เครือข่ายต้านทุจริตฯ จี้บิ๊กตู่ เลิกบังคับอบรมครู งบ 4 พันล้าน ท้าถ้าดีจริงให้รมต.อบรมก่อน

ภตช.จี้ “บิ๊กตู่” ยกเลิกอบรบครู ใช้งบ 4 พันล้าน เกินจริง 5 เท่า ท้า ถ้าดีจริงให้ รมว. ศธ. ลองอบรบก่อน

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) นายมงคงกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบและยกเลิกประกาศการใช้หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ โดยการเข้าอบรมซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจเอกชน และเป็นภาระด้านค่าใช้จ่ายกับบุคลากรครู

นายมงคงกิตติ์กล่าวว่า ภตช.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นจำนวนมากว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศการใช้หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ โดยจัดหลักสูตรบังคับอบรมทั้งสิ้น 1,400 หลักสูตร กระจายตามจังหวัดต่างๆ เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ครู เนื่องจากการเลื่อนวิทยฐานะต้องผ่านการอบรม 50 ชั่วโมงต่อปี หรือ 250 ชั่วโมงต่อ 5 ปี เพื่อการเลื่อนวิทยฐานะหนึ่งระดับ โดยครูจะได้รับงบประมาณการอบรมคนละ 10,000 บาท ต่อคน/ปี ทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติ เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายการเข้าอบรมที่ครูกว่า 400,000 คน ต้องรับผิดชอบกว่า เฉลี่ย 50,000 บาทต่อคนต่อหนึ่งหลักสูตรอบรม

นายมงคงกิตติ์กล่าวต่อว่า กฎเกณฑ์ใหม่ดังกล่าวนั้น ใช้งบประมาณมากเกินความเป็นจริงกว่า 5 เท่า เนื่องจากต้นทุนการอบรมแท้จริงตามการอบรมแบบเดิมที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เคยใช้นั้นรวมทั้งสิ้นเพียง 783.675 ล้านบาทต่อปี แต่นโยบายใหม่กลับมีการเบิกใช้งบประมาณมากถึง 4 พันล้านบาท นอกจากนั้น ศธ. ยังได้ยกเลิกโครงการอื่น ๆ เช่น ค่าซ่อมบำรุง ค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ เพื่อนำงบประมาณมาใช้จ่ายในโครงการนี้ ทำให้โรงเรียนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวด้วยตนเอง ซึ่งเป็นที่มาของการเรียกรับผลประโยชน์จากเงินแปะเจี๊ยะ เพื่อนำมาทดแทนกับงบประมาณที่ถูกยกเลิกไป

“ภตช. จึงขอให้ตรวจสอบและยกเลิกโครงการดังกล่าวซึ่งอาจมีการทุจริตเชิงนโยบายโดยการเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจเอกชนการอบรมและเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับครูโดยไม่จำเป็น อีกทั้งกระทบกับการจัดลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณปกติของนักเรียนเพื่อพัฒนาการศึกษา และขอให้กลับมาใช้การพัฒนาครูในรูปแบบเดิมซึ่งดีอยู่แล้ว ผมเห็นว่า นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริฐเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคิดไม่รอบคอบ เห็นครูเป็นหนูทดลอง ถ้าอยากจะให้อบรมก็ให้ท่านไปลองอบรมก่อน 1,400 หลักสูตร แล้วค่อยนำมาให้ครูใช้ การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งหน้า อยากให้ พล.อ. ประยุทธ์ หาคนที่มีความรู้มากกว่านี้มาเป็นรัฐมนตรีจะดีกว่า” นายมงคงกิตติ์กล่าว