เปิดแทงหวย “N3” สู้ใต้ดิน ทั้ง’เต็ง-โต๊ด-แจ๊กพ็อต’

ครม.ไฟเขียวหวยรูปแบบใหม่ เปิดแทง3ตัวสู้ใต้ดิน ทั้ง’เต็ง-โต๊ด’ ออกรางวัลแจ๊กพ็อตล่อใจคนชอบเสี่ยงพนัน จ่อนำร่องขายเลข6หลักก่อน วิษณุห่วงซ้ำรอยอดีต

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีอำนาจออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ได้ 2 ประเภท คือ ลอตเตอรี่6 หรือแอล6 กับสลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทางเลือกการซื้อสลากรูปแบบใหม่แก่ประชาชน การแก้ปัญหาสลากเกินราคา และช่วยบรรเทาปัญหาหวยใต้ดิน ขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงานสลากฯจะต้องนำประกาศรูปแบบ และประเภท ของแอล6 และเอ็น3 ที่ ครม.เห็นชอบ กลับมาให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีการออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ได้เมื่อไร หรือมีจำนวนแค่ไหน เพราะหลัง ครม.เห็นชอบแล้ว จากนั้นจะเป็นอำนาจของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการพิจารณารายละเอียดของรูปแบบสลากเอ็น3 และแอล6 เช่น ช่วงเวลาจำหน่าย วิธีและช่องทางจำหน่าย ปริมาณสลากที่เหมาะสม

“เบื้องต้นเป็นไปได้ว่าในส่วนของลอตเตอรี่ แอล6 น่าจะเริ่มทำได้ก่อน เพราะรูปแบบสลากแอล6 จะเป็นเหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีในปัจจุบัน เพียงแต่ไม่ต้องพิมพ์เป็นใบเท่านั้น จึงอาจนำแอล6 เข้ามาใส่เพิ่มในสลากดิจิทัล โดยไม่ต้องไปเบียดบังโควต้าสลากใบ เหมือนปัจจุบัน” พ.ท.หนุนกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสลากรูปแบบใหม่ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคา และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบนั้น รูปแบบสลากแอล6 ทั้งการจำหน่าย การซื้อ การออกรางวัล จะเหมือนลอตเตอรี่ในปัจจุบัน แต่ไม่ต้องพิมพ์ เน้นขายทางดิจิทัล โดยขายใบ 80 บาท

ลอตเตอรี่6 หรือแอล6

จะวางจำหน่ายเป็นชุด ชุดละ 1 ล้านฉบับ มีตัวเลขตั้งแต่ 000000-999999 กำหนดตัวเลขไว้แล้วล่วงหน้า และตัวเลขจะไม่ซ้ำกันใน 1 ชุด โดยจำกัดอายุผู้ซื้อ-ผู้ขาย 20 ปี ขึ้นไป ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน จัดให้มีสลาก 2 แบบ แบบใบ จำหน่ายโดยใช้วิธีการพิมพ์จำหน่าย และแบบดิจิทัล จำหน่ายโดยใช้ข้อมูลในระบบ จัดสรรเงินรางวัลร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายรวมในแต่ละชุด แบ่งสัดส่วนเงินรางวัลตามประเภทรางวัล 9 ประเภท

ดังนี้ รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 6 ล้านบาท
รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัลรางวัลละ 100,000 บาท
รางวัลที่ 2 จำนวน 5 รางวัลรางวัลละ 200,000 บาท
รางวัลที่ 3 จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท
รางวัลที่ 4 จำนวน 50 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท
รางวัลที่ 5 จำนวน 100 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท
รางวัลเลขหน้า 3 ตัว จำนวน 2,000 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว จำนวน 2,000 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว จำนวน 10,000 รางวัล รางวัลละ 2,000 บาท รวมทั้งสิ้น 14,168 รางวัล 48,000,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ถูกรางวัลได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ต้องชำระอากรแสตมป์ใบรับรางวัลสลากในอัตรา 200 บาท หรือเศษของ 200 บาทต่ออากรแสตมป์ 1 บาท ตามประมวลรัษฎากร

 

สลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น3 เป็นรูปแบบใหม่

วิธีการเล่น ให้เลือกหมายเลข 000 ถึง 999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการเลือกซื้อ 1 ครั้ง ราคายังไม่กำหนด แต่คาดขายครั้งละ 20-50 บาท

มีลุ้น 4 รางวัล ได้แก่

รางวัลสามตรง ตรงเลข-ตรงหลัก หรือเต็งได้ 30% ของเงินรางวัล

รางวัลสามสลับหลักตรงเลข-สลับหลัก หรือโต้ด ได้ 30% ของเงินรางวัล

และรางวัลสองตรง ได้ 39%

และรางวัลพิเศษ 1%

โดยเงินรางวัลทั้งหมดจะนำมาจาก 60% ของยอดขายในแต่ละงวด หากงวดไหนมีคนถูกรางวัลหลายคนจะต้องมาหารเฉลี่ยกัน ตามสัดส่วนวงเงินที่กำหนด ยิ่งถูกน้อย ยิ่งหารน้อย ยิ่งถูกมากยิ่งหารมาก

อย่างไรก็ตาม หากงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลมาสมทบเป็นแจ๊กพ็อต โดยสมทบเงินรางวัลได้ไม่เกิน 1 งวด โดยการออกรางวัล ออกเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ส่วนวิธีการขายอาจเปิดรับสมัครคนขายใหม่ เช่น ขายผ่านแท็บเล็ต แอพพลิเคชั่น เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า การประชุม ครม.ระหว่างการพิจารณาวาระ นำเสนอการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำปี 2565 ช่วงหนึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามประธานบอร์ดกองสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มาชี้แจงว่า การกำหนดประเภทใหม่นี้ยังเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลใช่หรือไม่ ยืนยันกับ ครม.ได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเมื่อสิบปีที่แล้ว

ประธานบอร์ดกองสลากฯจึงยืนยันว่า ไม่ซ้ำรอยแน่นอน เพราะครั้งนี้เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ผิดหลัก ไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่เป็นสลากกินรวบ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับว่า ช่วยดูแลอย่าให้มีการทุจริต และอย่าให้ขายเกินราคา