‘ยุทธพงศ์’ เย้ยนายกฯสละเงินเดือนแค่ 3 เดือน เทียบไม่ได้กับความเสียหาย

‘ยุทธพงศ์’ เย้ยนายกฯสละเงินเดือนแค่ 3 เดือน เทียบไม่ได้กับความเสียหาย ท้าอยากเสียสละให้ถอนซื้อเรือดำน้ำ เอาเงินไปซื้อวัคซีน

วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. แถลงถึงผลจากการประกาศล็อกดาวน์ กทม.และปริมณฑล 14 วัน ว่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น คนที่ต้องรับผิดชอบคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. เพราะการล็อกดาวน์ไม่มีอะไรใหม่ เป็นเรื่องที่เคยทำมาก่อนแล้วทั้งนั้น ที่ใหม่มีอยู่เรื่องเดียวคือการที่นายกฯประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือน โดยที่เงินเดือนนายกฯอยู่ที่ 75,960 บาท เงินประจำตำแหน่งอีก 50,000 บาท รวม 3 เดือน เป็นเงิน 347,220 บาท แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดแคมป์คนงาน ปิดห้าง และร้านอาหารมีมากกว่านั้น

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลใช้ยาแรง ปัญหาที่ตามมาคือ คนไม่มีจะกิน แล้วรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาประชาชนอย่างไรบ้าง ตนเป็น ส.ส.ภาคอีสาน พอคนไม่มีงานทำก็กลับบ้านไปอยู่อีสาน งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี พรรค พท.จึงขอเรียกร้องว่าอย่างน้อยปีนี้สถานการณ์ลำบาก ประชาชนเดือดร้อนมากกว่าเดิม ก็ควรช่วยเหลือเยียวยาประชาชนคนละ 5,000 บาท 3 เดือน แบบที่เคยช่วย และต้องรีบช่วยด้วยเพราะคนอดอยากมาก

นอกจากนี้ การปิดร้านอาหาร รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาเขาอย่างไร และคนติดโควิดกลับไปต่างจังหวัดอย่างพื้นที่ตนที่มหาสารคาม โรงพยาบาลก็ล้น แล้วก็ต้องทำโรงพยาบาลสนามเพิ่ม และต้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเงินกว่า 2 แสนบาท แต่ปัญหาที่ตามมาคือรัฐบาลไม่มีเงินช่วย ตนก็ไม่รู้ว่าเงินกู้ด้านสาธารณสุขจำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท จาก พ.ร.ก.เงินกู้ครั้งแรก และเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ที่เพิ่งรีบร้อนผ่านไปอีก 3 หมื่นล้านบาทนั้นไปไหน เหตุใดไม่มีเงินให้ แล้วมาให้ประชาชนช่วยกันบริจาค วันนี้ประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้วต้องบริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ติดโควิดด้วยกันเองหรือ เทียบกับที่นายกฯบอกไม่รับเงินเดือน 3 เดือน เทียบกับคนที่เป็น ส.ส.ในสภา เขาเสียสละ และทำมากกว่านายกฯเสียอีก นายกฯเพิ่งคิดได้หรือ

วันนี้ตนเอาศูนย์ประสานงาน ส.ส.ของตนทำโรงพยาบาลสนามแล้ว ตนถามว่าเงินที่รัฐบาลกู้มาไปไหน การบริหารท่านก็ล้มเหลวสิ้นเชิง เตียงก็เต็ม และที่เต็มก็เพราะท่านบริหาร ท่านปล่อยให้คนต่างจังหวัดสู้กันตามยถากรรม ท่านมีเวลาจัดเตรียมระบบสาธารณสุขเป็นปีๆ แล้ววัคซีนที่ดี และมีคุณภาพอยู่ไหน แสดงถึงความไม่โปร่งใส คนเรียกร้องให้นำสัญญาวัคซีนมาเปิดเผย รัฐบาลก็ไม่ยอมเปิดเผย อ้างว่าเป็นความลับ

“วันนี้ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีแนวโน้มจะติดโควิด ทั้งที่ฉีดวัคซีนชิโนแวคแล้ว 2 เข็ม ตั้งแต่แรกๆ ที่เปิดให้ ส.ส.ฉีด สะท้อนให้เห็นว่า วัคซีนที่ไม่มีคุณภาพ บุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ก็ติดโควิดเสียชีวิต ข่าวเพิ่งออก แปลว่าวัคซีนมีปัญหา ต่อไปประชาชนจะทำอย่างไรเมื่อรัฐบาลยังเดินหน้าซื้อวัคซีนซิโนแวคต่อไปอีก ตนในฐานะ กมธ.งบประมาณ ก็เห็นการเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำต่ออยู่ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์อยากเสียสละเพื่อประชาชน การสละเงินเดือนเพียง 3 เดือนไม่พอช่วยประชาชนหรอก ในฐานะท่านเป็นนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านทำหนังสือไปถอนเรื่องเรือดำน้ำออกจากร่าง พ.ร.บ.งบ 65 ไปเลย เงินจำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท เอาไปซื้อวัคซีนดีๆ ได้จำนวนมากโดยไม่ต้องไปกู้เงินใครเลย” นายยุทธพงศ์​กล่าว

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม.อนุมัติเงินให้ซื้อซิโนแวคอีก 10.9 ล้านโดส วงเงิน 6,100 ล้านบาท ตนขอถามว่าเมื่อวัคซีนมีปัญหา ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องคุณภาพ รัฐบาลก็ยังจะซื้ออีก ทำไมไม่ไปซื้อวัคซีนดีๆ มีคุณภาพ ขณะที่ประชาชนต้องบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล รัฐบาลกลับซื้อเรือดำน้ำ ซื้อวัคซีนซิโนแวค ซื้ออย่างกับมหาเศรษฐีซื้อ โปรยซื้อ แล้วถามว่ามีใครยืนยันเรื่องคุณภาพได้บ้าง

เมื่อถามว่า มีข้อเสนออะไรนอกเหนือจากนี้ที่จะเสนอให้สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมอีกหรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ตนในฐานะ กมธ.งบ สัปดาห์หน้างบของกระทรวงสาธารณสุขเข้า ตนจะขอสัญญาในการจัดซื้อวัคซีน เพราะตนเชื่อว่าสามารถเปิดเผยได้ และตนจะขอทราบผลจากการเบิกจ่ายงบก้อน 4.5 หมื่นล้านบาทจากเงินกู้รอบแรก และของปีนี้อีก 3 หมื่นล้านบาท เหตุใดไม่นำเงินไปช่วยโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างจังหวัด