กูเกิลยกเลิกติดตั้งระบบขับในรถยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ หลังทดสอบหลับในแล้วปลอดภัย

วันที่ 31 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ทีมพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของบริษัทอัลฟาเบ็ต บริษัทลูกของกูเกิลได้ยุติการพัฒนาคุณลักษณะที่จำเป็นต่อผู้ขับขี่เข้าควบคุมรถในสถานการณ์อันตราย ปล่อยให้ผู้ขับขี่ที่มีแนวโน้มเจอการรบกวนและไม่พร้อมฝึกทักษะขับขี่ เชื่อมั่นต่อระบบขับอัตโนมัติ

การตัดสินใจครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังการทดสอบระบบในซิลิคอน วัลเลย์ซึ่งจัดการทดสอบเวลาผู้ขับขี่เกิดหลับใน กำลังแต่งหน้าหรือเล่นมือถือขณะที่รถเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นายจอห์น คราฟซิค หัวหน้าโครงการเวย์โมกล่าวกับสื่อว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว บริษัทได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าจะมีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติบนทางไฮเวย์ให้เร็วที่สุดทันทีที่ออกสู่ตลาด ส่วนผู้ผลิตรถยนต์อัตโนมัติเจ้าอื่นมีระบบขับอัตโนมัติสำหรับบนทางไฮเวย์เช่นเดียวกัน แต่พวกเขาต้องการให้ผู้ขับขี่จับพวงมาลัยในสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ ซึ่งเวย์โมวางแผนจะทำแบบนั้น

นายคราฟซิคกล่าวกับสื่อระหว่างพาชมศูนย์ทดสอบของเวย์โมว่า สิ่งที่เราพบนั้นค่อนข้างน่ากลัว มันยากที่เราจะเข้าควบคุมเพราะพวกเขาสูญเสียความระมัดระวังเชิงปัจจัยแล้ว และยังกล่าวว่าบริษัทกำหนดให้ระบบให้ขอให้ผู้ขับขี่กระโดดเข้าเมื่อมีเสียงเตือนว่าไม่ปลอดภัยหลังชมวิดีโอจากภายในรถยนต์อัตโนมัติขณะทดสอบ ซึ่งผลิตขึ้นในปี 2013 โดยมีพนักงานกูเกิลเป็นคนขับแต่วิดีโอนี้ไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะจนกระทั่งการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

นายคราฟซิคกล่าวอีกว่า บริษัทตัดสินใจมุ่งเน้นในเทคโนโลยีอย่างเดียวโดยไม่ต้องการแทรกแซงของมนุษย์เป็นเวลา 2-3 วันหลังเกิดเหตุหลับใน โดยย้ำว่าเทคโนโลยีของเราจะดูแลทุกการขับขี่ ปล่อยให้ผู้โดยสารอยู่กับผู้โดยสารได้

อย่างไรก็ตาม นายคราฟซิคปฏิเสธว่าบริษัทอาจขยายก้าวข้ามการทดสอบขนาดเล็ก กล่าวแต่เพียงว่าช่วงเวลาเหล่านี้กำลังใกล้เข้ามา และย้ำว่าบริษัทยังได้หาทางเปิดตัวรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระบบขนส่งในเมืองและการสร้างหุ้นส่วนกับผู้ผลิตรถไปพร้อมกันด้วย ซึ่งเราได้เห็นการประยุกต์ใช้ที่มีศักยภาพถึง 4 ตัว ไม่ว่าจะใช้้แบรนด์ของเวย์โมหรือไม่