“สดศรี”ชี้ กกต.ชุดใหม่ เจองานหนัก เสียดายไม่มีตัวแทนเอ็นจีโอ

“สดศรี”ชี้ กกต.ชุดใหม่ เจองานหนัก ซ้อมฝีมือด้วยการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ต้องไม่ทำให้ลต.ใหญ่เป็นโมฆะ ถ้าทำไม่สำเร็จเชื่อปชช.จะหมดศรัทธา เสียดายไม่มีตัวแทนเอ็นจีโอ เชื่อ “ประชา”เข้าวิน เป็นผลดี ประสานมท.ได้

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมนางสดศรี สัตยธรรม อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงรายชื่อว่าที่ กกต.ทั้ง 5 คน ที่ได้รับการสรรหาว่า เป็นตามที่กฎหมายกำหนดว่ามาจากหลากหลายอาชีพ เพียงแต่ไม่มีจากเอ็นจีโอ ซึ่งเคยมีทุกกกต.มาแล้ว ส่วนอดีตอธิการบดี 2 คนก็เป็นฝ่ายบริหารมา ก็คงสามารถทำงานแทนเอ็นจีโอได้ เพราะอยู่กับประชาชนในท้องถิ่นมา ก็สามารถทำงานด้านการมีส่วนร่วมได้ ส่วนคนที่มาจาก กทช. ก็เก่งด้านประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องยอมรับว่าท่านเก่ง คิดว่างานกกต.ด้านประชาสัมพันธ์คงไม่มีปัญหา เพราะท่านทำอยู่แล้วอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้ ส่วนด้านกฎหมาย ทางศาลฎีกาก็ดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามงานของกกต.ครั้งนี้เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทยโดยตรง คือการเลือกตั้งท้องถิ่น ดังนั้นเมื่อนายประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดมหาดไทย ได้รับการสรรหาเข้ามา ก็เป็นผลดี สามารถประสานกับกระทรวงหมาดไทยได้

นางสดศรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและมีองค์กรที่มีอำนาจซ้อนขึ้นมาคือผู้ตรวจการเลือกตั้งแทนกกต.จังหวัด จึงสำคัญว่ากกต.ทั้ง 7ท่านจะสามารถประสานงานกับผู้ตรวจการเลือกตั้งได้ดีหรือไม่ ถือเป็นปัญหาสำคัญ คงไม่ใช่ว่าจะข่มเขาได้เหมือนกกต.จังหวัดที่มีอยู่เดิม สิ่งเหล่านี้จึงอยู่ในมือของกกต.ทั้ง 7 ท่านว่าจะทำได้หรือไม่ และงานแรกที่ กกต.ชุดใหม่ต้องรับผิดชอบคือการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ซึ่งจะหมดวาระลงในปีหน้า คงเป็นการซ้อมฝีมือของท่านว่าทำได้สำเร็จหรือไม่ และการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นมาโรดแมป เดือน พฤษภาคม 61 ก็เป็นงานสำคัญ เพราะการเลือกตั้งเป็นแบบใหม่ ซึ่งจริงๆแล้วยากมาก ทั้งการคิดคำนวณตัวเลข การพิมพ์ บัตร กกต.ชุดนี้ต้องตัดสินใจและสะสางปัญหาต่างๆ

เมื่อถามว่า คิดว่าว่าที่กกต.ชุดใหม่จะทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า คิดว่าท่านคงทำได้ดี เพราะท่านทั้งหลายก็ผ่านประสบการณ์ในเรื่องงานบริหารมาแล้วทั้งมหาวิทยาลัย และในจังหวัด ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากการบริหารงานกกต. ที่สำคัญคือต้องแก้ปัญหาต่างๆให้ได้ ไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างกัน และกับหน่วยงาน เพราะแต่ละคนมาจากหลายหลาก ความเห็นอาจไม่ตรงกัน ก็ยากต่อการทำงาน บางครั้งต้องตัดสินด้วยกฎหมาย ดังนั้นสิ่งที่ต้องศึกษาคือ กฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายพรรคการเมือง

“สิ่งที่อยากฝากคือจะต้องพยายามไม่ให้เกิดปัญหา การเลือกตั้งครั้งหน้าต้องไม่เป็นโมฆะ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อกกต.ชุดใหม่ก็จะหมดไป ซึ่งเป็นงานหนักและเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ”นางสดศรี กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่า การสรรหากกต.ครั้งนี้ มีเด็กใครเข้ามาหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า คงไม่ใช่ว่าเป็นเด็กของใคร เพราะกรรมการสรรหาต้องซึ่งมาจากหลากหลายก็ต้องพิจารณาตามคุณสมบัติ ส่วนคนดังๆหลายคน ที่คิดว่าจะได้กลับไม่ได้ เป็นเรื่องที่เชื่อว่ากรรมการสรรหาคงไม่ได้เอาตามกระแสหรือเอาตามว่าคนดังแล้วต้องเลือกไว้ก่อน และคนที่ได้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทหารเลย แม้ทหารสมัครมายังไม่ได้เลย เช่นอดีตหัวหน้าศาลทหารสูงสุด ส่วนที่ว่านายประชามีความใกล้ชิดกับรัฐบาลก็เห็นว่า กกต.ชุดนี้ต้องมีฝ่ายมหาดไทยด้วย ถ้าไม่มีเลยก็ลำบาก ซึ่งนายประชาก็รู้เรื่อง จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม ที่ควรจะได้รับการสรรหาเข้ามา ร่วมทั้งนายประชาก็รู้เรื่องงานทางภาคใต้ จึงคิดว่าการเลือกตั้งทางภาคใต้คงจะดำเนินการได้เรียบร้อย จึงคิดว่างานของกกต.ชุดใหม่ เป็นงานที่ท้าทายมาก คงจะสามารถทำงานสำเร็จ