วันที่ 9 มีนาคม 2561 การปาฐกถาพิเศษ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ครั้งที่ 16 ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่่าพระจันทร์ เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล องค์ปาฐกในครั้งนี้ ยังกล่าวถึงแง่มุมของวาทกรรมว่าด้วย “คนดี” ในการเมืองไทย ที่ถูกหยิบยกอยู่เสมอ

โดยดร.เสกสรรค์กล่าวว่า การจะดึงอำนาจกลับมาสู่มือคนดี ดูเหมือนจะมีช่องโหว่ ทั้งในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติอยู่ไม่น้อย จะว่าไปความเป็นคนดีในทางธรรมนั้น จะต้องไม่ยึดติดในความดีของตน ไม่โฆษณาตัวเอง และไม่ยกตนข่มท่าน เพราะจะนำไปสู่การขยายอัตตาตัวตน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดหมายในการทำดีเพื่อการหลุดพ้นทางจิตวิญญาณ แต่ผมเข้าใจดีที่พูดถึงความเป็นคนดีที่ถูกพูดถึงตอนขับไล่รัฐบาลพลเรือน ไม่ได้เป็นเรื่องเช่นนี้ แต่เป็นการเอาความดีมาใช้สร้างอัตตารวมหมู่ (Collective Ego) ซึ่งก่อเกิดเป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มผู้ประท้วง ขณะเดียวกันก็กดเหยียดฝ่ายตรงข้ามให้มีฐานะต่ำกว่าในทางศีลธรรม

“ปัญหาใหญ่มีอยู่ว่า คนไม่ดีในสายตาของคนที่ถือว่าตัวเองเป็นคนดีนั้น ไม่ได้มีแค่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากยังรวมประชาชนที่เลือกรัฐบาลดังกล่าวด้วย ดังนั้น พวกเขาต้องการตัดสิทธิการมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง ซึ่งไม่ได้มีแค่นักการเมือง หากยังรวมถึงชาวบ้านนับล้าน และประชาชนทั้งประเทศ ที่น่าสนใจมากคือ เมื่อมองดูบริบท เหตุการณ์ที่ห้อมล้อมในปี 2557 เราจะพบว่า ความเป็น “คนดี” หรือ “คนไม่ดี” ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นนั้น มีลักษณะสอดประสานกับฐานะทางชนชั้นของแต่ละฝ่ายอย่างแยกไม่ออก” ดร.เสกสรรค์ กล่าว