กลายเป็นที่ฮือฮาในฝั่ง ‘เอฟซีพี่โทนี่-เพื่อไทย’ กระแส ‘ทักษิณกลับบ้าน’ หลัง ‘ทักษิณ ชินวัตร’อดีตนายกฯ หลังตอบคำถาม ‘นสพ.บูรณ์ อารยพล’แกนนำกลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน ได้เข้าร่วมคลับเฮ้าส์ เมื่อคืน 29มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้ถาม ‘พี่โทนี่’ ว่า “จะกลับมาเมื่อไหร่ ทุกคนคิดถึงมาก” โดย ‘พี่โทนี่’ ตอบสั้นๆว่า “กลับแน่ แต่เมื่อไหร่ค่อยบอก”
.
แน่นอนว่าคำพูดสั้นๆนี้ ก็ปลุก ‘ความหวัง’ ให้กับมวลชน-ฐานเสียง ให้มี ‘กำลังใจ-แรงฮึด’ ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ทำให้คะแนนตกไปที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ ท่ามกลาง ‘วิกฤติศรัทธารัฐบาล-ผู้นำ’ ในขณะนี้ ทว่าคำถามสำคัญคือ ‘เมื่อไหร่’ ? และจะกลับมาอย่างไร ?
.
กว่า 13 ปีแล้ว ที่ ‘ทักษิณ’ ไม่ได้กลับไทย อย่างมากก็แค่เฉียดมาประเทศเพื่อนบ้าน ย้อนไปเมื่อ 28ก.พ.2551 คือวันที่ ‘ทักษิณ’ ได้กลับสู่มาตุภูมิครั้งสุดท้าย ยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช หลังลี้ภัยยาวราว 1 ปีครึ่ง ที่ประเทศอังกฤษ หลังรัฐประหาร 19ก.ย.2549
.
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ‘ทักษิณ’ ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ตลอด แต่ด้วยยุคสมัยบ้านเมืองเปลี่ยนไป ปัจจัยทางการเมืองก็แปรเปลี่ยนตาม ทำให้ ‘สมการการเมือง’ ในยุค 5-15 ปีก่อน อาจนำมาใช้ในยุคนี้ไม่ได้ จึงทำให้ ‘คนมีความหวัง’ ว่า ‘ทักษิณ’ จะได้กลับไทยหรือไม่
.
แต่ดูแล้ว ‘ชะตากรรม’ ของ ‘ทักษิณ’ ยังไม่พ้น ‘บ่วงอดีต’ แถม ‘ติดกับดัก’ ที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเพิ่ม ย้อนกลับไปปี2562 ถือเป็นปีที่ ‘ทักษิณ’ กระอักมากที่สุด
.
จากเหตุการณ์ ‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’ 8ก.พ.62 มาถึงเหตุการณ์ ‘ฮ่องกงเอฟเฟกต์’ ที่นำมาสู่ ‘อาฟเตอร์ช็อก’ ทางการเมืองหลายลูก เช่น คณะกรรมการมูลนิธิศิษย์เก่า ร.ร.เตรียมทหาร มีมติถอดชื่อ ‘ทักษิณ’ ตท.10 ออกจากการเป็นศิษย์เก่าเตรียมทหารดีเด่น และเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว ที่ได้รับเมื่อปี2534 ด้วยเหตุผลสืบเนื่องจากที่ ‘ทักษิณ’ เคยถูกถอดยศทางตำรวจ โดยคำสั่งหัวหน้า คสช. ผ่านอำนาจ ม.44 เมื่อปี58
.
พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด ขณะนั้น ได้กล่าวถึงพฤติกรรม ‘ทักษิณ’ โดยนำ ผบ.เหล่าทัพ ในยุคนั้นยืนแผงแถลงข่าว ที่ ร.11 ทม.รอ.
.
โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่สามารถรักษาเกียรติของศิษย์เก่าเตรียมทหารไว้ได้ ทั้งในเรื่องของ ‘ความจงรักภักดี-ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง’ อีกทั้ง ‘มาตรฐานทางจริยธรรม’ ที่ทหาร-ตำรวจ และคนไทยพึ่งมี

รวมทั้งยังถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องจากนายทักษิณ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำารงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาถึงที่สุดลงโทษจำคุก และยังมีข้อหาฐานอื่นๆ อีกหลายคดี
.
เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้ ‘ทักษิณ’ โลว์โปร์ไฟล์นานนับปี ก่อนออกมาเคลื่อนไหวในปี64 ผ่านคลับเฮ้าส์ในนาม ‘พี่โทนี่’ ปลุก ‘แฟนคลับสีแดง’ ดึงฐานเสียงคืนจาก ‘ขั้วสีส้ม’ ปูทางสู่การเลือกตั้ง ที่แต่ละพรรคการเมือง ‘ได้กลิ่น’ และ ‘จับสัญญาณ’ ได้ว่า ถึงเวลา ‘เตรียมเสบียง-ระดมขุนพล’ ในการเดินทางสู้รบครั้งใหม่ใน ‘ศึกเลือกตั้ง’ ที่รออยู่ข้างหน้า
.
คำถามสำคัญคือ ‘ทักษิณ’ จะกลับมาไทยได้หรือไม่ ? โดย ‘ด่านแรก’ ที่ต้องเจอ คือ ‘เรื่องคดีความ’ ที่ยังค้างคาอยู่ ถือเป็น ‘ปราการแรก’ ที่ถูกพูดถึง ทำให้มีการถามต่อถึงเรื่อง ‘นิรโทษกรรม’ ขึ้นมา
.
อย่าลืมว่าเหตุการณ์ปูทาง รัฐประหาร 2557 มีชนวนมาจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ‘ฉบับเหม่าเข่ง’ ของพรรคเพื่อไทย ที่ดันเข้าสภาในยุคนั้น แถมเป็นที่พูดกันว่า ‘ดีลลงตัว’ จึงเกิดคำถามว่าไป ‘ดีล’ กันแบบไหน ? ผลลัพธ์จึงออกมาเช่นนี้ ทำให้ ‘ทักษิณ’ หายเงียบนานหลายปี แม้จะขยับบ้างก็ตาม
.
การทำ กม.นิรโทษกรรม จึงห่างไกลความเป็นจริง เพราะเป็น ‘เหตุผลสำคัญ’ ในการออกมาของ กปปส. ปูทางทำ ‘รัฐประหาร’ ดังนั้นหาก ‘ผู้มีอำนาจ’ ยุคนี้ ไป ‘ปัดฝุ่นนิรโทษกรรม’ ขึ้นมา ย่อมมีแต่ ‘โทษ’ มากกว่า ‘คุณ’
.
อีกคำถามที่เกิดอีกคือ การนำ ‘ทักษิณกลับบ้าน’ ใครได้หรือเสียมากกว่ากัน และยิ่งตอกย้ำ ‘ความเสียของ’ ของฝั่งที่ ‘กำจัดทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ออกไป และคนที่สนับสนุนการกำจัด ก็ล้วนเป็น ‘ฐานเสียง-มวลชน-เครือข่าย’ ของขั้วตรงข้าม ‘เพื่อไทย-ทักษิณ’ ทั้งสิ้น หรือที่ ‘คนเสื้อแดง’ นิยามว่าเป็น ‘อำมาตยาธิปไตย’
.
ก่อนหน้านี้ ‘ทักษิณ’ เคยให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย เมื่อ พ.ค.63 โดยมีประโยคสำคัญว่า “ส่วนผมวันนี้เป็นคนไทย ที่เขาไม่ให้เป็นคนไทยอยู่แล้ว” จึงเกิดการ ‘ตีความ’ ต่อคำพูดนี้อย่างมาก
.
ย้อนไปล่าสุดเมื่อ 2มิ.ย.64 สื่อได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง ‘ทักษิณ’ ที่กล่าวในคลับเฮ้าส์ว่าถ้าเป็นตัวเขาจะใช้เวลาเพียง 6 เดือน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่วนรัฐบาลจะใช้เวลาเท่าไหร่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ให้เขากลับมาสิ” ถือเป็นการกล่าวในลักษณะ ‘ท้าทาย’
.
อย่างไรก็ตามมีการโยงไปถึงขั้นว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นเป็น เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คนใหม่ หากย้อนโปรไฟล์ก็จะพบว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็น ‘หน่อเนื้อเชื้อไข’ มาจาก ‘ไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย’ เป็นรุ่นน้อง ตม.25 และหากจับท่าทีของ ‘ทักษิณ’ ที่ตอบคำถามคนไปร่วมคลับเฮ้าส์ ว่ามองก้างย่าง ร.อ.ธรรมนัส อย่างไร
.
คำตอบของ ‘ทักษิณ’ ก็พบว่า มีลักษณะ ‘เป็นมิตร’ มากกว่าที่เคยพูดถึง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร จึงเกิดการมองไปว่า จะมี ‘อภิมหาดีล’ หรือไม่ ?

อย่างไรก็ตาม หากย้อนประวัติ ร.อ.ธรรมนัส ไปตั้งแต่เริ่มต้นชีวิต ขรก.ทหาร หลังจบนายร้อย จปร. รุ่น36 ที่ ร.1 พัน.4 รอ. ในขณะนั้น ร.อ.ธรรมนัส อยู่ในกลุ่มทหาร ‘18 อรหันต์’ และด้วยชีวิตที่โลดโผน ทำให้ชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ถูกโฟกัสมาตั้งแต่เป็น ‘นายทหารหนุ่ม’ ภายหลังออกจากข้าราชทหารทหาร เมื่อปี2542 ร.อ.ธรรมนัส ก็ลงมาสู่ถนนการเมือง ในขั้วพรรคไทยรักไทย ดังนั้นการโยงถึง ‘อภิมหาดีล’ เพื่อให้ ‘ทักษิณ’ ได้กลับบ้าน ยังคงเป็นเรื่องที่ไกลเกินไป
.
หาก ‘ทักษิณ’ จะกลับบ้าน
ต้องมี ‘อภินิหาร’ เท่านั้น !!
.