ม็อตโต้ “รวมไทยสร้างชาติ” ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเป็นแนวนโยบายรัฐบาลเท่านั้น แต่กำลังจะเป็นชื่อที่ใช้กับ ‘ขุนกำลังใหม่’ ของ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ นั่นคือการตั้ง ‘พรรคสำรอง’ นั่นเอง โดยใช้ชื่อว่า ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ซึ่งก็คล้ายกับชื่อ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ที่เป็นแนวนโยบายรัฐบาลยุค คสช.
.
ท่ามกลางการแก้ รธน. ที่ถูก ‘ตีรวน’ ถูก ‘ยื้อเวลา’ จนไม่เห็นปลายทาง ว่าจะได้แก้หรือไม่ จนเริ่มมีการเสนอ ‘แก้รายมาตรา’ ขึ้นมา เพราะหนทางแก้ทั้งฉบับแทบเป็นไปไม่ได้ หลังถูกคว่ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 มีละครในสภา จนกลายเป็น ‘สภาโจ๊ก’
.
มีการ ‘มองข้ามช็อต’ ไปว่าสุดท้ายแล้ว รธน. อาจแก้ไม่ทัน ‘เลือกตั้งครั้งหน้า’ และสุดท้ายแล้วจะได้ ‘นายกฯคนเดิม’ เสียด้วยซ้ำ เพราะอยู่ภายใต้กติกาแบบเดิม มาพร้อมกระแสข่าว ‘ยุบสภา’ ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ หลังสิ่งที่เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล มีลักษณะ ‘ไม่ไว้หน้ากัน’ ให้จับตาตั้งแต่ปลายปี64 ไปจนถึงปี65

ล่าสุดมีรายงานว่ามีคนไปยื่นจดจัดตั้งพรรคกับ กกต. โดยใช้ชื่อว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อเตรียมนำเข้าที่ประชุม กกต. เพื่อพิจารณารับจดทะเบียนพรรคในสัปดาห์หน้า โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ผู้ที่มายื่นจดจัดตั้ง คือ ว่าที่ ร.ท.ไกรภพ นครชัยกุล เมื่อไปเช็คประวัติพบว่าเป็น อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมพลังประชาชาติไทย ของ ‘ลุงกำนัน’สุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นเอง
.
ทั้งนี้อีกพรรคที่ตีคู่มาคือ ‘ขุมกำลังใหม่’ ของ ‘หญิงหน่อย’คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หลัง ‘ยกธงขาว’ ออกจากพรรคเพื่อไทยมา โดยได้ส่งคนไปจดจัดตั้งพรรคกับ กกต. ใช้ชื่อว่า “พรรคไทยสร้างไทย” โดยขั้นตอนอยู่ตีคู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมเข้าที่ประชุม กกต. พิจารณารับจดทะเบียนพรรคในสัปดาห์หน้าเช่นกัน
.
กระแสข่าวตั้งพรรคสำรองพาดพิงไปถึง ‘ปลัดฉิ่ง’ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย ที่อยู่ในตำแหน่งมานานเกือบ 4 ปี เปรียบเป็น ‘มือขวา’ ของ พล.อ.อนุพงษ์
.
ซึ่งทั้ง ‘ปลัดฉิ่ง-บิ๊กป๊อก’ ก็ออกมาปฏิเสธทั้งคู่ โดยเมื่อ ก.ย.63 มีการปล่อยข่าวว่า ‘2ป.’ มอบหมาย ‘ปลัดฉิ่ง’ตั้งพรรคการเมืองสำรอง ว่า “ป.ไหน ป.นี้ไม่รู้เรื่องเลย ป.นี้ไม่สันทัดการเมือง ยืนยันว่าผมไม่เกี่ยวและไม่ได้อยู่ในความคิด ต้องไปถามคนให้ข่าว ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย”

ล่าสุดกระแสตั้งพรรคกลับมาอีกครั้ง สื่อได้ถามล่าสุด 9มี.ค.64 โดย พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธว่า “ไม่รู้เรื่องเลย ไม่มีทั้งสิ้น”
.
ย้อนกลับไป 28ก.ย.63 ‘ปลัดฉิ่ง’ ได้ชี้แจงถึงกระแสข่าวนี้ว่า “ตอนนี้ผมยังเป็นข้าราชการอยู่ ไม่สามารถที่จะไปทำอะไรแบบนั้นได้ และไม่เคยมีใครมาพูด มาชักชวนแต่อย่างใด หน้าที่ของผมตอนนี้คือ การช่วยเหลือประชาชน การดูแลประชาชนในขอบข่ายงานของกระทรวงมหาดไทย ไม่มีทำเกินหน้าที่”
.
อย่างไรก็ตาม ‘ปลัดฉิ่ง’ จะเกษียณฯก.ย.64 ซึ่งอีกเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่บารมีของ ‘ปลัดฉิ่ง’ แผ่ขยายใน ‘มหาดไทย-ท้องถิ่น’ เป็นอย่างมาก เพราะนั่งปลัดมหาดไทยมาตั้งแต่ปี60 ทั้งนี้ ‘ปลัดฉิ่ง’ เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี บ้านเดียวกับ ‘สุเทพ’ ด้วย
.
จับตาก้าวย่างนี้ให้ดี !!