ครบ 2 ปี. รัฐประหาร ‘ชาวเมียนมา’ ชู 3 นิ้วพรึบสถานทูตเมียนมา จำลองทหารทารุณ ลั่น สู้ปีสุดท้าย ‘ปิดจ็อบ มินอ่องลาย’

ครบ 2 ปี. รัฐประหาร ‘ชาวเมียนมา’ ชู 3 นิ้วพรึบสถานทูตเมียนมา จำลองทหารทารุณ ลั่น สู้ปีสุดท้าย ‘ปิดจ็อบ มินอ่องลาย’ พิชิตประชาธิปไตยให้ได้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ถนนสาทร กลุ่มไบร์ทฟิวเจอร์ (Bright Future) เดินทางมาชุมนุมในวาระครบรอบ 2 ปี ของการรัฐประหารในประเทศพม่า (2 Years of Myanmar’s Coup)

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า มีผู้ร่วมชุมนุมชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเดินทางมาเป็นจำนวนมากจนล้นออกมาจากพื้นที่ฟุตปาธ กินพื้นผิวจราจร 1 เลน โดยรวมตัวเพื่อต่อต้านการรัฐประหารที่ยาวนานถึง 2 ปีของกองทัพทหารเมียนมา ซึ่งยึดอำนาจมาจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) โดยผู้ชุมนุมต่างพากันชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และตะโกนชื่อนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี พร้อมถือธงพรรค ป้ายไวนิลเขียนข้อความต่างๆ ผู้ร่วมชุมนุมบางราย ผูกผ้าพาดศีรษะและหมวกสีแดง เขียนข้อความว่า NLD รวมถึง NUG (รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ) และถือภาพของนางออง ซาน ซู จี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายตามบริเวณต่างๆ เฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แกนนำได้ปราศรัยด้วยภาษาเมียนมา พร้อมอ่านแถลงการณ์ พร้อมกล่าวประณาม พล.อ.อาวุโส มินอ่องลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพพม่า และผู้นำการทำรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. 2565 เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศเมียนมา โดยผู้ชุมนุมร่วมชู 3 นิ้ว และมีการตะโกนคำต่างๆ พร้อมกันเป็นภาษาอังกฤษและชื่อคน อาทิ “Democracy” (ประชาธิปไตย) และ “มิน อ่อง ลาย”( ผู้นำรัฐประหารเมียนมา) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเผาธงชาติเมียนมาพร้อมกล่าวคำว่า “มิน อ่อง ลาย”

นายสุรัช กีรี แกนนำและสมาชิกกลุ่ม Bright Future กล่าวว่า เป้าหมายของเราคือเราจะพิชิตประชาธิปไตย ซึ่งเป็นของเราตั้งแต่แรก และเรามั่นใจว่าปีนี้เราจะมาเป็นปีสุดท้ายแห่งการต่อสู้ คือภายในปีนี้เราก็จะได้ประชาธิปไตยแบบล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะทาง NUG (รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ) เหล่ารัฐบาลเงาของเราประกาศมายืนยันว่าปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเราแล้ว

“นอกจากนี้ เราจะมาอยากให้ทางทั่วโลกรับรู้ว่าเราจะเอาประชาธิปไตยแบบเต็มใบ ไม่เอาครึ่งๆ เอาเต็มใบ ให้เขารู้ว่าเรายังต่อสู้อยู่ 2 ปีที่แล้วเราต่อสู้มา ทุกวันนี้เราก็ต่อสู้ และปีสุดท้ายนี้เราจะต่อสู้หนักกว่าเดิม คือใช้แรงมากกว่าเดิม” นายสุรัชกล่าว

นายสุรัชกล่าวอีกว่า แน่นอนว่าความสูญเสีย ย่อมมีการเศร้าโศกอยู่แล้ว มิน อ่อง ลาย ก็ฆ่าคนไปหมื่นกว่าคนแล้ว อาจจะเป็นหลักแสนแล้วในตอนนี้ แน่นอนความเป็นประชาธิปไตยแลกมาด้วยเลือดเนื้อ พี่น้องที่สูญเสีย เราก็เสียใจ แต่อยากให้เขารู้ว่าเราจะสู้เต็มที่แน่นอน เราต้องไปได้ประชาธิปไตย แล้วเขาถึงหลับสบาย

“กิจกรรมวันนี้แน่นอนว่าจะมีการเปิดงาน และมีการโชว์ ประมาณว่าทหารทารุณประชาชนอย่างไร มีการด่าว่า มิน อ่อง ลาย และมีอ่านแถลงการณ์ และรอบนี้จะมีแถลงการณ์เป็นภาษาพม่าด้วย โดยปกติเรามีแถลงการณ์ภาษาไทย แต่รอบนี้เอาภาษาพม่ามาด้วย ก็ดีกว่าเดิม” นายสุรัชกล่าว

นายสุรัชกล่าวต่อว่า ตนว่าตอนนี้ผู้ร่วมชุมนุมน่าจะเกินหลักพันแล้ว แต่ก็จะมาเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลา 14.00 น. โดยหลังจากนี้เราจะมีการปราศรยอย่างเดียวและสิ้นสุดกิจกรรม

“ส่วนที่ว่าเป็นปีสุดท้าย คือเราจะโค่นอำนาจของมินอ่อง ลาย คือทหารของมิน อ่อง ลายไม่เหลือแล้ว มีคนหนีทหารก็เยอะ เข้า CTF (คณะทำงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 คลินิกให้การบริการพื้นฐานด้านสาธารณสุข สำหรับผู้พลัดถิ่นภายใน (IDP) และแรงงานข้ามชาติ ) มีคนวางอาวุธ ไม่อยากสู้ และกัดกันเองก็เยอะข้างใน เพราะฉะนั้นพวกเรายิ่งมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมว่าปีนี้คือปีสุดท้ายของเราแน่นอน” นายสุรัชกล่าว