มะกันเปิดตัว ‘เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน’ รุ่นใหม่ พร้อมร่วมฝูงบินกลางปีหน้า

บริษัท Northrop Grumman เปิดตัวเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐ B-21 “Raider” ซึ่งเป็นเครื่องบินไอพ่นแบบล่องหนที่สามารถใช้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ได้ ให้สาธารณชนได้เห็นเป็นครั้งแรก ในพิธีเปิดตัวซึ่งจัดขึ้นที่โรงงานของ Northrop ในเมืองปาล์มเดล รัฐแคลิฟอร์เนีย

B-21 ซึ่งมีรูปร่างคล้ายปีกเครื่องบินเช่นเดียวกับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 รุ่นก่อนหน้า สามารถที่จะใช้ส่งมอบทั้งอาวุธทั่วไปและอาวุธนิวเคลียร์ได้ทั่วโลก โดยมีความสามารถในการเติมเชื้อเพลิงทั้งในระยะไกลและการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ

กองทัพอากาศสหรัฐมีแผนที่จะซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวอย่างน้อย 100 ลำ เพื่อนำมาเปลี่ยนกับเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นเก่า B-1 และ B-2 โดยเครื่องบินรุ่นล่าสุดนี้ชุดแรกจำนวน 6 ลำ จะถูกนำมาใช้งานในฝูงบินของกองทัพอากาศสหรัฐครั้งแรกในช่วงกลางปี 2566

คาดว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-21 ราคาตกลำละราว 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 27,000 ล้านบาท โดย Northrop ระบุว่าเครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นที่ 6 ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครื่องบินลำอื่นๆ และผสานอาวุธแห่งอนาคตเข้ากับระบบได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่ผู้บริหารของ Northrop บอกด้วยว่า B-21 ยังมีวัสดุพื้นผิวที่สังเกตได้ต่ำ ซึ่งมีความทนทานมากขึ้นและทำให้ค่าใช่จ่ายในการดูแลรักษาน้อยลง ทั้งนี้ Northrop เอาชนะทีมคู่แข่งที่ประกอบด้วย Boeing Co BA.N และ Lockheed Martin Corp LMT.N จนได้รับชัยชนะในสัญญาเพื่อสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่ให้กับกองทัพอากาศสหรัฐในปี 2558

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในพิธีเปิด ยืนยันว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-21 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของเพนตากอน ในการเสริมสร้างศักยภาพขั้นสูงที่จะเสริมความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในการยับยั้งการรุกรานทั้งในวันนี้และในอนาคต

ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า การป้องกันของสหรัฐฯ นั้นมีรากฐานมาจากการป้องปราม และการพัฒนา B-21 ก็ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ในด้านนี้อีกครั้ง

“เรากำลังทำให้เป็นที่เข้าใจอีกครั้งสำหรับศัตรูที่มีศักยภาพ ว่าความเสี่ยงและต้นทุนของการรุกรานนั้นมีมากกว่าผลประโยชน์ที่เป็นไปได้”

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าเครื่องบิน B-21 จะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของรัฐบาลวอชิงตันในการเฝ้าระวังและรับมือความขัดแย้งกับจีนในอนาคต