พรรคอธิปไตยฯ เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง เน้นอำนาจอยู่ที่ประชาชน เสนอตัวเป็นก๊กที่ 3

วันที่ 24 มิถุนายน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย (อปท.) กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานอำนาจทั้งหมดของพระองค์ให้แก่ประชาชน ไม่ได้พระราชทานให้แก่คณะใดคณะหนึ่ง หรือผู้ใดผู้หนึ่ง จึงขอแสดงความห่วงใยไปยังรัฐบาลและผู้มีอำนาจในปัจจุบันว่า ขณะนี้ประชาขนเดือดร้อนไปทั่ว ขอให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็ว ที่สำคัญขอให้สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น อย่าเลือกปฏิบัติอย่างที่เป็นอยู่ ตนเองอยู่มาจนอายุ 85 แล้ว ผ่านอะไรมามาก ยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง สำหรับคำถามที่นายกรัฐมนตรีให้ไว้ 4 ข้อนั้น ก็ขอตอบง่ายๆ ว่า ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชน ให้ประชาชนเป็นผู้แก้ อย่าคิดแทน นายกรัฐมนตรี ก็คือประชาชนคนหนึ่งเช่นกัน

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาธิการฯ และรักษาการ หัวหน้าพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย (อปท.) กล่าวว่า พรรคอธิปไตยฯ เกิดขึ้น จากการรวมตัวของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน รวมทั้ง ข้าราชการทหาร ตำรวจ ที่ต้องการสร้างอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง เรามุ่งสร้างความรู้รักสามัคคีของคนในชาติให้เกิดขึ้น กำจัดความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความไม่ยุติธรรมให้หมดสิ้น มุ่งธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมุ่งทำให้แผ่นดินนี้เป็นของพี่น้องคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง ซึ่งทางออกมีทางเดียว คือ ต้องทำให้อำนาจมาจากข้างล่างขึ้นสู่ข้างบน และเสียงของพี่น้องประชาชนต้องเป็นใหญ่เท่านั้น

ต่อข้อถามถึงการดำเนินการของพรรคฯ นาวาอากาศเอก (พิเศษ) คัมภีร์ กล่าวว่า พรรคอธิปไตยฯ เป็นเหมือน สหพรรค กลุ่ม แก็งค์ หรือ แล้วแต่อะไรก็ตามที่ท่านอยากจะเรียก เราคือก๊กที่ 3 ไม่ใช่ก๊กของทหาร หรือ ก๊กของกลุ่มการเมืองเดิม เราเป็นก๊กของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หลายท่านถามว่าทำไมเราถึงออกมาต่อสู้เพื่อพี่น้องกลุ่มนั้นกลุ่มนี้หลายครั้ง ถึงแม้ขณะนี้พรรคยังไม่ได้จดทะเบียน และถูกห้ามทำกิจกรรมด้านการเมือง ไม่กลัวหรือ ก็ต้องบอกว่า ที่รัฐบาลทำในขณะนี้ ล้วนเป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น

“พรรคอธิปไตยฯ มีความมุ่งมั่นอย่างบริสุทธิ์ใจ ที่จะมุ่งทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อพี่น้องประชาชน เมื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นคนในครอบครัวไม่ว่าจะอยู่กับฝ่ายไหนเดือดร้อนไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล เราก็ต้องออกมาช่วยเหลือ ถ้าเป็นท่านบ้าง ท่านกำลังจะตายจะให้ทำอย่างไร จะปล่อยให้นอนตายรับชะตากรรมหรือ ต้องเรียนว่าเราทนอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ขณะนี้มีเรื่องพี่น้องร้องเรียนมาเยอะมาก ซึ่งเราก็พยายามช่วยเหลือเท่าที่เราจะทำได้ อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณรัฐบาลแทนพี่น้องประชาชนรวมทั้งพี่น้องทหารผ่านศึกบางส่วน ที่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาตามที่เราได้ร้องเรียนและต่อสู้ผลักดันไป สุดท้ายผมขอฝากถึงรัฐบาลว่า ครอบครัวประเทศไทยของเราเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ เป็นสังคมหลากหลาย แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกคนมีสิทธิ์เสรีภาพเท่าเทียมกัน มีความชำนาญแตกต่างกัน กล่าวง่ายๆ คือเก่งคนละด้าน อย่ากล่าวโทษว่าคนนั้นคนนี้ไม่รักชาติ รักแผ่นดิน เพราะผมเชื่อว่า คนไทยทุกคนรักประเทศนี้ และขอให้ท่านพึงระลึกว่า อำนาจสูงสุดอยู่ที่พี่น้องประชาชนทุกคนเท่านั้น”นาวาอากาศเอก (พิเศษ) คัมภีร์ กล่าว