พปชร.เล็งตั้ง รมต.-คนมีกึ๋น คุม10โซนทั่วปท. จูงใจ “ประยุทธ์” อยู่ร่วมงานพรรค

พปชร. เล็งปรับโครงสร้างบริหาร ตั้ง รมต.-คนมีกึ๋น คุมแต่ละโซน แข่งสร้างผลงาน ชี้หากสำเร็จ ประยุทธ์ เดินคู่พรรคต่อ เหตุแกนนำซีกที่หนุน ยังมีบทบาทถ้วนหน้า

วันที่ 1 พ.ย. 2564 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แจ้งว่า ขณะนี้แกนนำพรรคอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานภายในให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเดินหน้าทางการเมืองและเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งในอนาคต ตามที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ได้นำเสนอพิมพ์เขียวโครงสร้างพรรคใหม่ ต่อที่ประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) เมื่อ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยรูปแบบโครงสร้างใหม่ของพรรค จะใช้โมเดลแบ่งโซนทั่วประเทศ ออกเป็น 10 ภาค มีหัวหน้าภาค ที่มาจากการเลือกกันเองของส.ส. เป็นคนรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ เพราะการให้ระดับรัฐมนตรี หรือผู้ที่มีศักยภาพ มีฐานเสียงในพื้นที่นั้นๆ รับผิดชอบ จะสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรค ลดการบริหารงานแบบรวมศูนย์ กระจายอำนาจให้แกนนำทุกกลุ่มมีบทบาทขับเคลื่อนพรรค ไม่ก้าวก่ายข้ามโซนกันไปมา

การให้ทุกกลุ่มมีบทบาทในแต่ละภาค จะเป็นตัวกระตุ้นให้หัวหน้าภาคแต่ละคนต้องแข่งกันสร้างผลงานในการเลือกตั้งให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ พรรคอาจเพิ่มสัดส่วนรองหัวหน้าพรรคมาดูแลทั้ง 10 โซนทั่วประเทศ จากเดิมที่มีอยู่เพียง 4 คน

ทั้งนี้ หากการปรับโครงสร้างดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะเป็นเหตุผลสำคัญให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ร่วมงานการเมืองกับพปชร.ต่อไป โดยไม่ตัดสินใจไปตั้งพรรคใหม่ เนื่องจากแกนนำพรรค รวมถึงรัฐมนตรีในซีกที่สนับสนุนนายกฯ จะมีบทบาทดูแลพื้นที่และส.ส.

ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค จะมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค อยู่ในตำแหน่งตามเดิมไม่เปลี่ยน แต่บทบาทจากนี้จะชัดเจนมากขึ้น ไม่ต้องรับผิดชอบภารกิจครอบจักรวาลเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ แกนนำพรรคหลายคนมองตรงกันว่า หากพรรคไม่มีการปรับเปลี่ยนการบริหารงานภายใน จะส่งผลกระทบในการเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้