วันที่ 30 สิงหาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า รานิล วิกรมสิงห์ ประธานาธิบดีศรีลังกา เตรียมจะตัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมและค่าใช้จ่ายอื่นในการเสนองบประมาณชุดแรกหลังได้รับตำแหน่งผู้นำประเทศที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรง โดยหวังจะเอาชนะและได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ โดยทางการศรีลังกาหวังว่า งบประมาณชั่วคราวในช่วงที่เหลือของปีจะตามมาด้วยข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่ในการขยายความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟที่จำเป็นมากสำหรับศรีลังกาเพื่อจัดการกับความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุด

รานิลกล่าวว่า ในเดือนนี้ งบค่าใช้จ่ายที่จะถูกตัดออกอยู่ราวไม่กี่พันล้านรูปี รวมถึงงบประมาณกลาโหม ก่อนเสนอต่อรัฐสภา โดยก่อนหน้านี้ ศรีลังกาตั้งกรอบค่าใช้จ่ายในงบประมาณล่าสุดราว 3.9 ล้านล้านรูปีหรือ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเสนอต่อรัฐสภาในเดือนพฤศจิกายน

ปธน.ศรีลังกายังหวังในการออกร่างมาตรการเพื่อสนับสนุนชุมชนที่มีรายได้ต่ำซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้มากที่สุด และประกาศภาษีใหม่เพื่อลดการขาดดุลทางการคลัง โดยเป้าหมายการขาดดุลมีแนวโน้มลดลงจากประมาณ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเป็น 9.9% ในงบประมาณชั่วคราว แต่นักวิเคราะห์เตือนว่านี่เป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน เนื่องจากเศรษฐกิจคาดว่าจะหดตัวประมาณ 8% ในปีนี้

ด้านเชฮาน คูเรย์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Acuity Stockbrokers กล่าวว่า ปัญหาที่มีมายาวนานคืองบประมาณไม่ตรงตามเป้าหมายรายได้และการขาดดุล ดังนั้นงบประมาณนี้จะต้องมุ่งเน้นไปที่การรวมบัญชีตามรายได้ที่เหมาะสม

“สิ่งสำคัญคือการขาดดุลงบประมาณและเป้าหมายการขาดดุลหลัก ซึ่งจะสอดคล้องกับแผน IMF”

ทั้งนี้ หน่วยงานจัดอันดับ S&P Global ระบุว่า ประเทศที่มีจำนวน 22 ล้านคนที่พลาดการจ่ายดอกเบี้ยจะครบกำหนดในวันที่ 3 มิถุนายน 28 มิถุนายน และ 18 กรกฎาคม และชำระเงินต้นในวันที่ 25 กรกฎาคม

ทีมงานไอเอ็มเอฟที่เดินทางมาถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเสร็จสิ้นการเยือนในวันพุธ และเจ้าหน้าที่ศรีลังกาหวังว่าจะมีข้อตกลงระดับพนักงานเพื่อเตรียมการเจรจาล่วงหน้าเกี่ยวกับเงินกู้ฉุกเฉินประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์