“เซเลนสกี้” ร้องเจรจาสันติกับรบ.รัสเซีย พร้อมจี้สวิสปราบโอลิการ์ชใกล้ชิดปูตินหนักอีก

วันที่ 20 มีนาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า โวโลโดมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครนเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภารพกับรัฐบาลรัสเซียและยังเรียกร้องไปยังสวิตเซอร์แลนด์ให้จัดการกับเหล่าคนรวยรัสเซียหรือโอลิการ์ทที่ขับเคลื่อนสงครามรุกรานยูเครนด้วยเงินจำนวนมาก

เซเลนสกี้ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศบ่อยครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือในยูเครน ได้บอกกับการประท้วงต่อต้านสงครามในกรุงเบิร์นว่าธนาคารสวิสเป็นที่ที่ “เงินของผู้คนที่ระเบิดไฟสงครามครั้งนี้” เก็บอยู่ และบัญชีของพวกเขาควรถูกระงับ

เมืองต่างๆ ของยูเครน “กำลังถูกทำลายตามคำสั่งของผู้ที่อาศัยอยู่ในยุโรป ในเมืองที่สวยงามของสวิส และเพลิดเพลินกับทรัพย์สินในเมืองของคุณ เป็นการดีที่จะตัดสิทธิพิเศษนี้ออกจากพวกเขา” เขากล่าวผ่านวิดีโอคอลทางไกล

ก่อนหน้านี้ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศในยุโรปที่ไม่ใช่สมาชิกของสหภาพยุโรปและดำรงสถานะเป็นกลางกับทุกขัดแย้งมานาน ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต่อบุคคลและหน่วยงานในรัสเซีย ซึ่งรวมถึงคำสั่งให้ระงับความมั่งคั่งในธนาคารสวิส

ก่อนหน้านี้ เซเลนสกี้ ได้เผยแพร่วิดีโอแถลงสถานการณ์ โดยได้เรียกร้องรัฐบาลรัสเซียจัดการเจรจาสันติภาพในตอนนี้

“ตอนนี้ผมอยากให้ทุกคนได้ยินผม โดยเฉพาะในรัฐบาลรัสเซีย ถึงเวลาประชุมแล้ว ถึงเวลาต้องคุยกันแล้ว” เขากล่าวในวิดีโอ “ถึงเวลาแล้วที่จะฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดนและความยุติธรรมของยูเครน มิฉะนั้น ความสูญเสียของรัสเซียก็จะเป็นเช่นนั้น ซึ่งจะทำให้คุณต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการฟื้นฟู” เซเลนสกี้ กล่าวเตือน

ด้านหน่วยข่าวกรองของอังกฤษ ได้เตือนว่า รัสเซียกำลังหัวร้อนหนักจากความล้มเหลวของกองทัพรัสเซียที่จะบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานเต็มรูปแบบเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ กำลังมาดำเนินกลยุทธ์อำมหิตแบบล้างผลาญทุกอย่างให้สิ้นซาก ด้วยการระดมยิงปืนใหญ่และจรวดชุดถล่มหลายเมือง ทำให้พื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายไปด้วย ซึ่งจะทำให้วิกฤตมนุษยธรรมรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากกองทัพรัสเซียเผชิญความสูญเสียอย่างหนัก และการรุกคืบไม่ไปถึงไหน แนวรบฝั่งรัสเซียยังคงถูกตรึงอยู่รอบนอกกรุงคียีฟของยูเครน แต่กองทัพรัสเซียยังคงปิดล้อมเมืองพร้อมใส่ยิงอาวุธระยะไกลแบบทำลายล้างเป็นวงกว้าง แม้แต่การโจมตีด้วยจรวดไปยังเป้าหมายที่อยู่นอกพื้นที่สู้รบด้วย

พลอากาศโท มิค สมีธ ผู้ช่วยทูตกลาโหมอังกฤษประจำสหรัฐฯ กล่าวแถลงว่า หน่วยข่าวกรองอังกฤษเชื่อว่ารัสเซียกำลังถูกโต้กลับอย่างหนักจากการต่อต้านของกองทัพยูเครน และจนถึงขณะนี้ยังล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์ดั้งเดิม

“รัสเซียถูกบังคับให้เปลี่ยนแนวการรบ และขณะนี้กำลังดำเนินตามกลยุทธ์ล้างผลาญ” ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับ “การใช้อำนาจการยิงตามอำเภอใจ ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น”

อีกทั้ง เมื่อวานนี้ สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียได้ใช้ ‘คินชัล’ จรวดความเร็วเหนือเสียงเข้าทำลายคลังเก็บมิสไซล์และกระสุนเครื่องบินใต้ดินในพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองอิวานโก ฟรานคีฟส์ ซึ่งโฆษกกองทัพอากาศยูเครนยืนยันการถูกโจมตีครั้งนี้ แต่ยังไม่รู้ว่ารัสเซียใช้จรวดชนิดใดโจมตี

ขณะที่ กระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าวเมื่อคืนวานนี้ว่า รัสเซียยังคบุกในแนวรบภูมิภาคโดเนสก์ตะวันออก แต่กองทัพรัสเซียถูกบังคับให้รวมกลุ่มใหม่ในบางพื้นที่และกำลังส่งกองหนุนเสริมเข้าไป

“ขวัญกำลังใจและสภาพจิตใจของทหารรัสเซียต่ำลงมากลและยิ่งนานวัน พวกเขายิ่งยกระดับสงครามให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น” กระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าว

จากโจมตียูเครนโดยเฉพาะเป้าหมายพลเรือนในหลายเมืองจนบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ทำให้ตัวเลขล่าสุดของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 847 ราย บาดเจ็บ 1,399 ราย แต่เชื่อว่าตัวเลขความสูญเสียแท้จริงจะมากกว่านี้อีก โดยในจำนวนที่เสียชีวิตเป็นเด็ก 112 ราย

ส่วนทางการเมืองคียีฟของยูเครนรายงานว่า มีชาวเมืองเสียชีวิตแล้ว 228 ราย เป็นเด็ก 4 ราย อีก 912 คนบาดเจ็บ

เมื่อชาวยูเครนต้องรู้ที่จะสู้

ขณะที่ฝั่งยูเครนที่เป็นฝ่ายรับการรุกราน ชาวยูเครนพยายามปกป้องประเทศพวกเขา อย่างชาวยูเครนในเมืองโอเดสซา เมืองท่าสำคัญที่มีข่าวว่าจะถูกรัสเซียยกพลขึ้นบกโจมตี หลายคนต่างเรียนรู้จะใช้อาวุธรวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

อิรีน่า เวเรสชุค รองนายกรัฐมนตรีของยูเครนกล่าวว่า มีชาวยูเครนลี้ภัยกว่า 3.3 ล้านคนไปยังพรมแดนประเทศตะวันตก อีก 2 ล้านคนไร้ที่อยู่ในประเทศ ชาวยูเครนที่อยู่พื้นที่แนวหน้า 190,000 คนได้อพยพผ่านระเบียบมนุษยธรรม

อาวุธเสริมจากสหรัฐฯกำลังมาถึง

โอเล็คซี ดานิลอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่่งชาติของยูเครน กล่าวผ่านโทรทัศน์ว่ายูเครนจะได้รับอาวุธลำเลียงจากสหรัฐฯเข้ามาในอีกไม่กี่วัน รวมถึงอาวุธต่อต้านยานเกราะภาคพื้นและอากาศอย่าง เจวาลินและสติงเกอร์

“(อาวุธ) จะมาถึงยูเครนในอนาคตอันใกล้นี้” ดานิลอฟ กล่าว

ทั้งนี้ พันธมิตรของยูเครนได้ส่งมอบเครื่องบินบรรทุกอาวุธเพื่อหนุนกองทัพต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียได้วิพากษ์วิจารณ์การส่งมอบดังกล่าวมาจากประเทศสมาชิกนาโต้