| เผยแพร่ |
|---|
30มกราคม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า
สถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้ตนมองเป็นเรื่องธรรมชาติ
ยิ่งทำงานมากปัญหาก็มากขึ้น
ทุกรัฐบาลก็เป็นแบบนี้เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4
แต่เรายืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองว่ารัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเข้าใจประเด็น แต่อย่างที่บอกระยะเวลาการทำงานของเรา อาจจะมีความขัดแย้งสูง
อาจจะมีคนได้ประโยชน์เสียประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ ทุกคนอยากจะมีการเปลี่ยนแปลงเพราะผ่านมา 3 ปีแล้ว
ก็ต้องไปดูกลุ่มไหนที่เดือดร้อน และเป็นตัวตั้งตัวดีในเรื่องเหล่านี้
สื่อคงหาเจออยู่แล้ว ตนคงไม่ไปขัดแย้งด้วย
“อย่ามองว่ารัฐบาลนี้ทำเพื่อสืบทอดอำนาจ มันเป็นการทำงานต่อเนื่อง
จากปีที่หนึ่งสองสามตามโรดแมปของผม เพราะฉะนั้นในขั้นตอนนี้ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้าย คือทำงานที่มีโครงการไทยนิยมยั่งยืนลงไป
คำว่าไทยนิยมคือ นิยมความดี ความงาม นั่นคือความหมายไทยนิยมของผมในทุกๆ เรื่อง
แต่ผมยังไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการเลื่อนไม่เลื่อนตรงนี้เลย”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าตนไม่เคยสัญญาว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ว่า
มีสื่อหลายคน ซึ่งตนจำได้ว่าใครเป็นคนถามเรื่องสัญญาตามเนื้อเพลง ทุกอย่างจับเป็นประเด็นได้หมด
สัญญาคืนความสุขของตนคือ คืนความสุขให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกกลุ่มทุกฝ่าย
มันมีกี่กลุ่ม ฉะนั้น บางความสุขตนก็คืนให้ได้ทันที แต่บางความสุขก็ยังคืนไม่ได้
“มันจะคืนได้ไหมปัญหามันร้อยแปดพันเก้า ทุกคนก็ต้องมาช่วยกันแก้
ผมไม่ได้แก้ตัวอะไรทั้งสิ้น บ้านเมืองมันสงบเรียบร้อยขึ้นไหมตอนนี้
เศรษฐกิจขนาดใหญ่ขนาดกลางดีขึ้นหรือไม่ ขนาดเล็กกำลังแก้ไขหรือเปล่า
ทั้งเรื่องแรงงานและการเพิ่มค่าจ้าง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุขหรือ
นี่คือสัญญาของผม ผมก็คืนให้”
ก่อนจะตบท้ายว่า
“ขอเวลาให้ผมวางรากฐานประเทศอีกสักระยะนึงก่อนเท่านั้น
มันจะมากจะน้อยก็เป็นไปตามกฎหมายนั่นแหละ”
ย่อมเป็นไปตามกฎหมาย
เพราะ
หนึ่งคือคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 53/2560 เรื่องเลื่อนเวลาการปลดล็อกพรรคการเมือง
หนึ่งคือมติของ สนช. ที่ให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ออกไปอีก 90 วัน
แต่เมื่อ “การเมืองคือเรื่องของปรากฏการณ์”
ถามว่าจะกี่คนที่คิดว่านี่เป็นปัญหากฎหมาย “ล้วนๆ”
กี่คนที่จะคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ สนช. เป็นห่วงบ่วงใยพรรคการเมืองอย่างแท้จริงตามที่กล่าวอ้าง
กี่คนที่จะคิดว่าแม่น้ำ 5 สายล้วนเป็นอิสระต่อกัน ตามที่หัวหน้า คสช.พยายามประกาศ
และในโลกที่อินเตอร์เน็ตเป็นใหญ่
คำสัญญาที่ว่าด้วย
ประกาศเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน 2561
และจัดการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561
รวมถึงคำสัญญาว่าด้วยกำหนดเวลาการเลือกตั้งก่อนหน้านั้น 3 ครั้ง
ที่มีอันต้องเลื่อนออกมาเป็นระยะ
ก็ถูกนำมาจัดวางเรียงให้พิจารณา
และยิ่งเมื่อสำทับด้วยคำประกาศของ “ท่านโฆษก”
ที่ตั้งคำถามย้อนกลับว่า
“แล้วมันจะเป็นอะไรกันนักหนา”
กับแค่การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 90 วัน
ก็ยิ่งทำให้คนจำนวนหนึ่งหวนนึกถึงปรารภของอดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดแรกของรัฐบาลปัจจุบัน
เมื่อครั้งร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกตกม้าตาย
ว่า
“เขาอยากอยู่ยาว”
และทำให้สมองซีกซ้ายทำงานต่อเนื่อง ประมวลผลตัวเลขออกมาได้ว่า
นี่มิใช่เพียงเรื่องของ “แค่ 90 วัน”
เพราะนับแต่การยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
ต่อเนื่องถึงวันนี้ก็จวนจะครบ 4 ปีเต็ม
เป็น 4 ปีและปีที่ 4 ที่มีแนวโน้มทุลักทุเล
อย่างที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้นั่นแล
ทุกรัฐบาลก็เป็นแบบนี้เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4
