เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ (กองทุนฯ) จัดพิธีมอบทุนและประมูลประจำปี 2560 เป็นปีที่ 18 โดยมีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษให้เกียรติเป็นประธาน ณ โรงแรมดุสิตธานี โดยมี อ.ปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติ , นายสนธยา คุณปลื้ม,นายพินิจ จารุสมบัติ, นายปลิว ตรีวิศวเวทย์, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล และคณะกรรมการมูลนิธิฯ รวมถึงนิสิตนักศึกษาผู้ได้รับทุน เข้าร่วมงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินทางถึงงาน พลเอกเปรม ได้ชมนิทรรศการของเหล่าศิลปิน และทักทายกับเหล่านิสิตนักศึกษาที่ได้รับทุน จากนั้นพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวรายงานการจัดงาน ต่อจากนั้นพลเอกเปรมได้มอบเหรียญเชิดชูเกียรติแก่ผู้สนับสนุนและมอบโอวาทให้กับผู้ได้รับทุน

โดย พล.อ.เปรม ให้โอวาทนิสิต นักศึกษาที่ได้รับทุน ตอนหนึ่งว่า เมื่อเราเริ่มต้นครั้งที่ 1 มีภาพไม่ถึง 10 ภาพ ตนไม่คิดว่าจะเดินมาได้ไกลถึงวันนี้ ตนต้องขอบคุณผู้ที่มีใจเมตตาน้ำใจงดงาม เห็นแก่เด็ก นักศึกษา ที่จะเป็นผู้ใหญ่ต่อไปภายหน้า ความเมตตาของท่านจะเป็นกำลังใจพวกตน และนักศึกษา ถ้าไม่มีพวกท่าน และผู้มีเกียรติทั้งหลาย กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆที่ให้ความช่วยเหลือ เราคงทำงานลำบาก หรือทำไม่ได้ แต่เราทำงานขนาดนี้คือ บุญคุณที่ท่านทั้งหลายมอบให้พวกเรา

พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนขอให้ความดีทั้งปวง กระจายไปให้ทั่วถึง ว่าในประเทศของเรา มีคนใจบุญ ใจกุศล เห็นแก่เด็กๆ ปรากฏให้เห็นในงานนี้ทุกปี อีกทั้งขอ ขอบคุณอีกครั้งว่าเราจะจดจำคุณงามความดี ที่ท่านมอบให้คณะทำงาน และผู้ที่ได้รับทุนการศึกษา ตนทราบว่าผู้ที่ได้ทุนการศึกษา คงเข้าใจ ตามที่ให้ปฏิญาณไว้แล้ว ตนก็ขอให้รักษาคำมั่นสัญญา เพื่อชาติบ้านเมืองของเรามีสิ่งสวยงามจากฝีมือคนไทย เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก พร้อมทั้งขอทำหน้าที่ที่ตามที่ปฏิญาณไว้โดยทั่วกัน

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า ตลอด 18 ปีที่ได้มอบทุนการศึกษานี้ มีผู้ได้รับทุนแล้ว 1,170 คน คิดเป็นมูลค่า 30,000,000 บาท โดยมอบให้กับนิสิต-นักศึกษาศิลปะ ที่เป็นผู้มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก สำหรับปีนี้มีผู้ได้รับทุน 117 คน ทั้งนี้ในบางปีกองทุนฯยังมีรายได้ไปมอบให้กับนิสิต นักศึกษา ที่ประเทศเวียตนามและลาว ด้วย
นายปัญญา วิจินธนสาร ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานของกองทุนฯ กล่าวว่า ในปีนี้มีศิลปินที่ส่งผลงานเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ 37 ชิ้น ทั้งศิลปินแห่งชาติและศิลปินอาวุโส ศิลปินหน้าใหม่ โดยจากทุกปีที่ผ่านมาก็เห็นว่าผลงานพัฒนาขึ้นมาก งานแต่ละชิ้นเป็นงานคุณภาพสูง ใช้เวลาสร้างงานนาน และพัฒนาขึ้นสำหรับนักสะสมจริงๆ โดยในปีนี้แม้ไม่ได้กำหนดหัวข้อการส่งชิ้นงานเข้าร่วมประมูลแต่เนื่องจากเป็นช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จึงมีผลงานจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

“เด็กที่ได้รับทุนจำนวนมาก พัฒนาตัวเองไปเป็นศิลปินที่มีความสามารถ บางรายที่ได้รับรางวัลครั้งแรกยังส่งผลงานมาประมูลในครั้งนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการพัฒนาแวดวงศิลปะไทยได้เป็นอย่างดี” นายปัญญากล่าว