โควิด-19 : ศบค.เปิดสถิติติดเชื้อจากคลัสเตอร์แค่ 25% ที่เหลือรายบุคคล-ครอบครัว ชี้ “ตลาด” เสี่ยงติดสูงสุด

ศบค.เผย “ตลาด” โอกาสติดเชื้อสูงสุด สุ่มตรวจ 32 แห่ง พบเชื้อ 6 แห่ง เจอคลัสเตอร์ใหม่ 6 จังหวัด โรงงานอื้อ ห่วงจังหวัดเป็น 0 ลดลงเรื่อยๆ เปิดสถิติติดเชื้อ จากคลัสเตอร์แค่ 25% ที่เหลือติดรายบุคคล-ครอบครัว 

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า มีการตั้งสมมติฐานว่าระหว่างชุมชน ตลาด แคมป์ก่อสร้าง และโรงงาน โดยลงไปสุ่มตรวจแล้วในชุมชน ตลาด และแคมป์ก่อสร้างว่าอะไรกลุ่มไหนเสี่ยงสูงสุด

พบว่าตลาดมีโอกาสติดเชื้อสูงสุด โดยมีเป้าหมายตรวจ 87 แห่ง ตรวจแล้ว 32 แห่ง คิดเป็น 36.8% พบเชื้อ 6 แห่ง คิดเป็น 18.75% เป็นแหล่งการติดเชื้อมาตลอด ซึ่งไม่ได้มีการปิด ส่วนแคมป์ก่อสร้าง เป้าหมาย 84 แห่ง ตรวจแล้ว 84 แห่ง พบเชื้อ 5 แห่ง คิดเป็น 5.95% และชุมชน เป้าหมาย 44 แห่ง ตรวจแล้ว 44 แห่ง พบเชื้อ 1 แห่ง คิดเป็น 2.3% ดังนั้น ตลาดใกล้ชิดชุมชนมากขอให้ช่วยกันทำให้สะอาดยิ่งขึ้น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ ได้แก่ 1.สมุทรสาคร โรงงานห้องเย็น อ.เมือง 9 ราย 2.ปทุมธานี โรงงานทำสบู่ อ.ลำลูกกา 46 ราย 3.นครปฐม โรงงานยางรถยนต์ อ.นครชยศรี 14 ราย 4.ระยอง บริษัทผลิตสายไฟ อ.ปลวกแดง 12 ราย 5.พระนครศรีอยุธยา บริษัทผลิตแผงวงจรไฟฟ้า อ.บางปะอิน 11 ราย และ 6.เพชรบุรี บริษัทแห่งหนึ่ง (ไม่ระบุ) อ.เขาย้อย 25 ราย

“ตอนนี้จังหวัดรายงาน 0 รายวันนี้มีเพียง 6 จังหวัด คือ มหาสารคาม ลำพูน ตราด ยโสธร แม่ฮ่องสอน และมุกดาหาร ถือว่าน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเดิมเคยมีถึง 20 กว่าจังหวัด ตอนนี้เหลือ 6 จังหวัด สะท้อนภาพที่พบเห็นแรงงานย้ายถิ่นกลับไป ทั้งนี้ หากมีอาการจะบ่งบอกว่าติดเชื้อขอให้แสดงตัวกับพี่น้องสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อดูแลรักษาอย่างดี ขอให้ร่วมด้วยช่วยกัน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

สถิติจากคลัสเตอร์แค่ 25%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมในวันนี้ว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,662 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 4,624 ราย มาจากเรือนจำ 10 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 28 ราย

รักษาหายเพิ่ม 2,793 ราย เสียชีวิต 36 ราย ทำให้มียอดติดเชื้อสะสม 254,515 ราย รักษาหายสะสม 205,064 ราย เสียชีวิตสะสม 1,970 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 47,481 ราย แบ่งเป็นรักษาใน รพ. 20,732 ราย รพ.สนาม 26,749 ราย มีอาการหนัก 1,846 ราย จำนวนนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 527 ราย

“ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงาน อายุอยู่ในช่วง 20-39 ปี เพราะมีการออกจากบ้านไปทำงาน มีการเดินทาง ส่วนผู้สูงอายุมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากที่สุด ตอนนี้วัคซีนที่ให้ก็เพื่อผู้สูงอายุที่ไม่ได้มีจำนวนมาก ให้รับวัคซีนก่อนเพื่อลดการป่วยหนักและการใช้เตียงจะได้ลดน้อยลง ส่วนกลุ่มวัยทำงานนำเชื้อไปหลายที่ได้ก็ต้องถูกควบคุมจึงมีการมาตรการต่างๆ ออกมา” นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า ส่วนผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศ 28 ราย ได้แก่ ซาอุดิอาระเบียและแอฟริกาใต้ ประเทศละ 1 ราย และกัมพูชา 26 ราย เข้ามตามช่องทางธรรมชาติ 8 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 36 ราย มาจาก กทม. 19 ราย นนทบุรี 7 ราย นครปฐม เชียงราย จังหวัดลพ 2 ราย สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี สงขลา ปราจีนบุรี และสมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย โดยเป็นผู้ชาย 20 ราย หญิง 16 ราย อายุต่ำสุด 41 ปี สูงสุด 93 ปี ค่าอายุกลาง 67.5 ปี โรคประจำตัวคล้ายเดิม เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัจจัยเสี่ยงติดจากครอบครัวสูงสุด ระยะอยู่ รพ. 9 วัน นานสุด 52 วัน

“ในเชิงระบาดวิทยา คนติดเชื้อไปดูตัวเลขในระบบบริการ ค้นหาเชิงรุก การติดเชื้อจากในคลัสเตอร์ต่างๆ ชุมชน โรงงาน กับติดเชื้อรายย่อย สัมผัสในครอบครัว มีการตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไร พบว่ามาจากคลัสเตอร์ 25% หรือ 1 ใน 4 แต่ 3 ใน 4 มาจากรายบุคคลในครอบครัว มาตรการที่ออกมาในคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ก็จัดการในกลุ่มหนึ่ง แต่มาตรการรายย่อย เมื่อกลับมาที่บ้าน ต้องดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างดี” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ทั้งนี้ จังหวัด 10 อันดับติดเชื้อสูงสุด ติดเชื้อเกิน 100 รายถึง 9 จังหวัด ได้แก่ 1.กทม. 1,692 ราย สะสม 70,993 ราย 2.สมุทรปราการ 647 ราย สะสม 16,569 ราย 3.สมุทรสาคร 293 ราย สะสม 7,710 ราย 4.นนทบุรี 185 ราย สะสม 11,109 ราย

5.สงขลา 182 ราย สะสม 4,288 ราย 6.ปทุมธานี 180 ราย สะสม 7,715 ราย 7.นครปฐม 168 ราย สะสม 4,090 ราย 8.ชลบุรี 146 ราย สะสม 8,216 ราย 9.ปัตตานี 143 ราย สะสม 2,109 ราย และ 10.ยะลา 89 ราย สะสม 1,733 ราย

“แนวโน้มของแต่ละจังหวัด กทม.แนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ นนทบุรีส่วนใหญ่พบจากคนมารับบริการที่ รพ. แต่แนวโน้มยังไม่สูงขึ้นมาก ปทุมธานียังทรงตัว สมุทรปราการพุ่งขึ้นชัดเจน ขอให้ช่วยกันสถานประกอบการ โรงงาน แคมป์ก่อสร้างทั้งหลาย ส่วนสมุทรสาคร เดิมลดลง แต่มิ.ย.พุ่งขึ้นมาตลอด” นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า กทม.มีคลัสเตอร์ 106 แห่ง โดยยังมีการติดเชื้อใน 14 วันจำนวน 96 คลัสเตอร์ ไม่พบการติดเชื้อรายใหม่ใน 14 วัน จำนวน 10 คลัสเตอร์ ส่วนที่ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 28 วันขึ้นไป รวมเป็น 26 คลัสเตอร์

ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด 19 สะสม 28 ก.พ. – 28 มิ.ย. ฉีดสะสม 9,416,972 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 6,721,038 ราย และเข็มสอง 2,695,934 ราย