ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 กันยายน 2560 |
---|---|
เผยแพร่ |
พม่า
ย่างกุ้ง – สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาว่า มีชาวโรฮิงญาอพยพข้ามชายแดนจากพม่าไปยังบังกลาเทศแล้วจำนวนเกือบ 125,000 คน นับตั้งแต่เหตุรุนแรงครั้งล่าสุดปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา คลื่นผู้อพยพดังกล่าวส่งผลให้ค่ายพักพิงสำหรับผู้อพยพที่สร้างขึ้นเป็นการชั่วคราวเกิดความแออัดอย่างหนัก โดยหากนับรวมผู้อพยพชาวโรฮิงญาจากเหตรุนแรงนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนแล้วจะมีจำนวนมากถึง 150,000 คนแล้ว
นายโมฮัมหมัด ฮุสเซน ชาวโรฮิงญาวัย 25 ปีระบุว่า กลุ่มชาวโรฮิงญากลุ่มใหม่พยายามจะสร้างบ้านพักอาศัยในเมืองค็อกซ์สบาซาร์ เมืองบริเวณชายแดนบังกลาเทศ ติดกับพม่า แต่ไม่สามารถที่จะสร้างได้เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอ ขณะที่สภาพความเป็นอยู่เริ่มย่ำแย่ ไม่มีอาหาร เด็กป่วยไม่ได้รับการดูแล ขณะที่ผู้หญิงบางรายต้องคลอดลูกริมถนน
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงครั้งล่าสุดเริ่มต้นจากกลุ่มกบฏโรฮิงญาก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐบาลพม่าซึ่งตอบโต้ด้วยการบุกโจมตีพื้นที่ในรัฐยะไข่ พื้นที่ซึ่งมีชาวมุสลิมโรฮิงญาอาศัยอยู่จำนวนมาก ล่าสุดมีบ้านเรือนถูกเผาหลายพันหลังคาเรือนโดยรัฐบาลพม่าอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มโรฮิงญา ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้อพยพชาวโรฮิงญาระบุว่าเป็นฝีมือของทหารพม่า
ด้าน นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของรัฐบาลพม่า ออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของพม่า นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อราวเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน โดยนางซูจีได้กล่าวกับนายเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกีทางโทรศัพท์ ระบุว่ารัฐบาลพม่ากำลังทำงานกันเพื่อปกป้องสิทธิ์ของชาวโรฮิงญา เพราะพม่ารู้เป็นอย่างดีว่า อะไรคือการบั่นทอนสิทธิมนุษยชนและการปกป้องประชาธิปไตย
ไต้หวัน
ไทเป – สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน ประธานาธิบดี ไช่ อิง เหวิน ของไต้หวัน ได้แต่งตั้ง นายวิลเลียม ไล่ นายกเทศมนตรีเมืองไถหนัน ของไต้หวัน เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทน นายหลิน ฉวน ที่ลาออกจากตำแหน่งไป ท่ามกลางกระแสความนิยมในตัวของประธานาธิบดีที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยประธานาธิบดีไช่กล่าวว่า นายไล่จะเป็นหัวหน้าทีมของรัฐบาล จัดการกับปัญหาทุกอย่างและก้าวไปข้างหน้าต่อไป ทั้งนี้ นายหลิน ฉวน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559
ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) พรรคที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาไต้หวันออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน ระบุว่า ไช่ อิง เหวิน ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวันอนุมัติการยื่นขอลาออกของ หลิน ฉวน นายกรัฐมนตรีไต้หวันแล้ว โดยการลาออกดังกล่าวถูกมองว่าเป็นไปเพื่อฟื้นคะแนนนิยมของประธานาธิบดีไช่ ที่ลดต่ำลงในช่วงที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า หลังประธานาธิบดีไต้หวันที่เข้าสู่ตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 มีคะแนนนิยมลดต่ำลงเหลือเพียง 29.8 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยนายหลิน นายกรัฐมนตรีไต้หวันถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและสมาชิกร่วมพรรคดีพีพี ว่าดำเนินนโยบายผิดพลาด เช่น การระงับความสัมพันธ์กับจีน การปฏิรูประบบบำนาญ และกฎหมายแรงงาน เป็นต้น ส่งผลให้เกิดเสียงเรียกร้องให้นายหลินลาออกเพื่อฟื้นฟูคะแนนนิยมของประธานาธิบดีและปูทางสู่การเลือกตั้งในปี 2563
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนคือ นายวิลเลียม ไล่ นายกเทศมนตรีเมืองไถหนัน ที่ได้รับความนิยมและเป็นสมาชิกพรรคระดับสูงของพรรคดีพีพีด้วย
ญี่ปุ่น
โตเกียว – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักพระราชวังอิมพีเรียล เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาว่า เจ้าหญิงมาโกะ พระราชนัดดาพระองค์โตของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ แห่งญี่ปุ่นเตรียมที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับ นายเค โคมุโระ พนักงานในสำนักงานกฎหมาย อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนมหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน โดยสำนักพระราชวังยืนยันว่าการที่เจ้าหญิงมาโกะจะเข้าพิธีวิวาห์กับบุคคลธรรมดาดังกล่าวจะส่งผลให้เจ้าหญิงมาโกะต้องสละฐานันดรศักดิ์ในฐานะสมาชิกราชวงศ์ลง ทั้งนี้ การสละฐานันดรของเจ้าหญิงมาโกะ ส่งผลให้จำนวนสมาชิกราชวงศ์นั้นลดน้อยลงไปอีก เนื่องจากเจ้าหญิงมาโกะพระราชนัดดา 1 ใน 4 พระองค์ของสมเด็จพระจักรพรรดิ โดยอีก 3 พระองค์คือเจ้าหญิงคาโกะ พระขนิษฐภคินี เจ้าชายฮิซาฮิโตะ พระอนุชา และเจ้าหญิงไอโกะ พระธิดาในเจ้าชายoารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยเจ้าชายฮิซาฮิโตะ นั้นเป็น 1 ใน 4 รัชทายาทต่อจากพระราชโอรสของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะอีก 2 พระองค์
ทั้งนี้ จำนวนสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ลดน้อยลง รวมถึงการประกาศสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะก่อนหน้านี้นั้นสร้างความกังวลว่าเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นอาจเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ญี่ปุ่น