จากข่าวเด็กสูบกัญชา สู่วิวาทะเดือดปชป.-ภท. “ก็จัดฉากกันมาทั้งนั้นแหละ รู้กันอยู่”

กลายเป็นเรื่องดังขึ้นมา เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก “หนึ่ง กฤติวัฒน์ ณ พัทยา” โพสต์ภาพเด็กอายุ 9-10 ขวบนั่งสูบกัญชา แบบโจ่งแจ้ง บริเวณสะพานปลาท่าเก่าพัทยาใต้ พร้อมระบุข้อความว่า
“#บ้านเรามาไกลขนาดนี้แล้วหรอ

“ไกลจนเด็กอายุ แค่ 9-10 ขวบนั่งดูดบ้องกันแล้ว สังคมสมัยนี้เป็นอะไรกันหมด ผู้ใหญ่บ้านเมืองเราออกจะใหญ่โต เขาทำอะไรกันอยู่ครับ ถึงไม่มาดูแลเด็กๆ พวกนี้ ผู้ปกครองเด็กพวกนี้ไปไหน ทำไมปล่อยปละละเลยลูกหลานของท่าน

เข้าใจว่าทุกยันนี้กัญ… เสรี แต่เราควรจะมีขอบเขตไหมครับ อย่าละเลยครับ ผมสงสารเด็กๆพวกนี้ เด็กๆพวกนี้อนาคตเขายังอีกยาวไกล

#พิกัดสะพานปลาท่าเก่าพัทยาใต้
#ผิดกฎลบได้ครับ
#แต่แค่สงสารเด็กๆพวกนี้”

 

ปชป.โยน อนุทิน

ต่อมา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาวิจารณ์ภาพเด็กสูบกัญชา ที่จังหวัดแห่งหนึ่ง ว่าเป็นความรับผิดชอบของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข

ทำให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ตอบคำถามถึงกรณีดังกล่าวว่า การปลดล็อกกัญชา ไม่ได้เกิดจาก รมว.สาธารณสุข แต่เกิดจากมติที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกหน่วยงาน และต่อมา ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) รับผิดชอบโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมนี้ มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ดูแล ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างผ่านกระบวนการด้านนโยบายไปหมดแล้ว ต่อไปคือการกำกับดูแลในภาคปฏิบัติ ดังนั้น ตนก็จะแจ้งไปยังท่าน รมช.สาธารณสุข ให้ใช้อำนาจของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ที่มีดูแลการใช้กัญชาให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

“หาก ส.ส.บัญญัติ หรือ ส.ส.ท่านใด พบเห็นการกระทำที่มีความผิดตามประกาศฯ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายออนไลน์หรือเสพสูบในที่สาธารณะใดๆ ก็สามารถแจ้งไปยังท่านสาธิต ได้ เพราะท่านดูแลกรมการแพทย์แผนไทยฯ อยู่ ท่านอยู่พรรคการเมืองเดียวกัน น่าจะคุยกันรู้เรื่อง” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่ากรณีเด็กเร่ร่อนที่มีภาพการใช้สารเสพติดอยู่แล้ว จะต้องดูแลอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเป็นปัญหาเด็กเร่ร่อนซึ่งผู้สื่อข่าวเองก็รู้ว่า ใช้อย่างอื่นที่อันตรายมากมาตลอดอยู่แล้ว ตรงนี้ไม่ดีแน่ ขอแนะนำ ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่ตั้งคำถามมา ให้ไปหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(นายจุติ ไกรฤกษ์) ซึ่งท่านก็อยู่พรรคเดียวกัน จะเป็นการดีอย่างมาก เพราะคงไม่ได้ป้องกันแค่กัญชา แต่น่าจะดูแลไปถึงสารเสพติดอื่นด้วย

“อย่างที่ท่านอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้แถลงข่าวอยู่ตลอดว่าหากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยเฉพาะที่ท่านบอกว่าอยู่พัทยา ก็ใกล้พื้นที่ของท่าน (ระยอง) ก็สามารถแวะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเรื่องนี้ได้ เอาผิดกับคนที่ทำผิดเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนได้เห็น” นายอนุทินกล่าว

ก็จัดฉากกันมาทั้งนั้น

แต่เรื่องราวก็เกิดพลิก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการจัดฉากโดย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทำหน้าที่หรือไม่ เพราะเป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงรับผิดชอบดูแลงานนี้โดยตรง

นายอนุทินระบุว่า ไม่เกี่ยวกัน ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดระยอง คุณหมออะไรนั่น เขาก็คงมีประเด็น เหมือนกับว่าไม่รู้จะทำอะไรก็เลยสร้างเรื่องขึ้นมามั้ง “เด็ก9ขวบที่ไหนจะมีปัญญาไปซื้อบ้องกัญชา ซื้อใบยาสูบกัญชาแล้วก็มาแอ็กท่า ให้คนถ่ายรูป ก็จัดฉากกันมาทั้งนั้นแหละ รู้กันอยู่

แต่ไม่เป็นไรเพราะกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่กำกับดูแลการควบคุมการใช้กัญชา ตนได้มอบให้นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณะสุขให้ไปกำกับดูแล ซึ่งการควบคุมและการใช้กฎหมาย เป็นหน้าที่ของเขาโดยตรง ตนเองก็จะกำชับไปที่รัฐมนตรีที่กำกับ แต่ก็ดีที่ ส.ส. คนที่เป็นหมอมาจากจังหวัดระยอง ก็อยู่จังหวัดเดียวกันกับนายสาธิตก็ให้ไปประสานงานกันเอง

ส่วนที่ดูเหมือนว่าประเด็นของกัญชาจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยมีประเด็นต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆนั้น เพราะเราก็มีมาตรการควบคุมเท่าที่จะทำได้ ถ้า ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ปัญหาหมดไป ก็ช่วยกันผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชง-กัญชา พร้อมย้ำว่าคนที่ทำให้เกิดปัญหา คือคนที่มาบอกว่า วันนี้กัญชาไม่มีการควบคุม แต่ในเมื่อสิ่งที่ควบคุมได้คือกฎหมายคนๆเดียวกันกลับบอกว่าจะคว่ำกฎหมาย ก็ต้องดูว่าใครเหลาะแหละไม่อยู่กับร่องกับรอย ซึ่งไม่ใช่พรรค ภูมิใจไทยเพราะเราได้ปลดกัญชาออกจากยาเสพติด และฟังประชาชน ส่วนพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์จะสู้กันแรงขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงการเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทินบอกว่าไม่เป็นไร

 

ซัดตอบไม่ตรงประเด็น

ด้าน นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวตอบโต้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวหาว่าจัดฉากเด็ก 9 ขวบสูบกัญชาที่พัทยา ว่าสิ่งที่ตนแถลงไปนั้นสอบถามว่ารัฐมนตรีมีความรู้สึกอย่างไร จะแก้ปัญหาการระบาดของกัญชาที่มีทั่วไปในแหล่งท่องเที่ยวอย่างไร และรู้สึกอย่างไรที่เห็นเด็กสูบกัญชาเช่นนั้น แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีไม่ได้ตอบให้ตรงคำถามว่าสะท้อนใจหรือรู้สึกเสียใจ ไม่สบายใจต่อภาพที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกลับมองว่ามีคนจัดฉาก ประชาธิปัตย์จัดฉาก หรือตนจัดฉาก

“ผมก็หยิบข่าวนั้นมาถาม เกรงว่าข่าวนี้จะลอยไปโดยไม่มีใครสนใจ เกรงว่ารัฐมนตรี ผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขจะไม่ได้อ่านข่าวนี้ ผมจึงเอามาถาม ท่านกรุณาตอบมาสิ ผมก็อยากจะฟังว่าท่านรู้สึกอย่างไร จะแก้อย่างไร เพราะท่านเป็นคนจุดประกายนโยบายนี้” นพ.บัญญัติกล่าว

พม.พบเด็ก-รีบช่วยเหลือ

ขณะที่ อำเภอบางละมุง ร่วมกับสธ.อ.บางละมุง ,สภ.เมืองพัทยา , พม.จ.ชลบุรี รวมทั้ง เมืองพัทยา ได้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รับแจ้งจากจนท.เมืองพัทยาว่า พบเด็กที่ปรากฎตามภาพข่าวแล้ว และได้นำตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา

ทั้งนี้ สอบถามแล้วได้ความว่า ชื่อเด็กชายพอส อายุ 10 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านในเขต ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ่อและแม่แยกทางกัน ติดต่อพ่อแม่ไม่ได้ โดยอาศัยอยู่กับย่าที่เขตเทศบาลเมืองหนองปรือ เคยศึกษาอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตหนองปรือ แต่มีประวัติทำร้ายเพื่อนนักเรียนด้วยกัน จึงได้ออกจากโรงเรียน ต่อมาถูกย่าทุบตี พม.จ.จึงได้เข้าช่วยเหลือ โดยย่าเซ็นยินยอมให้อยู่ในความดูแลของพ.มจ.และเข้าไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็ก แต่ก็หลบหนีออกมาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจนท.พม.ได้มีการลงบันทึกประจำวันตามระเบียบขั้นตอน จนกระทั่งพบเห็นอีกครั้งตามภาพข่าว

จากการสอบถามเด็กแจ้งว่า ‘กัญชา’ เก็บได้จากถังขยะ ส่วนบ้องกัญชาทำขึ้นเอง ร่วมกับ นายบอย บ้านอยู่หนองสมอ ซึ่งทราบว่าชายเร่ร่อน สติไม่ดี แต่จนท.ยังไม่พบตัว โดย ด.ช.พอส ใช้ชีวิตเป็นเด็กเร่ร่อนแถวถนนชายหาดพัทยา เดินขอทานได้เงินจำนวนหนึ่งเอาไปเล่นเกมส์ และใช้ชีวิตประจำวัน

เบื้องต้น จนท.พม.จ.จึงได้เข้าให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง โดยจะนำตัวส่งตรวจร่างกาย แล้วจึงจะส่งตัวไปยังสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน ห้วยโป่ง จังหวัดระยอง เพื่อคุ้มครองเด็กต่อไป