‘ไบเดน’ กร้าว “ปูติน” จะต้องชดใช้ ทัพรัสเซียระดมยิงถล่ม-เคลื่อนแนวรบใกล้คียีฟ ชาวยูเครนสู้ยิบตา

รัสเซียทุ่มหนัก ขยายแนวรบประชิดเมืองหลวง ยิงเสาส่งโทรทัศน์ ระดมยิงถล่มโดนเขตชุมชน ชาวยูเครนต้านสุดตัว ผู้นำสหรัฐฯลั่น “ปูติน” จะต้องชดใช้จากการรุกราน

วันที่ 2 มีนาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานความคืบหน้าของความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หลังรัสเซียยกทัพรุกรานยูเครนตั้งแต่วันที่่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ยังคงมีการสู้รบอย่่างดุเดือดระหว่างฝ่ายรุกรานกับฝ่ายต่อต้าน โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างกรุงคียีฟและเมืองคาร์คิฟเจอการระดมยิงถล่มอย่างหนักจากจรวดและกระสุนปืนใหญ่ของกองทัพรัสเซียหลายชุด และมีจรวดหลายลูกจากฝั่งรัสเซียถล่มไปในเขตที่อยู่อาศัยจนทำให้มีชาวยูเครนที่เป็นพลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิต

สถานการณ์ล่าสุดในวันนี้ ที่ประชุมสภาคองเกรสได้มีการประชุมรัฐสภาหรือ State of Union โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้เตือนวลาดิเมียร์ ปูติน ว่าจะต้องชดใช้จากการกระทำอันก้าวร้าวนี้ หลังกองทัพรัสเซียยังไม่หยุดการโจมตี

“ตลอดประวัติศาสตร์ของเรา เราได้เรียนรู้บทเรียนนี้ – เมื่อเผด็จการจะไม่ชดใช้สิ่งที่กระทำในการรุกรานของพวกเขา พวกเขาจะก่อความโกลาหลมากขึ้น ยิ่งพวกเขาเคลื่อนไหวต่อไป ต้นทุนและภัยคุกคามต่ออเมริกาและโลกก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ปูตินได้ปลดปล่อยความรุนแรงและความโกลาหล แต่ในขณะที่เขาสามารถทำกำไรในสนามรบ ในระยะยาวเขาจะจ่ายด้วยต้นทุนอันสูงลิ่วไปเรื่อยๆ” ไบเดนกล่าว

จากนั้น ไบเดน ได้ประกาศห้ามสายการบินของรัสเซียบินเข้าน่านฟ้าสหรัฐฯ หลังจากนั้นสภาชิกสภาทุกคน ได้ยืนปรบมือให้กับทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ พร้อมเรียกว่ากับสมาชิกสภาแสดงพลังให้โลกเห็นว่าสหรัฐอยู่เคียงข้างยูเครน

ด้านรัฐมนตรีกลาโหมยูเครนกล่าววันนี้ว่า กำลังพลร่มรัสเซียได้โดดร่มลงมายังเมืองคาร์คีฟและทำการต่อสู้กับกองทัพยูเครนอย่างหนัก และมีการโจมตีศูนย์การแพทย์ในนครคาร์คีฟด้วย หลังจากที่รัสเซียล้มเหลวในการยึดเมืองแม้แต่เมืองเดียว จากการเผชิญการต่อต้านของกองทัพยูเครนที่มีประชาชนร่วมต่อสู้ นักวิเคราะห์ชาติตะวันตกมองว่ารัสเซียใช้ยุทธวิธีแบบเดียวกับที่ใช้ในเชชเนียและซีเรียคือ การระดมโจมตีแบบปูพรมอย่างหนักทั้งจากกระสุนปืนใหญ่และทิ้งระเบิดจากทางอากาศและทำลายเมืองให้ราบคาบพร้อมกับขวัญกำลังใจของนักสู้ฝั่งยูเครน

ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่านครคาร์คีฟมีแนวโน้มถูกกองทัพรัสเซียล้อมวงหมดแล้ว พร้อมกับเมืองเคอร์ซัน และเมืองท่าสำคัญอย่างมาริอูโปล

อีกทั้งเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า จรวดของรัสเซียได้โจมตีเสาสัญญาณโทรทัศน์กลางกรุงคียีฟ คร่าชีวิตคนไปราว 5 ราย

ส่วนสถานการณ์อื่นท่ามกลางการสู้รบอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นชาวยูเครนกว่าแสนคนหนีจากภัยสงคราม ขณะที่ขบวนทัพรัสเซียยาวกว่า 26 กม.กำลังมุ่งหน้ามายังกรุงคียีฟ แต่กองกำลังทางเหนือที่กำลังรวมตัวนอกกรุงคียีฟ ทางฝ่ายกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯประเมินว่า รัสเซียต้องเคลื่อนทัพพร้อมกับเผชิญปัญหาพื้นฐานอย่างการส่งกำลังบำรุง ปัญหาอาหารและเชื้อเพลิงขาดแคลนอย่างหนัก ทหารบางหน่วยของรัสเซียก็ปรากฎสภาพขวัญกำลังใจถดถอย และทางรัสเซียอาจเลือกใช้วิธีการระดมทิ้งระเบิดและยิงปืนใหญ่ใส่เป้าหมายแทนการทุ่มกำลังภาคพื้นบุกโจมตี

นอกจากนี้ มีช่วงสำคัญที่ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ได้แสดงสุนทรพจน์ต่อสมาชิกสภายุโรปเมื่อคืนวานนี้ เรียกต้องให้ชาติสมาชิกรับยูเครนเป็นสมาชิกอียู ก่อนที่ทั้งห้องประชุมจะมีเสียงปรบมือให้กำลังใจผู้นำยูเครนอย่างพร้อมเพรียง

“หากไม่มีพวกท่าน (อียู) เราก็คงโดดเดี่ยว เราได้พิสูจน์แล้วในความเข้มแข็งของเรา เราได้เป็นแบบเดียวกับที่ท่านเป็นอยู่ ดังนั้นจงพิสูจน์ว่าพวกคุณอยู่ข้างเรา พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกคุณจะไม่ปล่อยมือเราไป พิสูจน์ว่าพวกคุณคือชาวยุโรปที่แท้จริง ตราบชีวิตมีชัยเหนือความตาย และแสงสว่างเอาชนะความมืดมน แด่ความรุ่งโรจน์สู่ยูเครน” เซเลนสกี้ กล่าว