ก้าวไกล เผยเอ็มโอยู ม.112 รอหาข้อสรุป เชื่อเจรจา ส.ว.มีสัญญาณที่ดี ลั่นไร้สาระ ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องยุบพรรค

ก้าวไกล เผยเอ็มโอยู ม.112 รอหาข้อสรุป 21 พค. เชื่อเจรจา ส.ว.มีสัญญาณที่ดี ลั่นไร้สาระ ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องยุบพรรค ลั่นวันนี้ ‘บิ๊กตู่’ ถูกปิดประตูการเมืองแล้ว

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำ MOU กับ 8 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ส่งให้ครบทั้ง 8 พรรคแล้ว เนื้อหาเป็นภาพกว้างๆ จากนั้นจะให้ส่งกลับมาภายใน 21 พ.ค. และจะพูดคุยกับตัวแทนทุกพรรคถึงรายละเอียด ก่อนจะแถลงฉบับไฟนอลวันที่ 22 พ.ค.

ส่วนรายละเอียดใน MOU จะยังไม่มีการลงรายละเอียด เพราะต้องพูดคุยทั้ง 8 พรรคในแง่โครงสร้าง และข้อตกลงร่วม รวมทั้งวาระสำคัญต่างๆ ทั้งนี้ เสียงตอบรับจากทุกพรรค ยังไม่มีปัญหา เสียงส่วนใหญ่สอดคล้องกัน แต่อาจจะมีการเสนอบ้างเรื่องใดควรจัดลำดับความสำคัญ เรื่องใดควรเป็นเรื่องหลัก ย้ำว่า วาระต้องเป็นเรื่องหลักของทุกพรรค ไม่เฉพาะพรรคก้าวไกล เพียงพรรคเดียว

ส่วนการลงมาตรา 112 ในรายละเอียด MOU นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อเสนอที่จะยุติความขัดแย้งในสังคมไทย ซึ่งดำเนินการได้ตามกระบวนการนิติบัญญัติ และในช่วงการเลือกตั้ง หลายพรรคก็ยอมรับว่า เรื่องนี้ควรไปเปิดการพูดคุยและมีความคิดเห็นร่วมกันในสภา ทั้งนี้ ยอมรับว่า MOU ที่เสนอให้พรรคร่วมทั้ง 8 เรื่อง ม.112 ยังไม่มีการลงรายละเอียด ส่วนจะเป็นอย่างไรต้องผ่านการพูดคุย ซึ่งต้องใช้เวลา

เมื่อถามถึงนายศรีสุวรรณ จรรยา จะยื่นร้องให้ตรวจสอบและยุบพรรค กรณีทีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า และนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไปร่วมวงหารือในวันที่ 17 พ.ค. มีความกังวลหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ไร้สาระ เพราะทั้ง 3 คน มาร่วมตอนรับประทานอาหารที่พรรคก้าวไกลเลี้ยงขอบคุณ และทั้งหมดก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงที่สำคัญของพรรค การมาร่วมรับประทานอาหารด้วยถือเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ ไม่กังวลประเด็นดังกล่าว เพราะหากถูกยุบพรรคจากกรณี นายธนาธร มากินข้าวด้วยนั้น เราอาจถูกยุบพรรคเดือนละ 3 ครั้ง

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าพรรคก้าวไกล อาจสะดุดถูกสกัดในหลายคดีนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่กังวล เรื่องเหล่านี้เราได้เกร็งข้อสอบเบื้องต้นไว้แล้ว จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องมาตกใจ และต้องมีแนวทางรับมือ

ส่วนที่มีชื่อ นายวิโรจน์ ลักขณาดิศร จะไปเป็นรมว.มหาดไทย และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นรมว.ดิจิทัลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า น่าจะเป็นการคาดการณ์ไปเองของสื่อมวลชนหรือผู้สนับสนุน ยืนยันว่าการพูดคุยยังไม่ได้ไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะการพูดคุยในตอนนี้ ต้องเอาเรื่องวาระมาหารือกันก่อน และเมื่อวาระและ MOU จบ ก็อาจจะเริ่มเห็นแล้วว่าจะแบ่งงานกันทำอย่างไร ส่วนใครจะนั่งบริหารตรงไหน ตนคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน อย่างเร็วที่สุด คาดว่าหลังเลือกนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีกัน

ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์ของพรรค จะยังไม่วางมือทางการเมือง โดยจะไปต่อนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งชี้ชัดแล้ว ประชาชนเห็นอย่างไรกับบทบาทของท่าน และถึงวันนี้ ตนคิดว่าเป็นการปิดประตู พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว

ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยกับ ส.ว.นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการพูดคุยและประสานงาน แต่ตนยังไม่ขอลงรายละเอียด เชื่อว่า 1 เดือนจากนี้ จะมีสัญญาณที่ดีในหลายๆ อย่าง เพราะทุกท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว และมองว่าถ้าการเมืองจะไม่เดินไปสู่ทางตัน หรือความขัดแย้งในครั้งใหม่ ท่านก็จะมีวิจารณญาณ