โฆษกรบ.แจง กนง.คงดอกเบี้ย 0.50 ตลอดปี จ่อทยอยลดต่อเนื่องปี 66 หวังเศรษฐกิจฟื้น

กนง.คงดอกเบี้ย 0.50 ตลอดปี จ่อทยอยลดต่อเนื่องปี 66 หวังเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดอัตราเงินเฟ้อ ทยอยลดลง กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 ที่ร้อยละ 2.5

 

วันที่ 28 ก.ย.2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ.2565 วันที่ 1 ม.ค.- 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.เป้าหมายนโยบายการเงินปี 2565 ครม.เคยมีมติอนุมัติให้ใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ 1-3 เป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน และ กนง.เคยประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ปี 2565 ถึงไตรมาสที่ 1 (ม.ค.-มี.ค.) ปี 2566 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน

2.การประเมินภาวะเศรษฐกิจการเงินและเสถียรภาพระบบการเงิน เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นจากหมวดบริการเป็นสำคัญ ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคการค้าและภาคบริการฟื้นตัว

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการส่งออก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ขยายตัว อีกทั้งเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 โดยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 และ 4.2 ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะในหมวดบริการและจากภาคท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านตลาดแรงงานมีสัญญาณดีขึ้น โดยจำนวนผู้ว่างงานปรับลดลงเข้าใกล้ระดับก่อนสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.6 สูงกว่ากรอบเป้าหมาย โดยเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงาน เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศและอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดที่ปรับเพิ่มขึ้น

โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 และมีแนวโน้มสูงเกินกรอบเป้าหมายตลอดปี จากราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยลดลง และกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 ที่ร้อยละ 2.5

ส่วนเสถียรภาพระบบการเงิน ช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ยังมีความเปราะบางในบางจุด โดยเฉพาะภาคครัวเรือนและบางภาคธุรกิจ โดยระบบธนาคารพาณิชย์ ยังกระจายสภาพคล่อง เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง ส่วนเสถียรภาพด้านต่างประเทศยังคงเข้มแข็ง สะท้อนจากเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง และหนี้ต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ และสถาบันการเงินไทยในภาพรวม มีสภาพคล่องและมีฐานะทางการเงินที่สามารถรองรับภาวะวิกฤตได้

3.การดำเนินนโยบายการเงิน โดย กนง.ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง สำหรับการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนนั้น เห็นควรผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน (FX Ecosystem) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ป้องกันความเสี่ยงจากความผัวผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนการรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน เห็นควรให้มีมาตรการเฉพาะสำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่ม ที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ระยะยาวของลูกหนี้ และประการสุดท้ายคือ การสื่อสารแนวนโยบายการเงินในประเด็นที่ประชาชนสนใจ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายการเงิน