกายนนี้
เสียงไห้ทุกราษฎร์ไห้ ทุกเรือน
อกแผ่นดินดูเหมือน จักขว้ำ
บ่เห็นตะวันเดือน ดาวมืด มัวนา
แลแห่งใดเห็นน้ำ ย่อมน้ำตาคน
ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้