ยื่นคำขาดเมืองมาริอูโปลยอมจำนน แต่ยูเครนลั่นสู้ตาย รัสเซียโชว์ทหารรอดตายจากเรือธงมอสควา

หลังจากกองทัพรัสเซียได้ยื่นคำขาดให้กองกำลังยูเครนที่ยังสู้รบอยู่ในเมืองมารีอูปอลมอบตัวภายในไม่เกิน 10.00 น. วันที่ 17 เมษายนนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ของเมืองมารีอูปอลออกมาปฏิเสธคำขาดของรัสเซีย พร้อมยืนยันว่าพวกเขาจะยังคงปกป้องเมืองมารีอูปอลและจะยังคงต่อสู้ต่อไป

เปโตร อันดริอุชเชน ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอล ชี้แจงผ่านเทเลแกรมว่า วันนี้ทหารยูเครนยังคงสู้รบกับรัสเซียต่อไป หลังจากรัสเซียได้ยื่นคำขาดก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ว่าพวกเขาจะจัดทำทางเดินสำหรับผู้ยอมจำนนให้กับทหารที่ยังคงหลงเหลืออยู่

อันดริอุชเชนบอกด้วยว่า ยังคงมีการต่อต้านรัสเซียในพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือโรงงานเหล็กอซอฟสตาลตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง ดังนั้น ข้อมูลที่รัสเซียระบุจึงไม่สอดคล้องกับความจริง และเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมายังมีการสู้รบบนท้องถนนห่างจากโรงงานเหล็กราว 5 กิโลเมตร

อันดริอุชเชนกล่าวว่า ในระหว่างการสู้รบผู้ครอบครองได้ยิงใส่บ้านเรือนของชาวบ้านด้วยปืนใหญ่อีกครั้ง ขณะที่การต่อสู้ในบริเวณท่าเรือก็ยังดำเนินต่อไปเช่นกัน

ขณะที่  บีบีซี รายงานว่า ทางการรัสเซียเผยแพร่ภาพเหล่าทหารซึ่งประจำการบนเรือรบมอสควาเป็นครั้งแรก หลังเรือรบที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศจมลงในทะเลดำขณะถูกลากจูงเข้าฝั่ง ในสภาพเสียหายหนัก จากเหตุที่รัสเซียแจ้งว่า เกิดเพลิงไหม้จนเครื่องกระสุนและขีปนาวุธบนเรือเกิดระเบิดขึ้น แต่มีข้อโต้แย้งจากยูเครนว่า เป็นเพราะถูกขีปนาวุธเนปจูนของยูเครนยิงถล่ม เมื่อวันที่ 15 เม.ย.

คลิปวิดีโอที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ เป็นภาพการสวนสนามของลูกเรือมอสควาราว 100 นาย ที่เมืองท่าเซวาสโตโปล  เขตคาบสมุทรไครเมีย ขณะพลเรือเอก นิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการกองทัพเรือรัสเซีย เข้าเยี่ยมเยียนและพูดคุยกับบรรดาลูกเรือดังกล่าว

พลเรือเอกเยฟเมนอฟให้สัมภาษณ์ในคลิปวิดีโอว่า ขณะนี้ลูกเรือมอสควาพักอยู่ที่ฐานทัพของเมืองท่าเซวาสโตโปล และจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพเรือรัสเซียต่อไป

เรือมอสควา
FILE – เรือมอสควาเมื่อครั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Russian Defense Ministry Press Service via AP, File)

ก่อนหน้านี้ กองทัพยูเครนและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเผยว่า เหตุดังกล่าวทำให้มีลูกเรือรัสเซียเสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยกัปตันหรือผู้บังคับการเรือมอสควาเสียชีวิตด้วย แต่ทางกองทัพเรือรัสเซียไม่ได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหรือไม่

หลังเหตุการณ์เรือจมแล้ว รัสเซียหวนโจมตีพื้นที่กรุงเคียฟและบริเวณใกล้เคียง รวมถึงฝั่งตะวันตก โดยมุ่งเป้าทำลายโรงงานผลิตอาวุธและยุทธปัจจัยที่สำคัญ ด้วยวิธีโจมตีทางอากาศหรือยิงขีปนาวุธจากทะเลดำ

มหาเศรษฐีรักบ้านเกิด ลั่นอาสาทุ่มฟื้นฟูเมือง

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “ไรนาต อัคห์เมตอฟ” เจ้าของโรงงานเหล็กขนาดใหญ่ 2 แห่ง มองเห็นอาณาจักรธุรกิจของตัวเองพังทลายลงในช่วง 8 ปีของการสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน แต่ในใจของเขายังคงท้าทายและมั่นใจในเหล่าทหารผู้กล้าหาญว่าจะสามารถปกป้องเมืองท่าในทะเลอาซอฟแห่งนี้ ที่ถูกถล่มด้วยระเบิดมานาน 7 สัปดาห์แล้ว

แม้ว่าในตอนนี้ บริษัท เมตินเวสท์ ของเขา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของยูเครนจะประกาศว่าไม่สามารถจัดหาสินค้าได้ตามสัญญา ในขณะที่ เอสซีเอ็ม กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจด้านการเงินและอุตสาหกรรมของเขา กำลังชำระดอกเบี้ยและเงินต้นตามกำหนด และธุรกิจด้านพลังงานของเขากำลังเจรจาในข้อตกลงต่าง ๆ กับเจ้าหนี้

“มาริอูปอลเป็นโศกนาฏกรรมระดับโลก และเป็นตัวอย่างที่แสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงความกล้าหาญ สำหรับผม มาริอูปอลจะเป็นเมืองของยูเครนตลอดไป” อัคห์เมตอฟเขียนตอบรอยเตอร์ส

“ผมเชื่อว่าทหารผู้กล้าหาญของเราจะปกป้องเมืองแห่งนี้ แม้ผมจะเข้าใจว่ามันยากเพียงใดสำหรับพวกเขา” เขากล่าว พร้อมกับเผยว่าเขายังติดต่อกับผู้จัดการของเมตินเวสท์ทุกวัน

เมื่อวันศุกร์ เมตินเวสท์แจ้งว่าทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย พร้อมระบุว่าการปิดล้อมมาริอูปอลทำให้ยูเครนสูญเสียความสามารถในการผลิตโลหะมากกว่าหนึ่งในสาม

อัคห์เมตอฟกล่าวยกย่องประธานาธิบดี “โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ว่าความกระตือรือร้นและเป็นมืออาชีพในช่วงเกิดสงคราม ดูเหมือนจะทำให้ความสัมพันธ์ต่าง ๆ ราบรื่น หลังจากเมื่อปีที่แล้วผู้นำยูเครนอ้างว่าผู้ที่วางแผนจะโค่นล้มรัฐบาลของเขา พยายามดึงให้นักธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ในเวลานั้นอัคห์เมตอฟมองว่านั่นคือคำโกหก แต่แน่นอนว่าสงครามไม่ใช่เวลาที่จะมาขัดแย้งกัน เขากล่าวว่า “เราจะสร้างยูเครนขึ้นมาใหม่ทั้งหมด” พร้อมกับเผยว่า เขาได้กลับไปที่ยูเครนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมา

แผนมาร์แชลสำหรับยูเครน

อัคห์เมตอฟไม่ได้บอกว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่เขาเคยอยู่ที่มาริอูปอลเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่หน่วยข่าวกรองตะวันตกบางแห่งคาดว่ารัสเซียจะบุกยูเครน เขากล่าวว่า “ผมคุยกับคนตามท้องถนน ผมเจอคนงาน”

“ความปรารถนาของผมคือการกลับมาที่มาริอูปอล และดำเนินการตามแผน (การผลิตใหม่) ของเรา เพื่อให้เหล็กที่ผลิตในมาริอูปอลสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดโลกได้เหมือนเมื่อก่อน

รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซียประกาศใช้ปฏิบัติการพิเศษเพื่อทำให้ยูเครนปลอดทหาร ขณะที่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกปฏิเสธข้ออ้างที่เป็นเท็จในการโจมตีโดยปราศจากการยั่วยุของรัสเซีย

อัคห์เมตอฟ บุรุษที่ครองตำแหน่งผู้ที่ร่ำรวยที่สุดของยูเครนมายาวนาน เห็นอาณาจักรธุรกิจของตัวเองหดตัวลงตั้งแต่ปี 2557 เมื่อรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียในทะเลดำ และภูมิภาคตะวันออกของยูเครน 2 แห่ง ได้แก่ โดเนตสค์และลูฮานสค์ ประกาศแยกตัวจากยูเครน

ตามรายงานของนิตยสารฟอร์บส์ อัคเมตอฟครองความมั่งคั่ง 15,400 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2556 ปัจจุบันลดเหลือ 3,900 ล้านดอลลาร์

“สำหรับเรา สงครามปะทุขึ้นเมื่อปี 2557 เราสูญเสียทรัพย์สินทั้งในไครเมียและดินแดนดอนบาสที่ถูกยึดครองชั่วคราว เราสูญเสียธุรกิจของเรา แต่มันทำให้เราอดทนและแข็งแกร่งขึ้น” เขากล่าว

“ผมมั่นใจว่า ในฐานะธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เอสซีเอ็มจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูยูเครนหลังสงคราม” เขากล่าว พร้อมกับอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ระบุว่าความเสียหายจากสงครามมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

“แน่นอนว่าเราต้องการโครงการฟื้นฟูระหว่างประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แผนมาร์แชลสำหรับยูเครน” เขากล่าว โดยอ้างถึงโครงการช่วยเหลือของสหรัฐฯที่ช่วยสร้างยุโรปตะวันตกขึ้นใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

“ผมเชื่อว่าเราจะสร้างยูเครนที่เสรี เป็นส่วนหนึ่งของยุโรป เป็นประชาธิปไตย และประสบความสำเร็จ หลังจากชัยชนะในสงครามครั้งนี้”