ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่พอใจกับการตัดสินใจของโอเปคพลัส องค์กรของชาติผู้ผลิตน้ำมันและพันธมิตร ที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันลงถึงวันละ 2 ล้านบาร์เรล โดยโฆษกทำเนียบขาวอ้างคำกล่าวของไบเดนตั้งแต่ทราบท่าทีของโอเปคพลัสที่ตำหนิว่าเป็นการตัดสินใจแบบไม่มองการณ์ไกลและคิดอะไรเพียงตื้นๆ

ในการให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวด้วยตนเอง ไบเดนแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของโอเปคพลัส และว่าเรากำลังพิจารณาทางเลือกอื่นที่เราอาจมีเพือรับมือกับราคาน้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน มันมีทางเลือกมากมาย แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ

ไบเดนได้เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนกรกฎาคม เพื่อจูงใจให้ซาอุฯ เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงอันเป็นผลจากสงครามยูเครน ที่เป็นปัญหาการเมืองที่หนักหน่วงภายในสหรัฐและส่งผลกระทบต่อการให้การยอมรับต่อการบริหารของรัฐบาลไบเดน แต่ซาอุฯ ไม่ได้รับปากใดๆ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องเป็นมติของที่ประชุมโอเปค

เมื่อถูกถามว่าเสียใจหรือไม่ที่เดินทางไปซาอุฯ ไบเดนกล่าวว่า การเดินทางครั้งนั้นไม่ได้เกี่ยวกับน้ำมันเป็นหลัก แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตะวันตออกกลางและอิสราเอล แต่ก็ยอมรับว่ามันเป็นความผิดหวัง

ทำเนียบขาวพยายามที่จะอาศัยประเด็นของราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อกอบกู้ความยอมรับต่อการทำงานของรัฐบาล ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ที่สร้างปัญหาทางการเมืองอย่างหนักให้กับไบเดน การตัดสินใจปรับลดการผลิตน้ำมันไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อความพยายามที่จะอ้างความสำเร็จของรัฐบาลสหรัฐ แต่ยังจะเป็นประโยชน์กับรัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันอีกด้วย

ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่กำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนเปรู กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า สหรัฐกำลังทบทวนทางเลือกต่างๆ ในการดำเนินความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย หลังจากที่กลุ่มโอเปคพลัสประกาศปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

“เรากำลังทบทวนตัวเลือกจำนวนมากในการตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับซาอุฯ ในอนาคต และกำลังปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิดกับรัฐสภา”บลิงเกนกล่าว อย่างไรก็ดีเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนตอบโต้ต่างๆ ที่สหรัฐกำลังพิจารณา

อย่างไรก็ดีบลิงเกนย้ำว่ สหรัฐจะทำอะไรที่ล่วงล้ำผลประโยชน์ของประเทศ แต่สิ่งแรกและสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะนำมาพิจารณาคือการคำนึงถึงผลประโยชน์ต่างๆ ทั้งหมด และปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสได้เรียกร้องให้สหรัฐลดการขายอววุธให้ซาอุฯ ขณะที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงของสหรัฐกับซาอุฯ ท่ามกลางความไม่พอใจต่อปฏิบัติการทางทหารของซาอุฯ ในเยเมน ที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต รวมถึงข้อกล่าวหาว่าซาอุฯ กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ฝ่ายบริหารของสหรัฐภายใต้การนำของไบเดนหวั่นเกรงว่า การลดกำลังการผลิตน้ำมันลงของโอเปคพลัสอาจทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่พรรคเดโมแครตกำลังพยายามดิ้นรนที่จะควบคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังโอเปคพลัส องค์กรของชาติผู้ผลิตน้ำมันและพันธมิตรประกาศปรับลดการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังราคาน้ำมันโลกลดลง โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่นักวิเคราะห์มองว่าจะยิ่งเพิ่มอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทันทีตั้งแต่ที่โอเปคพลัสประกาศการตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตวานนี้ ล่าสุดน้ำมันโลกก็ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือปรับขึ้นอีก 1.1% มาซื้อขายที่ 94.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับขึ้น 0.8% มาปิดที่ 88.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐยังเผชิญกับสภาพการณ์ที่เลวร้าย ท่ามกลางการจับตาดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่จะมีการประกาศออกมาในวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1.2% มาปิดที่ 29,926.94 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.0% ปิดที่ 3,744.52 จุด และดัชนีแนสแดก ลดลง 0.7% มาปิดที่ 11,073.31 จุด

ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในยุโรปก็ปิดลงด้วยเช่นกัน โดยดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ ลดลง 0.8% มาปิดที่ 6,997.27 จุด ดัชนี DAX ของเยอรมนีลด 0.4% มาอยู่ที่ 12,470.78 จุด ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.8% มาปิดที่ 5,936.42 จุด และดัชนี EURO STOXX 50 ลดลง 0.4% ปิดที่ 3,433.45 จุด