“ไทยไม่ทน” ย้ำชุมนุม 24 มิ.ย. ขับไล่ ‘ประยุทธ์’ เป็นภารกิจหลัก ค้างคืนหรือไม่ขอดูสถานการณ์

กลุ่มไทยไม่ทน เน้นย้ำภารกิจหลัก ไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สี่โมงเย็นพรุ่งนี้ เริ่มที่สะพานผ่านฟ้าฯเตรียมเคลื่อนมาทำเนียบ ส่วนจะปักหลักค้างคืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วันที่ 24 มิถุนายน 2564 จะเป็นปฐมบทแห่งการขับไล่ พลเอกประยุทธ์

วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมไทยไม่ทน สถานีพีซทีวี (Peace TV) รามอินทรา 40 แยก33/1 กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดการชุมนุมในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นำแถลงโดย นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

นายจตุพร กล่าวว่า พรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) จะเป็นสมรภูมิที่ใหญ่ขึ้น ตนเคยบอกไว้แล้ว เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ว่าพลเอกประยุทธ์จะอยู่ไม่เกินสามเดือน นอกจากนี้ พวกตนขอประกาศว่า พวกเรายึดมั่น ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเด็นที่เราพูดถึงสถาบันฯ มีเพียงเตือน กลุ่มคนที่มักแอบอ้าง เพื่อผลประโยชน์ตนเอง เพื่อรักษาอำนาจ และอ้างเพื่อทำร้ายประชาชน รวมถึง พลเอกประยุทธ์ ที่เป็นตัวการสำคัญ เรียกได้ว่า “สถาบันฯเดือดร้อนจากพลเอกประยุทธ์”

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนเตือนหลายครั้งแล้ว ในอดีต นายกรัฐมนตรีทุกคน ยามมีวิกฤติ ควรถวายรายงาน แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ทำ จึงเป็นข้อสงสัยเรื่องความจงรักภักดี และเหล่าคนที่ปกป้องสถาบันฯมากเกินไป มักเป็น คนที่หาประโยชน์จากเรื่องนี้ รวมถึง มักมีประวัติไม่ดี ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม การอยู่หรือไป ของรัฐบาล เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของหลายภาคส่วน

นายจตุพร ยังกล่าวย้ำด้วยว่า ภารกิจหลัก เดียว คือ ขับไล่พลเอกประยุทธ์ และขอบอกกับเพื่อนพ้องนักการเมืองด้วยว่า งาช้างไม่งอกจากปากหมาฉันท์ใด ประชาธิปไตยก็ไม่งอกจากปากเผด็จการฉันท์นั้น การแก้รัฐธรรมนูญ ให้เป็นฉบับประชาชน ไม่มีทางสำเร็จ ในยุคนี้ จึงขอชวนพวกพ้องนักการเมือง ขับไล่พลเอกประยุทธ์ก่อน รวมถึง พรุ่งนี้เราจะอธิบายเรื่องทุนเหนือรัฐ อย่างไรเสีย ตนเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ออกในวันพรุ่งนี้ แต่เราต้องทำทุกวิถีทาง ให้ออกไปให้ได้ ตลอด 7ปีเศษ ท่านพอใจการบริหารงานของพลเอกประยุทธ์หรือไม่ ถ้าพอใจก็นอนอยู่บ้าน ถ้า ไม่พอใจก็ออกมา พรุ่งนี้เราจะวัดหัวใจพี่น้อง ว่าเราจะอยู่ภายใต้ระบอบประยุทธ์ต่อหรือไม่ ระบอบประยุทธ์จะอยู่ต่อไป หากคนไทยยอม ถูกกดขี่แบบนี้

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า เราจะปราศรัยอย่างเป็นระบบ แม้จะต้องแลกอะไรอีกมากมาย หลังวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ตนสามารถคุยกับทุกคนที่ไม่สามารถทนพลเอกประยุทธ์ได้ เชิญชวนร่วมกันสู้ มิเช่นนั้น เราจะถูกแบ่งแยกปกครองต่อไป อย่ากลัว โควิด 19 เมื่อเราพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง การลงถนนคือ มาตรการสุดท้าย ขอเน้นย้ำว่า เรายึดมั่นแนวทางสันติวิธีเท่านั้น ด้วย เรามีหน้าที่ส่งประเทศให้คนรุ่นลูกหลานเราอย่างดีที่สุด นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ เราไม่ได้สนใจว่าใครนายกรัฐมนตรี คนต่อไป แต่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องแก้ไขประเทศได้ หลังพลเอกประยุทธ์ออก ประชาชนต้องมีสัญญาประชาคม กำหนดว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องทำอย่างไร เพื่อรีเซ็ทประเทศไทยใหม่ ให้จงได้

หลังสี่โมงเย็น สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด ค้างคืนหรือไม่สถานการณ์กำหนด ถ้ารัฐไม่ซื่อก็อาจ ยืดเยื้อ อย่างไรประชาชนยึดสันติวิธีเท่านั้น หน้าที่รัฐบาลคือต้องจัดการไม่ให้มีมือที่สาม คิดว่าแม้มีหลายกลุ่มจัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ ก็ไม่มีปัญหา ด้วยแต่ละกลุ่มมีแนวทาง สถานที่ชัดเจน ของใครของมัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า รัฐบาลนี้เข้าสู่อำนาจด้วยคำสัญญา คืนความสุข แต่สิ่งที่ประชาชนได้ คือ คำโกหกหลอกลวง สืบทอดอำนาจ บริหารจนประเทศชิบหาย ข้ออ้างในการรัฐประหารที่ว่า เข้ามาแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น แต่เมื่อเข้าสู่อำนาจ การคอร์รัปชั่นกลับเพิ่มมากขึ้น ในฐานะองค์กรตรวจสอบคอร์รัปชั่น ภาคประชาชน เราคงจะทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ที่กบฏจะสืบทอดอำนาจ อยู่ยาว คืนความสุขให้แต่นายทุนเจ้าสัวไม่กี่ราย

นอกจากนี้ คืนนี้ (23มิ.ย.)เวลา 19.00 น. ขอเชิญชวนทุกท่าน ถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊ก บอกคนทั้งโลก ถึงเหตุผลที่ควรขับไล่พลเอกประยุทธ์ เพื่อพิสูจน์ว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรออกไป แล้วพรุ่งนี้ สี่โมงเย็น เรามีนัดกัน ที่สะพานผ่านฟ้าฯ หันหน้าเข้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ชวนคนไทยทุกคน ที่ไม่ทน เตรียมตัวเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล พรุ่งนี้พบกัน

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ตนและเครือข่ายฯในฐานะภาคประชาชน เห็นตรงกันว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นอุปสรรคของประเทศ รวบอำนาจผูกขาดเศรษฐกิจ การเมือง เอื้อนายทุนพวกพ้อง อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น เราจึงมีมติเข้าร่วม กลุ่มไทยไม่ทนฯ รวมพลังทางความคิด ก่อเป็นปรากฏการณ์แม่น้ำร้อยสาย อันเป็น “ปฐมบทแห่งการขับไล่ประยุทธ์”

ทั้งนี้ ตนคาดหวังประเทศไทย เหมือนประเทศเกาหลีใต้ เกิดมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรม หลังการต่อสู้ครั้งใหญ่ของประชาชน พร้อมยืนยันเจตนารมย์เรายืนยัน แก้ไขระบอบประยุทธ์

โดยการเดินทางของแม่น้ำร้อยสาย มีเป้าหมายหลักเดียว คือ ไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

นางณัทพัช อัคฮาด แกนนำผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภา 2553 กล่าวว่า กลุ่มผู้มีอำนาจในรัฐบาลปัจจุบัน 90% มีส่วนในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ที่สลายการชุมนุมปี 2553 ซึ่งเรากลุ่มญาติผู้เสียชีวิตฯได้ต่อสู้มาโดยตลอด 11 ปี มีคดีความมากมาย แต่ปัจจุบันหลายคดีที่เกี่ยวกับการสลายการชุมนุม ยกฟ้อง เป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ เราจึงออกมาร่วมต่อสู้ พรุ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ รัฐบาลทหาร

นายนันทพงศ์ ปานมาศ แกนนำเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า แม้ทาง เครือข่ายรามคำแหงฯ จะยังคงยึดมั่นในข้อเรียกร้อง สามข้อ แต่ในวันนี้เห็นได้ชัดว่า พลเอกประยุทธ์ คือปัญหาหลักของประเทศ เราในฐานะองค์กรของคนรุ่นใหม่ จึงขอมาร่วมขับไล่พลเอกประยุทธ์ จนกว่าจะออกไป โดยทางเครือข่ายรามฯจะรวมตัวกันเวลา 12.00 น. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อร่วมเดินทางไปสมทบกับ คณะไทยไม่ทนฯ

นายไทกร พลสุวรรณ เลขาธิการแนวร่วมอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า ต้นตอแห่งความแตกแยก ล้มเหลวในชาติ คือ พลเอก ประยุทธ์ ต่อจากนี้ เราจะไม่ยอม ให้มีการ แบ่งแยกปกครองอีกแล้ว ด้วยความสามัคคีของประชาชนทุกภาคส่วน